แดนนิรมิตเทพ บทที่ 593
ปัง!
เสียงดังสนั่น เหมือนดั่งว่าทั้งเนินเขาวิหคจอดสั่นสะเทือน
จุดกลางที่ทั้งสองต่อสู้กัน ผลกระทบอย่างรุนแรงขยายไปทั่วรอบข้างเหมือนดั่งระลอกคลื่น ระยะขอบเขตร้อยเมตรถูกกวาดล้างจนโล่ง
พวกลูกศิษย์สำนักโยวหลานที่มีพลังบำเพ็ญไม่ถึงระดับแดนใน ต่างก็ถูกกระทบจนเซถอยหลังไปหลายก้าว ถึงขั้นไม่สามารถลืมตาขึ้นมาได้
“ท่านอาจารย์ไม่เคยแพ้การต่อสู้ เฉินไต้ซือต้องตายแน่นอน!”
ถึงแม้จะมองไม่เห็นผลลัพธ์ แต่พวกลูกศิษย์ก็ยังไม่ลืมที่จะพูดเยินยอ
แต่ว่า เมื่อระลอกคลื่นแรงกระทบหายไป ทุกคนลืมตาขึ้น ชั่วขณะนั้นต่างก็อึ้งตะลึงกันหมด
ฉินกวนไห่ล้มลงกับพื้นโดยมีเลือดเต็มตัว ส่วนเฉินโม่นั้นยืนอยู่กับที่ด้วยสีหน้าเรียบเฉย เห็นถึงผลการแพ้ชนะ!
“นี่มัน…..”
พวกลูกศิษย์มองดูเฉินโม่ด้วยสีหน้าหวาดกลัว รู้สึกใบหน้าร้อนผ่าว ละอายใจอย่างที่สุด และพูดอะไรไม่ออกอีก
ฉินกวนไห่แข็งแกร่งมากเพียงใด ทุกคนต่างก็รับรู้ ถึงแม้พลังของระดับปรมาจารย์ขึ้นไป พวกลูกศิษย์ส่วนมากจะไม่รู้อะไรมาก แต่ท่านจินผู้อยู่ระดับใกล้แดนแปรภาพ ก็สามารถสู้ไหวเพียงสามกระบวนท่าเท่านั้น
แต่ตอนนี้ฉินกวนไห่กลับแพ้ราบคาบในกระบวนท่าเดียว เฉินไต้ซืออายุน้อยตรงหน้าคนนี้ แข็งแกร่งมากถึงเพียงไหนกัน?
หยวนชิงซานสีหน้าตกตะลึง เขาสัมผัสรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าพลังของเฉินโม่แข็งกว่าตอนที่ฆ่างูเกล็ดแดงทิพย์ในพระราชวังใต้ดินเป็นอย่างมาก ดูแล้วที่ช่วงนี้เฉินโม่ไม่ปรากฏตัวออกมา คงจะปลีกวิเวกฝึกฝนอยู่ในทะเลทรายตะวันตกเฉียงเหนืออย่างแน่นอน
ท่านจิน เอียนชิงเฉิงและซังซัง แววตาที่มองไปยังเฉินโม่เองก็เต็มไปด้วยความตะลึงอย่างซ่อนไม่อยู่
สองมืองามดั่งหยกของเอียนชิงเฉิงแอบกำแน่นขึ้น ภายในใจมีความรู้สึกพ่ายแพ้ “เดิมทีคิดว่าการที่ฉันฝึกฝนอย่างหนักเช่นนี้ ใกล้จะเทียบเคียงกับเขาได้แล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าระยะห่างระหว่างฉันกับเขา จะห่างไกลกันมากเช่นนี้!”
ภายในใจท่านจินนอกจากจะตกตะลึงแล้ว ยังมีความรู้สึกดีใจอยู่ด้วย ยังดีที่เขาเลือกอยู่ข้างเฉินโม่อย่างหนักแน่นมาตลอด ไม่อย่างนั้นจากพลังของเฉินโม่ในตอนนี้ หากต้องการทำลายเพียงมือเดียวของเฉินโม่ก็สามารถจัดการตระกูลจินได้ราบคาบ!
