แดนนิรมิตเทพ บทที่ 596
หลี่ตงหยางน้ำเสียงเย็นชา “เจียงเหอซาน ฉันไล่ลูกทรพีคนนั้นออกจากตระกูลหลี่ไปนานแล้ว ทุกสิ่งอย่างที่มันทำไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกับตระกูลหลี่!”
“ทุกอย่างที่ฉันเสนอ ล้วนมองจากจุดยืนของประเทศ นายอย่าได้เอาความคิดชั่วร้ายของตัวเองมากล่าวหาผู้อื่น!”
เจียงเหอซานยิ้มเล็กน้อย “ผู้นำหลี่ไม่จำเป็นต้องร้อนรนเช่นนี้ ผมก็แค่พูดไปตามเรื่องราวเท่านั้น”
หลี่ตงหยางถลึงตาใส่เจียงเหอซาน แล้วพูดอย่างมีความชอบธรรมว่า “ประเทศมีกฎหมาย บ้านมีกฎระเบียบ ถึงแม้ตระกูลว่านจะหาเรื่องก่อน ยังไงก็มีกฎหมายจัดการ ไม่จำเป็นต้องให้คนโลกฝึกบู๊มาทำเรื่องเกินหน้าที่ของตัวเอง! หากว่าอนาคตคนโลกฝึกบู๊ต่างทำเช่นนี้กันหมด อย่างนั้นโลกก็วุ่นวายโกลาหลสิ!”
เจียงเหอซานไม่พูดอะไรอีก แต่ในสายตาที่มองหลี่ตงหยางกลับมีความดูถูก
ผู้นำคนนั้นพยักหน้าเล็กน้อย สีหน้าไม่มีอารมณ์ใดๆ ดูไม่ออกว่ากำลังคิดอะไรอยู่ “ยังมีใครมีความคิดเห็นต่างกันอีกมั้ย?”
ไม่มีใครพูดจา ต่างก้มหน้าเงียบเหมือนดั่งพระจำศีล
“ในเมื่อไม่มีความเห็นอื่นอีก อย่างนั้นการจัดการเรื่องในฮ่านหยาง ก็ใช้วิธีการของผู้นำหลี่จัดการก่อน”
ผู้นำหลี่รวมทั้งผู้นำตระกูลอีกห้าตระกูลมหาอำนาจต่างเงยหน้าขึ้น ฉีกยิ้มมุมปาก
เจียงเหอซานขมวดคิ้วเล็กน้อย มองดูผู้นำคนนั้น ในแววตามีความสงสัย
“คุณท่านฉลาดหลักแหลม!” หลี่ตงหยางพนมมือพูด
ผู้นำคนนั้นก็ยังสีหน้าเฉยชาเหมือนเดิม “แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ จะต้องจัดการอย่างระมัดระวัง อีกสามวันค่อยตัดสินใจแผนการจัดการสุดท้าย”
หลี่ตงหยางขมวดคิ้ว มองดูผู้นำคนนั้น นึกคิดบางอย่าง
ผู้นำตระกูลมหาอำนาจคนอื่นเองก็มีแววตาสับสน
“ทุกท่านยังมีอะไรอยากจะเพิ่มเติมอีกมั้ย?” คนผู้นั้นกวาดมองทุกคน แล้วเอ่ยถามนิ่งๆ
ไม่มีใครพูดอะไร
“อย่างนั้นก็เลิกประชุม!” คนผู้นั้นลุกขึ้นยืนแล้วพูด
ยานจิง จงหนานไห่ ที่พักของคนผู้นั้น
เจียงเหอซานถูกชายหนุ่มคนหนึ่งลากเข้าไปในที่พักของคนผู้นั้น
คนผู้นั้นกำลังยืนอยู่ตรงหน้าต่าง มองดูที่แสนไกล
เจียงเหอซานโค้งคำนับให้กับแผ่นหลัง พูดว่า “ท่านครับ!”
