แดนนิรมิตเทพ บทที่ 591
ฉินกวนไห่มองเฉินโม่ มีความตกใจเล็กน้อย “นายคือเฉินไต้ซือ?”
“ก็แค่เจ้าเด็กน้อยคนหนึ่งนี่นา แต่ช่างกล้าเรียกแทนตนว่าไต้ซือ!”
เฉินโม่เหลือบมองเขา ไม่ได้สนใจอะไร แต่หันมาหยิบยาเสริมจิตให้กับท่านจินกิน
ท่านจินลุกขึ้นยืน ไอออกมาสองที พนมมือและยิ้มขมขื่น “เฉินไต้ซือ บุญคุญที่ผมติดค้างคุณไว้ ชาตินี้คงจะคืนไม่หมดแล้วละครับ!”
เฉินโม่พูดว่า “ท่านจินไม่ต้องเกรงใจ ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพราะฉัน ให้ฉันมาจบสิ้นมันเองเถอะ!”
เฉินโม่หันหลังไปจ้องมองฉินกวนไห่อย่างเย็นชา “รังแกเพื่อนของฉัน ยึดครองคฤหาสน์ของฉัน นาย ไม่มีอะไรอยากจะพูดกับฉันงั้นหรอ?”
ฉินกวนไห่เงยหน้าหัวเราะ “ตลก นายทำลายพลังบำเพ็ญของลูกศิษย์ฉัน ฉันยังไม่ได้คิดบัญชีกับนายเลย แต่นายกลับมาต่อว่าฉันเนี่ยนะ!”
“อีกอย่าง สถานที่ที่มีพลังทิพย์มากมายเช่นนี้ มีไว้ให้กับสำหรับผู้เป็นใหญ่เท่านั้น มีสิทธิ์อะไรมาบอกว่าเป็นของนาย!”
ในเวลานี้ ลูกศิษย์สำนักโยวหลานที่แยกย้ายกันฝึกฝนอยู่ด้านข้าง เมื่อได้ยินเสียงดังโหวกเหวก จึงต่างพากันรีบมา
ผู้นำคนแรก ก็คือหยวนชิงซาน
เมื่อมองเห็นเฉินโม่ หยวนชิงซานที่กำลังรีบวิ่งมาถึงกับสะดุดจนเกือบล้ม
“ศิษย์พี่ ในเมื่อเฉินไต้ซือยังไม่ตาย งั้นพวกเรารีบคืนสถานที่แห่งนี้ให้กับเฉินไต้ซือแล้วกลับภูเขาโยวหลานกันเถอะครับ!”
หยวนชิงซานยืนอยู่ข้างกายฉินกวนไห่ โค้งคำนับพูดออกมาอย่างวิงวอนขอร้อง
แล้วหันหลังไปทำความเคารพให้กับเฉินโม่ “เฉินไต้ซือ พวกเราถูกข่าวลือหลอกลวง ไม่ได้จงใจอยากจะล่วงเกิน หวังว่าคุณจะให้อภัยครับ!”
“หากว่าเฉินไต้ซืออนุญาต พวกเราจะรีบจากไปกันทันทีครับ”
เฉินโม่ยังไม่ทันได้พูดอะไร ฉินกวนไห่กลับตะคอกต่อว่าก่อนแล้ว “บังอาจ หยวนชิงซาน สำนักโยวหลานนายเป็นคนตัดสินใจหรือว่าฉัน? นายกำลังนกต่อสองหัวอยู่!”
พวกลูกศิษย์ต่างก็มองศิษย์ลุงคนนี้อย่างเย็นชา หลายวันมานี้พวกเขาฝึกฝนอยู่ที่นี่แล้วได้ผลตอบแทนคุ้มค่ามาก รู้สึกขาดที่นี่ไม่ได้แล้ว
การกระทำเช่นนี้ของหยวนชิงซาน ทั้งสำนักโยวหลานต่างก็ไม่เห็นด้วย
หยวนชิงซานร้อนรนจนแทบอยากจะควักหัวใจออกมาให้ฉินกวนไห่ดู เพื่อแสดงออกถึงความซื่อสัตย์ของตัวเอง
“ศิษย์พี่ ผมทำแบบนี้ไม่ใช่นกต่อสองหัว แต่เพื่อช่วยเหลือสำนักโยวหลานของเราไว้นะครับ!”
“พลังของเฉินไต้ซือ ไม่ใช่สิ่งที่พี่จะคาดคิดได้! ศิษย์พี่ ฟังคำแนะนำของผมเถอะครับ ขอโทษเฉินไต้ซือ แล้วพวกเราก็รีบไปกันเถอะครับ!”
ดวงตาของฉินกวนไห่ถลึงตาโต แล้วตะคอกว่า “พอแล้ว!”
“หยวนชิงซาน หากว่าไม่ได้เห็นแก่ว่าเคยเป็นศิษย์พี่น้องกัน แล้วนายพูดจาแบบนี้ฉันคงใช้กฎสำนักลงโทษไปนานแล้ว! ในเมื่อนายมั่นใจในตัวมันเช่นนั้น นายก็ยืนดูอยู่ข้างๆ ว่าฉันฆ่ามันทิ้งได้ยังไง!”
“ศิษย์พี่ ขอให้คิดให้ดีก่อนนะครับ!” หยวนชิงซานโค้งคำนับ น้ำเสียงวิงวอนขอร้อง
“ถอยไปซะ!” ฉินกวนไห่ตะคอก ไม่ให้ค่าสักนิด หลายวันมานี้ราบรื่นมาโดยตลอด ความมั่นใจของเขายิ่งอยู่ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
เขารู้สึกว่าหยวนชิงซานกำลังชื่นชมคนอื่นและดูถูกกำลังของตัวเอง และสถานที่ที่มีพลังชี่ทิพย์มากมายอย่างทะเลสาบกลับคืนรังเช่นนี้ ทั่วทั้งหัวเซี่ยยังหาได้ยาก แล้วเขาจะยอมถอยได้ยังไงกัน?
หยวนชิงซานหลับตาลงอย่างจนใจ แล้วถอยกลับไปด้านข้างด้วยสีหน้าสิ้นหวัง
ฉินกวนไห่มองเฉินโม่ แววตาดูถูกเหยียดหยาม แล้วแสยะยิ้ม “มันก็แค่เด็กน้อยคนหนึ่ง ถึงแม้จะเริ่มฝึกฝนตั้งแต่เกิด อย่างมากที่สุดก็แค่เพิ่งเข้าระดับแดนแปรภาพเท่านั้น ถึงแม้มันจะมีเครื่องรางที่สุดยอดมากชิ้นหนึ่ง แต่เมื่อเทียบกับฉันแล้ว ยังห่างไกลอีกมาก!”
พวกลูกศิษย์ต่างรีบประจบ “เจ้าสำนักต่อสู้ไม่เคยแพ้ เฉินไต้ซืออยู่ต่อหน้าท่านแล้วก็เป็นเหมือนดั่งแค่มดเท่านั้นครับ!”
ฉินกวนไห่ถูกพวกลูกศิษย์ประจบจนรู้สึกว่าตัวเองเป็นใหญ่เพียงคนเดียวในโลก หันมองเฉินโม่ด้วยสีหน้าเหยียดหยาม “เจ้าหนุ่ม แกยังไม่ตอบฉันเลย? นายมีสิทธิ์อะไรมาพูดว่าที่นี่คือของนาย นายเรียกมันดูสิ ดูว่ามันตอบนายมั้ย? ฮ่าๆๆ….”
พวกลูกศิษย์ให้ความร่วมมือกับฉินกวนไห่ ต่างส่งเสียงเยาะเย้ยล้อเลียนออกมา