แดนนิรมิตเทพ บทที่ 622
ดวงตาของผู้อำนวยการเต็มไปด้วยความเสียใจ “เฉินโม่ ถึงแม้ว่านายอยากไปเรียนที่มหาวิทยาลัยหัวหนานจริง ๆ แต่นายก็ไม่ควรปฏิเสธเด็ดขาดขนาดนั้น ไม่ไว้หน้าแม้แต่น้อย! การกระทำเช่นนี้ของนาย แล้วจะให้ตัวแทนของมหาวิทยาลัยชื่อดังที่เย่อหยิ่งพวกนี้ทนได้อย่างไร?”
“ตอนนี้พวกเขารู้ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะเชิญนายไปเรียนที่มหาวิทยาลัยของตนเองแล้ว ดังนั้นพวกเขาจึงแตกหักกับนาย แล้วเริ่มโจมตีนาย ตอนนี้มหาวิทยาลัยชื่อดังมากมายร่วมมือกันแล้ว มันเท่ากับนายล่วงเกินมหาวิทยาลัยชื่อดังทั่วประเทศหัวเซี่ยไปแล้ว!”
“ถ้าคนพวกนี้รวมตัวกันกดดันมหาวิทยาลัยอื่น ๆ เกรงว่าคงจะไม่มีมหาวิทยาลัยไหนในประเทศหัวเซี่ย ที่กล้ารับนายเข้าไปเรียน”
“ไม่มีมหาวิทยาลัยไหนยินยอมรับแชมป์เอ็นทรานซ์ ที่สอบได้คะแนนเต็มทุกวิชาเข้าไปเรียน เมื่อถึงเวลานั้น คนทั้งโลกจะประณามว่านายเป็นคนที่ขาดศีลธรรม แล้วชีวิตของนายก็จะถูกทำลาย!”
กลุ่มนักเรียนมองภาพที่น่าทึ่งนี้ด้วยสายตาตกตะลึง และพวกเขาไม่สามารถยอมรับได้ชั่วขณะหนึ่ง
เพราะเมื่อสักครู่พวกเขายังแย่งชิงตัวเฉินโม่กันอยู่ แต่แค่ชั่วพริบตาเดียวก็แตกหักกันแล้ว ดูเหมือนว่าตัวแทนที่มารับสมัครนักศึกษาของมหาวิทยาลัยชื่อดังพวกนี้ จะเห็นแก่ตัวมากเกินไปแล้ว
เฉินโม่มองตัวแทนของมหาวิทยาลัยยานจิงด้วยสีหน้าราบเรียบ เขาไม่คิดว่าสิ่งที่ตนเองทำมันผิด “เป็นเพราะพวกคุณถามว่าผมสมัครสอบที่มหาวิทยาลัยไหน ผมถึงได้บอกพวกคุณ แล้วผมไปทำให้พวกคุณอับอายขายหน้าตอนไหนล่ะ?”
ตัวแทนของมหาวิทยาลัยชื่อดังต่าง ๆ หรี่ตาลงเล็กน้อย พวกเขาต่างรู้ดีว่าการที่พวกเขากล่าวหาเฉินโม่แบบนี้ มันไม่สมเหตุสมผล
เพียงแต่ถ้าพวกเขาไม่ทำแบบนี้ เกรงว่าถ้าเรื่องของวันนี้แพร่กระจายออกไป ต่อไปมหาวิทยาลัยของพวกเขา จะกลายเป็นตัวตลกของมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ
ตัวอย่างเช่นเมื่อคนของมหาวิทยาลัยหนานไคพบเห็นคนของมหาวิทยาลัยยานจิง พวกเขาจะกล่าวว่า “โอ้ มหาวิทยาลัยยานจิงของพวกคุณยอดเยี่ยมนี่ เสนอเงื่อนไขพิเศษและไปเชิญด้วยตนเอง แต่สุดท้ายกลับพ่ายแพ้ให้กับมหาวิทยาลัยระดับสอง ช่างน่าอับอายขายหน้าจริง ๆ!”
และหลังจากกลับไปแล้ว พวกเขายังต้องถูกมหาวิทยาลัยลงโทษ เพราะพวกเขาไม่สามารถเชิญคนมาเรียนได้ แต่กลับทำให้มหาวิทยาลัยอับอายขายหน้า ไม่ต้องคิดก็รู้ว่าจุดจบของตัวแทนพวกนี้จะน่าสังเวชมากๆ
ตัวแทนของมหาวิทยาลัยที่ชื่อดังเหล่านี้เข้าใจเรื่องนี้ดี ดังนั้นพวกเขาถึงได้ร่วมมือกันอย่างรวดเร็ว เพื่อทำลายชื่อเสียงของเฉินโม่ เสียสละเฉินโม่ เพื่อรักษาชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยของพวกเขาเอาไว้
ด้วยวิธีนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถเชิญเฉินโม่ไปเรียนได้ แต่มันสามารถรักษาชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยเอาไว้ได้ และทุกคนก็ไม่สามารถเชิญเขาไปเรียนได้เช่นกัน แล้วทางมหาวิทยาลัยก็จะไม่ตำหนิพวกเขาอะไรเลย
ตัวแทนของมหาวิทยาลัยยานจิงรู้ดีว่าเรื่องมาถึงจุดนี้แล้ว ตอนนี้ทำได้เพียงแค่กัดฟันแล้วทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ ส่วนเรื่องความเป็นความตายของเฉินโม่ ฮึ่ม! ใครให้เขาจองหองขนาดนั้นล่ะ!
“นายไม่เลือกมหาวิทยาลัยชื่อดังอย่างพวกเรา แต่กลับเลือกมหาวิทยาลัยระดับสองต่อหน้าคนมากมาย แล้วยังมาบอกว่าไม่ได้ตั้งใจจะทำให้พวกเราอับอายขายหน้า?”
“ทุกคนวินิจฉัยความผิดความถูกเถอะ” ตัวแทนของมหาวิทยาลัยยานจิงตะโกนบอกตัวแทนของมหาวิทยาลัยชื่อดังที่อยู่ข้างหลังเขา
“ยังต้องถามอีกเหรอ? เห็นได้ชัดว่าเจ้าเด็กคนนี้ตั้งใจทำให้พวกเราอับอายขายหน้า” เสียงเย็นชาดังขึ้น
“ถูกต้อง พวกคุณเคยได้ยินว่าแชมป์เอ็นทรานซ์เลือกมหาวิทยาลัยระดับสองเหรอ? แล้วยังมาบอกว่าไม่ได้ตั้งใจจะทำให้พวกเราอับอายขายหน้า! ขอถามเพื่อนนักข่าวว่าพวกคุณเคยเห็นแชมป์เอ็นทรานซ์ที่ไม่เลือกมหาวิทยาลัยชื่อดัง แต่กลับเลือกมหาวิทยาลัยระดับสองไหม?”
กลุ่มนักข่าวพูดไม่ออก ถึงแม้พวกเขาจะรู้ว่าตัวแทนพวกนี้กำลังหาเรื่องแบบไม่มีเหตุผล แต่พวกเขาก็ไม่เคยเห็นนักเรียนอย่างเฉินโม่มาก่อน
ไม่เลือกมหาวิทยาลัยชื่อดัง แต่กลับเลือกมหาวิทยาลัยระดับสอง คุณกำลังคิดจะทำอะไร?
เพียงแต่นักข่าวพวกนี้เป็นคนเจ้าเล่ห์ พวกเขาไม่อยากล่วงเกินฝ่ายใด ดังนั้นพวกเขาจึงไม่แสดงจุดยืนใด ๆ
สีหน้าของเฉินโม่ค่อย ๆ เย็นชา มองตัวแทนของมหาวิทยาลัยยานจิง “ถึงแม้ว่าผมจะทำให้พวกคุณอับอาย แล้วพวกคุณจะเอายังไง?”
หลังจากกล่าวประโยคนี้จบ บรรยากาศของห้องเรียนเหมือนมีกลิ่นดินปืน
บรรยากาศตึงเครียดถึงสุด
ผู้อำนวยการมองเฉินโม่ด้วยความหวาดกลัว รีบทำหน้าที่เป็นตัวกลางไกล่เกลี่ย และเกลี้ยกล่อมตัวแทนพวกนี้ด้วยรอยยิ้มว่า “ผมคิดว่าเรื่องนี้ให้มันจบเถอะ เฉินโม่ก็ไม่ได้ตั้งใจ ถ้าตัวแทนถือสามากเกินไป มันจะทำให้พวกคุณดูเหมือนเป็นคนใจแคบ”
“ทุกคนถอยคนละก้าว ทำเรื่องใหญ่ให้กลายเป็นเรื่องเล็ก ส่วนเรื่องเล็กก็ให้มันจบกันไป”