แดนนิรมิตเทพ – บทที่ 568

บทที่ 568

แดนนิรมิตเทพ บทที่ 568
“เกิดอะไรขึ้น? นายจงใจเดินวนหรอ!” ฉินกวนไห่สีหน้าเยือกเย็น แสดงเจตนาฆ่าออกมา

ฉู่เหวินสงรีบอธิบาย “ไม่ใช่ครับ ที่นี่ถูกเฉินไต้ซือวางค่ายกลหลงทางไว้ คนนอกเข้าไปได้ยากมาก ไม่เชื่อคุณสามารถถามพวกเขาได้ครับ!”

ฉินกวนไห่กวาดมองคนอื่น แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “ใช่อย่างนั้นหรอ?”

“เป็นเช่นนั้นจริงๆครับ ไม่อย่างนั้นทะเลสาบกลับคืนรังคงจะไม่มีคนเคยมาน้อยเช่นนี้หรอกครับ หากว่าคุณไม่เชื่อ ลงเขาไปถามใครสักคนก็รู้เองครับ!” เจี่ยจิ้งอานพูดยิ้มๆ

แววตาของฉินกวนไห่มองสลับที่ฉู่เหวินสงและเจี่ยจิ้งอาน แล้วพูดเยาะว่า “ตกลง ฉันเชื่อพวกนาย ฉันจะเข้าไปสัมผัสประสบการณ์ค่ายกลหลงทางของเฉินไต้ซือดูสักหน่อย!”

“พวกนายตามฉันมา!”

ฉินกวนไห่หันหลัง แล้วเดินเข้าไปในหมอกอีกครั้ง

เฉินโม่ไม่ได้วางค่ายกลหลงทางไว้ นี่คือฟังก์ชันการป้องกันตัวของค่ายกลรวมทิพย์โคจรมหาจักรวาล ดังนั้นค่ายกลหลงทางจึงสามารถขวางนักบู๊ที่ระดับต่ำกว่าปรมาจารย์และพวกคนธรรมดา ส่วนสำหรับปรมาจารย์ก็ไร้ความสามารถแล้ว

ความสามารถของฉินกวนไห่ เข้าสู่แดนปรมาจารย์ตั้งแต่สิบปีก่อนแล้ว หกาเมื่อเขาจริงจังขึ้นมา ค่ายกลหลงทางก็ไม่สามารถขวางเขาไว้ได้

ฉินกวนไห่นำทางกลุ่มผู้คน ไม่นานก็เดินออกจากหมอก มาจนถึงตรงหน้าของทะเลสาบกลับคืนรัง

“ฮ่าๆ ก็แค่ค่ายกลหลงทาง จะสามารถขวางฉันไว้ได้? คฤหาสน์ที่พวกนายหมายถึง คือที่นี่ใช่หรือเปล่า?” ฉินกวนไห่มองฉู่เหวินสงแล้วเอ่ยถาม

ฉู่เหวินสงรู้สึกสิ้นหวัง ตอบอย่างจนใจว่า “ที่นี่แหละครับ!”

“ดี ตามฉันเข้าไป!”

ฉินกวนไห่ถีบประตูใหญ่เปิดออก แล้วพาพวกผู้มีอิทธิพลเดินเข้าคฤหาสน์

ภายในคฤหาสน์ ยังมีค่ายกลรวมทิพย์อีกหนึ่งชั้น พลังชี่ทิพย์ของที่นี่เข้มข้นมากกว่าของด้านนอก

ฉินกวนไห่สูดหายใจเข้าลึกๆ สีหน้าเต็มไปด้วยความอิจฉา “พลังชี่ทิพย์ที่เข้มข้นมาก เป็นสถานที่ล้ำค่าจริงๆ แววตาของเจ้าเฉินไต้ซือโง่นั่นดีจริงๆ!”

“ใครกันถึงได้กล้ามาวุ่นวายที่นี่!”

เสียงเบาเสียงหนึ่งดังขึ้น เงาร่างของสาวชุดแดงสองคนลอยออกมา แล้วหยุดลงตรงหน้าทุกคน

แววตาของฉินกวนไห่มีความตะลึง “เด็กสาวที่สวยงามจริงๆ!”