คนผู้นั้นหันหลัง ท่าทางอ่อนโยนกว่าตอนอยู่ในรัฐสภา พูดด้วยรอยยิ้มว่า “น้องเหอซาน เชิญนั่ง!”
“ขอบคุณครับท่าน!” เมื่อคนผู้นั้นนั่งลงแล้ว เจียงเหอซานถึงได้นั่งลงอย่างเรียบร้อย
เจียงเหอซานพนมมือ แล้วเริ่มพูดก่อนว่า “ท่านเรียกผมมา เพื่อเรื่องของเมืองฮ่านหยางสินะครับ!”
คนผู้นั้นพยักหน้า บนใบหน้ามีความกังวล มองเจียงเหอซานแล้วพูดว่า “ลองบอกความคิดเห็นของนายมาสิ!”
น้ำเสียงอ่อนโยน สุภาพ ทำให้ผู้คนมีความรู้สึกมิอาจปฏิเสธได้
ราวกับวว่าเจียงเหอซานมีการเตรียมตัวมาก่อน เอ่ยปากพูดโดยไม่ลังเลว่า “หลายปีมานี้ อำนาจของตระกูลมหาอำนาจเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แอบมีแนวโน้มราวกับสามารถควบคุมนโยบายประเทศได้ ครั้งนี้ก็ก่อเรื่องราวใหญ่โตเพียงเพราะเรื่องเล็กน้อยของเมืองฮ่านหยาง ผมคิดว่าเรื่องราวแฝงในนี้ ไม่ได้ธรรมดาอย่างที่เห็นครับ!”
คนผู้นั้นพยักหน้า “พูดต่อสิ!”
เจียงเหอซานพูดว่า “คนที่ชื่อว่าเฉินโม่คนนั้น ได้ยินมาว่ายังเรียนแค่มัธยมหกเท่านั้น มีอายุเพียงสิบแปดปี เป็นหลานชายแท้ๆของหลี่ตงหยาง เคยฆ่ายอดฝีมือปรมาจารย์มามากมาย ความสามารถที่แท้จริงมิอาจคาดเดาได้ครับ!”
คนผู้นั้นถอนหายใจ พูดว่า “เป็นเพราะเช่นนี้แหละ ในการประชุมวันนี้ ฉันถึงได้กดเรื่องนี้ลงชั่วคราว!”
คนผู้นั้นเงยหน้ามองเจียงเหอซาน พูดด้วยความจริงจังว่า “น้องเหอซาน ปรมาจารย์อายุสิบแปดปี นายรู้ไหมว่าหมายความว่าอย่างไร?”
เจียงเหอซานสีหน้ากังวล “ทราบครับ แม้หยางติ่งเทียนในตอนนั้นเทียบกับเขาก็ยังเทียบไม่ติด! หากว่าให้เวลาเขาเติบโตอีกไม่กี่ปี คาดว่าเบื้องหลังผู้สนับสนุนหกตระกูลมหาอำนาจเองก็คงต้องหวาดกลัวด้วยเช่นกันครับ!”
“พวกหลี่ตงหยางคงจะเห็นว่าเด็กคนนั้นมีอนาคตก้าวไกล แล้วยังมีความแค้นกับตระกูลหลี่ของเขาอีกด้วย ดังนั้นจึงคิดอยากจะฆ่าล้างอัจฉริยะนักบู๊คนนี้ซะ”
คนผู้นั้นหัวเราะ “ใช่แล้ว ได้ยินมาว่าเขายังมีสัญญาสามปีกับตระกูลหลี่ไว้ด้วย หากว่ายังปล่อยให้เติบโตต่อไปเช่นนี้ หลี่ตงหยางคงจะอยู่ไม่เป็นสุขแน่นอน”
เจียงเหอซานเองก็หัวเราะ สีหน้าหยอกล้อ “คาดว่าตอนนี้หลี่ตงหยางคงจะเสียใจแทบตายแล้วละครับ เขาไล่อัจฉริยะคนหนึ่งออกจากตระกูลหลี่ด้วยตัวเอง!”