แดนนิรมิตเทพ บทที่ 626
เมื่อมองรอยยิ้มที่ประจบของรองนายกๆ หลินแล้ว ใครก็มองออกว่าเขาอยากจะประจบเฉินโม่
ตอนนี้เจิ้งหยวนฮ่าวรู้สึกตกตะลึง นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
นายกๆ เอี๋ยนพารองนายกๆ สองคนมาแสดงความยินดีกับเฉินโม่! โลกมันบ้าไปแล้วใช่ไหม?
สิ่งที่ทำให้เจิ้งหยวนฮ่าวยากที่จะยอมรับไม่ได้ยังอยู่ข้างหลัง
เมื่อเผชิญกับการประจบอย่างชัดเจนของรองนายกๆ หลินแล้ว เฉินโม่ปฏิเสธโดยไม่ลังเล “ผมไม่มีเวลา”
บริเวณรอบๆเงียบสงัด!
เขาเป็นถึงรองนายกๆ เชียวน่ะ!
ถึงแม้ว่าเฉินโม่จะปฏิเสธ แต่อย่างน้อยเขาก็ควรจะสุภาพมากกว่านี้ บอกตามตรงว่าผมไม่มีเวลา การพูดแบบนั้นมันจะทำให้รองนายกๆ เสียหน้า!
ตอนนี้เกรงว่ารองนายกๆ หลินคงจะโกรธแล้ว
แต่ผลลัพธ์ยังคงอยู่เหนือความคาดหมายของทุกคน รองนายกๆ หลินยิ้มด้วยความอึดอัด ใบหน้ายังคงเต็มไปด้วยความประจบ “ครับ มันก็ใช่ เฉิน….เฉินโม่ค่อนข้างยุ่ง การที่ไม่มีเวลามันก็เป็นเรื่องปกติ เป็นผมเองที่เชิญอย่างกะทันหันเกินไป!”
เฉินโม่พยักหน้าเบา ๆ แล้วรองนายกๆ หลินก็ถอยกลับไปทันทีด้วยสีหน้าตื่นตระหนก
ความจริงแล้วเหตุผลที่รองนายกๆ หลินเคารพนอบน้อมเฉินโม่ขนาดนี้ เป็นเพราะรองนายกๆ หลินเป็นคนของตระกูลหลิน
แน่นอนว่าไม่ใช่ตระกูลหลินที่ถูกเฉินโม่ทำลาย แต่เป็นตระกูลหลินที่สร้างขึ้นมาใหม่
ตอนนี้หลินเสวี่ยผู้นำตระกูลหลิน ถือว่าเฉินโม่เป็นเจ้านายแล้ว ความจริงแล้วตอนนี้ธุรกิจทั้งหมดของตระกูลหลินถือเป็นของเฉินโม่แล้ว และรองนายกๆ หลินในฐานะที่เป็นคนของตระกูลหลิน ดังนั้นทัศนคติที่เขามีต่อเฉินโม่นั้นสามารถจินตนาการได้
หลังจากรองนายกๆ หลินถอยไปแล้ว รองนายกๆ เจิ้งก็ก้าวไปข้างหน้าอย่างลนลาน
เจิ้งหยวนฮ่าวมองพ่อตนเองเดินไปอยู่ตรงหน้าเฉินโม่ ทำให้หัวใจที่ประหม่าของเขาเต้นแรงมาก
ถ้าพ่อตนเองนอบน้อมถ่อมตนกับเฉินโม่เหมือนรองนายกๆ หลินเมื่อสักครู่ แล้วต่อไปเขาจะมีหน้าโอ้อวดต่อหน้าเฉินโม่ได้อย่างไร!
เพียงแต่ เวลาต่อมาเจิ้งหยวนฮ่าวเปลี่ยนจากความผิดหวังเป็นสิ้นหวังทันที
รองนายกๆ เจิ้งโค้งคำนับเฉินโม่เก้าสิบองศา ซึ่งมันโอเวอร์กว่าการกระทำเมื่อสักครู่ของรองนายกๆ หลินเสียอีก และกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ขอแสดงความยินดีกับเฉินโม่ที่ได้เป็นแชมป์เอ็นทรานซ์ในปีนี้ ซึ่งสร้างชื่อเสียงและเกียรติยศให้เมืองอู่โจว ผมเป็นตัวแทนประชาชนของอู่โจว มาแสดงความขอบคุณ!”
เฉินโม่มองรองนายกๆ เจิ้งอย่างเงียบ ๆ แล้วมองไปที่เจิ้งหยวนฮ่าว จากนั้นรอยยิ้มแปลก ๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปาก
“รองนายกๆ เจิ้ง เกรงใจมากเกินไปแล้ว” เฉินโม่กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
เจิ้งฉีหมิงยืนตัวตรงและกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “จริงสิ เฉินโม่ ลูกชายของผมเป็นเพื่อนร่วมชั้นกับนาย พวกคุณมาทำความรู้จักกันเถอะ!”
ดวงตาของเจิ้งฉีหมิงกวาดไปทั่วห้องเรียน แล้วเขาก็เห็นสีหนาเคร่งขรึมของเจิ้งหยวนฮ่าวทันที
“หยวนฮ่าว ยังไม่รีบมาแสดงความยินดีกับเฉินโม่ที่ได้เป็นแชมป์เอ็นทรานซ์ในปีนี้อีก! ลูกจะได้อาศัยบารมีด้วย!” เจิ้งฉีหมิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
สีหน้าของเจิ้งหยวนฮ่าวกลายเป็นซีดเผือดทันที เขารู้สึกอับอายและโมโหมาก
พ่อเป็นที่พึ่งใหญ่ที่สุดของตนเอง พ่อเป็นรองนายกๆ แต่กลับเอ่ยปากให้เขาไปแสดงความยินดีกับศัตรูตัวฉกาจของตนเอง
ช่างน่าขันอะไรเช่นนี้!
เหมือนเด็กสองคนทะเลาะกัน เด็กคนหนึ่งบอกว่านายรอฉันก่อน ฉันจะไปตามพ่อ สุดท้ายเมื่อพ่อมาแล้ว ก็ตีเขาอย่างรุนแรง โดยไม่ถามว่าใครเป็นฝ่ายถูกหรือฝ่ายผิด แล้วยังให้เขาขอโทษเด็กคนนั้นด้วย
ตอนนี้เจิ้งหยวนฮ่าวรู้สึกอยากจะตาย!
เมื่อสักครู่ ตอนที่เขาเห็นพ่อของตนเองมา เขารู้สึกตื่นเต้นมาก เขาคิดจะอาศัยชื่อของรองนายกๆ ของเมืองอู่โจว และใช้โอกาสนี้สยบเฉินโม่
แต่ผลลัพธ์คือพ่อของตนเองช่วยเฉินโม่ มันเหมือนเป็นการตบหน้าเขาอย่างแรง
“รีบมาเร็ว นั่งเซ่ออยู่ทำไม?” เมื่อเจิ้งฉีหมิงเห็นเจิ้งหยวนฮ่าวนั่งนิ่งไม่ขยับ เขาจึงเร่งด้วยความไม่พอใจ เพราะถ้าเขาสามารถปรากฏตัวอยู่ต่อหน้าเฉินไต้ซือได้ ต่อไปจะเป็นประโยชน์ต่อเจิ้งหยวนฮ่าวมาก