เฉินโม่หันไปมองกงซุนจื่อยิงที่หน้าซีดตัวสั่น ในแววตาของเขามีความรังเกียจรำคาญ
“ตอนนั้นที่ฉันไว้ชีวิตเธอ ดูแล้วฉันคงจะใจอ่อนมากเกินไปสินะ”
กงซุนจื่อยิงกลัวจนคุกเข่าลงพื้น ความแข็งแกร่งของเฉินโม่สร้างความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือนไว้ในใจของเธอแล้ว ตั้งแต่วันนี้ไปเธอไม่กล้ามีความคิดที่จะต่อต้านใดๆอีก
แต่เฉินโม่ไม่คิดที่จะไว้ชีวิตเธอ เพียงแค่ชี้นิ้วออกไป กงซุนจื่อยิงก็สิ้นชีวิตในทันที
พวกลูกศิษย์สำนักโยวหลานตกใจกลัวจนรีบคุกเข่าลงพื้น แล้วคำนับให้กับเฉินโม่ “เฉินไต้ซือไว้ชีวิตด้วยครับ พวกผมไม่เคยมีปัญหากับคุณ แต่อาจารย์ของพวกผมเป็นคนสั่งให้พวกผมมาที่นี่เองนะครับ!”
หยวนชิงซานก้าวไปข้างหน้า โค้งคำนับและพูดว่า “ศิษย์พี่ของข้าได้รับโทษตายไปแล้ว ขอเฉินไต้ซือโปรดเมตตา ไว้ชีวิตสำนักเราด้วยครับ!”
“ผมสาบานว่าชีวิตนี้สำนักโยวหลานจะเคารพเฉินไต้ซือเป็นใหญ่เพียงผู้เดียว ขอเฉินไต้ซือโปรดไว้ชีวิตด้วยครับ!”
พวกลูกศิษย์ต่างรีบพูดสมทบว่า “ใช่ครับๆ พวกผมสาบาน ว่าต่อไปจะเคารพเฉินไต้ซือ ท่านสั่งให้พวกผมไปทางซ้าย พวกผมจะไม่ไปทางขวาเด็ดขาด ขอเฉินไต้ซือโปรดไว้ชีวิตด้วยครับ!”
เฉินโม่เองก็ไม่ได้คิดจะฆ่าล้างทั้งหมด คนพวกนี้ล้วนเป็นคนต่ำต้อยที่มีหรือไม่มีตัวตนก็ได้ จะฆ่าหรือไม่ฆ่าก็ไม่มีความสำคัญใดๆ
“เห็นแก่ที่เราเคยเข้าสู่ทะเลแห่งความตายด้วยกันมา ฉันจะให้เกียรติเจ้า พาพวกเขากลับไปซะ!หากมีครั้งหน้าอีก ฉันจะไม่อ่อนข้อให้เด็ดขาด!”
หยวนชิงซานดีใจอย่างมาก รีบทำความเคารพ “ขอบคุณเฉินไต้ซือมากครับ!”
พวกลูกศิษย์โล่งใจ ต่างก็รีบก้มหัวคำนับและพูดว่า “ขอบคุณเฉินไต้ซือมากครับ!เฉินไต้ซือเก่งกาจไปทั่วหล้า ขอให้อายุยืนยาวครับ!”
เฉินโม่รีบโบกมือ ให้พวกประจบสอพลอพวกนี้รีบพาศพของฉินกวนไห่และกงซุนจื่อยิงจากไปซะ
หยวนชิงซานพาพวกลูกศิษย์จากไป เฉินโม่จึงไปเดินเล่นสำรวจรอบด้าน รูปแบบของคฤหาสน์ถูกฉินกวนไห่ปรับเปลี่ยนไปมาก แต่เมื่อเทียบกับก่อนหน้านี้แล้วยิ่งดูเหมาะสมสะดวกสบายมากขึ้น