ซังซังมองฉู่เหวินสงอย่างโมโห ตะคอกเสียงเย็นชาว่า “ฉู่เหวินสง พวกแกใจกล้าจริงๆ ถึงได้กล้าพาคนมาวุ่นวายที่นี่!”

ฉู่เหวินสงรีบส่งสายตาให้กับซังซังและเอียนชิงเฉิง แต่ทั้งสองคนเหมือนว่ามองไม่เห็น ไม่คิดอยากจะสนใจ

สายตาของฉินกวนไห่สำรวจมองซังซังและเอียนชิงเฉิง แล้วพูดอย่าตะลึงว่า “คนหนึ่งอายุยังน้อยก็อยู่ระดับแดนในชั้นสูงสุด เป็นอัจฉริยะจริงๆ ส่วนอีกคนแม้แต่ฉันยังดูพลังบำเพ็ญไม่ออก ช่างน่าสนใจจริงๆ!”

“พวกเธอคงจะได้รับผลประโยชน์จากพลังชี่ทิพย์ที่เข้มข้นแห่งนี้แน่นอน หากว่าฉันย้ายสำนักใหญ่ของสำนักโยวหลานมาที่นี่ เพียงไม่กี่ปี สำนักของเราก็จะได้กลายเป็นสำนักใหญ่อันดับหนึ่งในโลกฝึกบู๊แน่นอน”

ฉินกวนไห่รู้สึกตื่นเต้น แต่แล้วก็รีบหยุดจินตนาการ แล้วมองพวกเอียนชิงเฉิงทั้งสองคนอย่างเย็นชา “พูดมา พวกเธอเป็นอะไรของเฉินไต้ซือ”

ซังซังยิ้มเยาะ “ไม่ใช่เรื่องของนาย รีบไปจากที่นี่ซะ ไม่อย่างนั้นอย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ!”

“ไม่เกรงใจ? น่าสนใจจริงๆ!”

เพิ่งพูดจบ ร่างของฉินกวนไห่ก็หายไป วินาทีต่อมา ก็ได้ปรากฏอยู่ตรงหน้าของซังซังแล้ว

“ระวัง!”

เอียนชิงเฉิงที่อยู่ข้างกายอุทานอย่างตกใจ กระบี่ไม้ในมือพุ่งใส่ฉินกวนไห่รวดเร็วดั่งสายฟ้า

ฉินกวนไห่รู้สึกได้ถึงกลิ่นอายของความอันตราย จึงรีบถอยร่างหลบ ยืนนิ่งกับที่มองไปที่เอียนชิงเฉิง แล้วพูดอย่างประหลาดใจว่า “กระบี่ไม้? พอมีฝีมือ!”

“เธอเองก็มีพลังบำเพ็ญระดับแดนในชั้นสูงสุด แต่กระบี่นี้ของเธอกลับทำให้ฉันรู้สึกได้ถึงอันตราย จะต้องเป็นกระบวนท่ากระบี่ที่เก่งกาจแน่นอน พูดมาสิ ว่าอาจารย์ของเธอคือใคร?”

ใบหน้าสวยงามของเอียนชิงเฉิงเย็นยะเยือก น้ำเสียงเรียบเฉย “นายไม่จำเป็นต้องรู้!”

“หงส์รำลอยฟ้า!”

เพลงกระบี่หงส์ฟ้าที่เฉินโม่สืบทอดให้กับเอียนชิงเฉิง เอียนชิงเฉิงเชี่ยวชาญกระบวนท่าแรกหงส์รำลอยฟ้าแล้ว แม้ว่าเธอจะมีพลังบำเพ็ญเพียงแค่แดนในชั้นสูงสุด แต่มีสายเลือดของหงส์ฟ้า เมื่อใช้งานเพลงกระบี่ท่านี้ จึงมีความน่ากลัวเช่นกัน เทียบเท่าได้กับปรมาจารย์

แดนนิรมิตเทพ

แดนนิรมิตเทพ

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท