แดนนิรมิตเทพ บทที่ 612
“เฉินโม่ยังไม่มา แล้วพวกเราจะเพิ่มเดิมพันได้อย่างไร? การเพิ่มเดิมพันต้องได้รับความยินยอมจากทุกฝ่าย” เพื่อนนักเรียนคนหนึ่งกล่าว
จางเฉียงกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “พวกเราปรึกษาหารือก่อน อีกสักครู่ถ้าเขามาแล้ว ก็ถามเขาว่าเห็นด้วยหรือไม่”
“วิธีนี้ก็โอเคอยู่ แต่จะเดิมพันอะไร?” นักเรียนบางคนเริ่มคิดหนัก
จางเฉียงเหลือบมองเจิ้งซิ่วลี่และกล่าวว่า “ถึงแม้ว่าเฉินโม่ยังมาไม่ถึง แต่หัวหน้าห้องอยู่ที่นี่แล้ว ผมคิดว่าหัวหน้าห้องเหมาะสมที่จะเป็นคนเสนอเดิมพันมากที่สุด!”
“ถูกต้อง ให้หัวหน้าห้องเป็นคนเสนอ!” เพื่อนนักเรียนตะโกน
เจิ้งซิ่วลี่ไม่รู้ว่าจางเฉียงจะเล่นไม้ไหน แต่เธอรู้ว่าการกระทำของจางเฉียงเป็นประโยชน์ต่อเธออย่างแน่นอน
ตอนนี้ดูเหมือนว่าจางเฉียงต้องการใช้พลังของทุกคน เพื่อทำให้เฉินโม่อับอายขายหน้ามากยิ่งขึ้น
“หัวหน้าห้อง บอกมาเถอะว่าจะเดิมพันอะไร?” จางเฉียงกล่าวอย่างสุภาพ ความชั่วร้ายประกายอยู่ในดวงตา
เจิ้งซิ่วลี่แกล้งทำเป็นปฏิเสธ “ฉันคิดว่าไม่ต้องแล้ว อีกอย่าง ถึงแม้ว่าพวกเราจะเพิ่มเดิมพัน แต่เฉินโม่อาจไม่กล้าตกลง ช่างมันเถอะ!”
“หัวหน้าห้อง เฉินโม่ยังมาไม่ถึง แล้วเธอรู้ได้ยังไงว่าเขาไม่กล้าตกลง?” เจี่ยงหยาวไม่ชอบการเสแสร้งของเจิ้งซิ่วลี่ ดังนั้นเธอจึงโต้กลับ
ดวงตาของเจิ้งซิ่วลี่ประกายความปีติยินดี เพราะแผนการของตนเองประสบความสำเร็จแล้ว เธอกำลังรอให้เจี่ยงหยาวออกหน้าแทนเฉินโม่ มิเช่นนั้นเธอจะรู้สึกเกรงใจที่เดิมพัน
“เจี่ยงหยาว ทุกคนต่างก็รู้ว่าเธอสนิทกับเฉินโม่ แต่การเดิมพันต้องให้เจ้าตัวยินยอม เธอไม่สามารถตัดสินใจแทนได้!” เจิ้งซิ่วลี่กล่าวด้วยสีหน้าเย้ยหยัน
เจี่ยงหยาวเป็นคนที่ไม่มีเล่ห์เหลี่ยม แน่นอนว่าเธอตกหลุมพรางแล้ว เธอออกหน้าพูดแทนเฉินโม่ต่อไปว่า “ถึงแม้ว่าฉันจะตัดสินใจแทนไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพี่เฉินโม่จะไม่กล้าเดิมพันกับเธอ โปรดถอนคำพูดที่เธอพูดเมื่อสักครู่ด้วย!”
สีหน้าของเจิ้งซิ่วลี่ยังคงไม่เปลี่ยน และกล่าวเยาะเย้ยว่า “เอาล่ะ ในเมื่อเธอบอกว่าเฉินโม่กล้าเดิมพันกับฉัน ถ้าเช่นนั้นฉันก็จะบอกว่าจะเดิมพันอะไร ฟังให้ดีน่ะ!”
“เดิมพันของฉันคือใครที่เป็นฝ่ายแพ้ ต้องกราบอีกฝ่ายต่อหน้านักเรียนทั้งชั้นแล้วยอมรับความพ่ายแพ้! เธอคิดว่าเฉินโม่จะกล้าเดิมพันไหม?” เจิ้งซิ่วลี่มองเจี่ยงหยาวด้วยความเย่อหยิ่ง และสีหน้าเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม
เจี่ยงหยาวตกตะลึงไปหลายวินาที เธอไม่เคยคิดฝันว่าเจิ้งซิ่วลี่จะเสนอวิธีเดิมพันที่เลวร้ายแบบนี้
ตอนนี้เธอถึงรู้ว่าการกระทำเมื่อสักครู่ของเจิ้งซิ่วลี่เป็นวิธีการยั่วยุ เห็นได้ชัดว่าเจิ้งซิ่วลี่หลอกใช้เธอ! ความจริงเจิ้งซิ่วลี่ได้วางแผนไว้ในใจนานแล้ว
เจี่ยงหยาวจ้องเจิ้งซิ่วลี่ด้วยความโกรธ และพูดไม่ออกเป็นเวลานาน
สายตาของเพื่อนนักเรียนประกายความตื่นเต้น เดิมพันนี้น่าตื่นเต้นมาก!
ถึงแม้ว่าทุกคนจะรู้ว่าเจิ้งซิ่วลี่ต้องการใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ เพื่อทำให้เฉินโม่อับอายขายหน้าอย่างรุนแรง แต่พวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกว่าเจิ้งซิ่วลี่ทำเกินไป เพราะสุดท้ายแล้วการเดิมพันจะมีผลก็ต่อเมื่อทั้งสองฝ่ายตกลงกัน
ตอนนี้ ทุกคนต่างรอให้เฉินโม่มาถึง เพื่อดูว่าเขาจะกล้าเดิมพันหรือไม่
ขณะที่ทุกคนกำลังตั้งหน้าตั้งตารอ เฉินโม่ก็เดินมาถึงประตูอย่างเงียบ ๆ จากนั้นเขาเดินเข้าไปในห้องเรียนอย่างสงบ ภายใต้สายตาของเพื่อนนักเรียน
“เฉินโม่ มาถึงแล้ว!”
ไม่รู้ว่าใครกล่าวประโยคนี้ออกมาเบา ๆ ทันใดนั้น สายตาของนักเรียนเกือบทั้งหมดก็มองไปที่เฉินโม่
เฉินโม่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเขาเห็นสีหน้ากังวลของเจี่ยงหยาว แล้วยังมีรอยยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้าของจางเฉียงกับเจิ้งซิ่วลี่อีก ไม่ต้องคิดเขาก็สามารถเดาออก สองคนนี้ต้องมีแผนการอะไรแน่นอน
จางเฉียงยืนขึ้นทันที มองเฉินโม่และกล่าวด้วยรอยยิ้ม “เฉินโม่ เมื่อสักครู่ตอนที่นายยังมาไม่ถึง เพื่อนนักเรียนทั้งชั้นปรึกษาหารือเรื่องหนึ่ง ซึ่งก็คือการเพิ่มเดิมพันระหว่างนายกับหัวหน้าห้อง ไม่รู้ว่านายกล้ารับคำท้านี้ไหม?”
เฉินโม่เหลือบมองเขาเบา ๆ รู้สึกเบื่อเล็กน้อย คนถ่อยประเภทนี้มีอยู่ทุกที่ และไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ถ้าต้องการทำให้พวกเขาหุบปาก จะต้องโจมตีจนพวกเขาจนพ่ายแพ้ยับเยิน ยอมรับทั้งกายและใจ
“เดิมพันอะไร?”
รอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปากของจางเฉียง “เมื่อสักครู่หัวหน้าห้องบอกว่าถ้าใครเป็นฝ่ายแพ้ ต้องกราบอีกฝ่ายต่อหน้านักเรียนทั้งชั้นแล้วยอมรับความพ่ายแพ้! นายกล้ารับคำท้านี้ไหม?”
เฉินโม่หรี่ตาลงเล็กน้อย รอยยิ้มปรากฏขึ้นที่มุมปาก เขาไม่สนใจเจี่ยงหยาวกับจ้าวกางที่พยายามจะขยิบตาให้เขา และกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ผมรับคำท้า”