“ฆ่า!”
พวกคุนเซ่าอวี่เคลื่อนไหวแทบจะในทันที ความเดือดดาลและเคียดแค้นอย่างที่สุดทำให้พวกเขาไม่สามารถควบคุมได้
ตูม!
เงาร่างคุนเซ่าอวี่แผ่ขยาย ด้านหลังปรากฏลักษณ์อริยะคุนเผิงขนาดมหึมา ยิ่งใหญ่ราวกับไม่มีที่สิ้นสุด ปกคลุมท้องฟ้า
อานุภาพของเขาพุ่งสูงขึ้น ทะลวงอากาศสังหาร ทุกหมัดที่สะบัดออกชักนำอานุภาพความว่างเปล่าโดยรอบ ทำให้ภูผาธาราแปดด้านสั่นสะเทือน ผงาดกร้าวไร้ที่เปรียบ
วิชาลมกรดคุนแท้!
มรดกชั้นสูงระดับนี้ ฝึกจนถึงขั้นสุดสามารถสั่นคลอนทำลายธารดารา เหยียบท้องฟ้าให้สลาย อยู่เหนือการผูกมัดของกฎระเบียบโลกโดยสิ้นเชิง เหินทะยานท่ามกลางความว่างเปล่าโดยรอบ
“นำ!”
ดวงตาสีม่วงของจู๋อิ้งคงราวกับสายฟ้า สองมือกวาดบนอากาศ ในห้วงอากาศอสนีบาตดั่งผืนทะเล ราวกับหมื่นเคราะห์มาเยือน กลิ่นอายทำลายล้างปกคลุมฟ้าดิน
“โอม!”
ในปากเลี่ยเฉียนพลันมีรุ้งยาวสีขาวสายหนึ่งพุ่งออกมา มองดูอย่างละเอียด นั่นถึงกับเป็นกระบี่บินที่พริบพราวบริสุทธิ์ ตัวกระบี่ราวกับกระสวย สาดละอองแสงเพลิงมากมายออกมาผลาญฟ้าทำลายดิน
ในเวลาเดียวกันฮว่าหงเซียว เซวี่ยชิงอีเองก็ลงมือตามๆ กัน สำแดงมรรคและวิชาของตน
ชั่วขณะนั้นราวกับนายเหนือหัวเผด็จการห้าคนมาเยือนโลก กลิ่นอายน่าพรั่นพรึงปกคลุมทั่วทิศพันลี้ ทำเอาภูผาธาราต่างหม่นแสง
มีเพียงสือพั่วไห่ที่บาดเจ็บสาหัสหนีห่างไปไกล ฉวยโอกาสฟื้นฟูบาดแผล
“ดี!”
ผมดำของหลินสวินปลิวสยาย ในดวงตาดำสาดประกายลุกโชน
พริบตานี้จิตต่อสู้ของเขาปะทุขึ้นโดยพลัน ร่างสง่างามเหมือนเตาหลอมปั่นป่วนโลก สารกาย พลังชีวิตและจิตวิญญาณรอบตัวเดือดพล่าน ราวกับหลอมเป็นหนึ่งเดียว ปรากฏแก่นที่สมบูรณ์แบบอย่างที่สุด
อานุภาพน่ากลัวที่ไม่สามารถเปรียบเทียบได้สายหนึ่งพลันแผ่ออกจากร่างของเขา ราวกับเทพมารในเหวลึกบรรพกาลตื่นขึ้นในยามนี้
ครืนโครม!
ห้วงอากาศปั่นป่วนทรุดทลายโดยมีเขาเป็นศูนย์กลาง คล้ายแบกรับอานุภาพนี้ไม่ไหว
“วันนี้ข้าคนแซ่หลินจะฆ่าจนสมรภูมิเก้าดินแดนไม่มีใครกล้าขานนาม!”
ในเสียงเย็นชาเรียบเฉยหลินสวินก้าวขึ้นไปในห้วงอากาศ ไม่หลบไม่หลีก พุ่งทะยานเดินหน้า หุบเหวใหญ่ปรากฏด้านหลังเขาประหนึ่งสามารถกลืนกินเวิ้งฟ้าหมื่นโบราณได้
ปัง!
หมัดหนึ่งกระแทกกับคุนเซ่าอวี่ที่พุ่งเข้ามาก่อน พริบตานั้นเหมือนคุนแห่งแดนเหนือตัวหนึ่งกระแทกใส่หุบเหวที่ไร้สิ้นสุด แสงมรรคกึกก้อง ประกายเทพบดบังท้องฟ้า
ร่างของคุนเซ่าอวี่ส่ายโอนแล้วเซถอยไป สีหน้าเปลี่ยนไปอย่างไม่สามารถควบคุมได้
ตูมโครม!
ส่วนหลินสวินกางแขนออก สะบัดหมัดหนึ่งตีออกไป อานุภาพดั่งสามารถทำลายสรรพสิ่ง โจมตีพายุสายฟ้าสีม่วงทั่วฟ้าจนแหลก
ร่างของจู๋อิ้งคงแข็งทื่อ พายุสายฟ้าสีม่วงนั่นคือ ‘คัมภีร์หมื่นเคราะห์เมฆาม่วง’ มรดกชั้นสูงของเผ่าจู๋หลง เมื่อสำแดงออกมาไอม่วงปรากฏทิศบูรพา พายุสายฟ้าราวกับเดือดดาล มีอานุภาพทำลายฟ้าดิน ยิ่งใหญ่สะเทือนอดีตปัจจุบัน ว่ากันว่าเป็นหนึ่งในสี่คัมภีร์มรรคแห่งดินแดนโบราณยอดหยิน
แต่ตอนนี้กลับถูกหลินสวินสลายในการโจมตีเดียว!
ทั้งหมดนี้ยังไม่สิ้นสุด หลินสวินที่เงาร่างอาบอยู่ในประกายสายฟ้าเดือดคลั่งกดนิ้วหนึ่งออกมา ทั้งเรียบง่ายและบางเบา
แต่ทันใดนั้นกระบี่บินที่แสงพิสุทธิ์ไหลเวียนโฉบพุ่งเข้ามา แทงใส่ลำคอหลินสวิน!
ทว่าภายใต้นิ้วนี้ของหลินสวิน ต่อให้โจมตีตรงหน้าก็เหมือนห่างกันคนละโลก
ใกล้ดุจสุดหล้า!
พร้อมกับพลังดรรชนีที่เปลี่ยนไป พลันเปลี่ยนเป็นวสันต์สารทชั่วพริบตา เสียงกึกก้องดังขึ้นคราหนึ่ง กระบี่บินแสงพิสุทธิ์ถูกโจมตีอย่างแรงจนกระเด็นออกไป
ร่างของเลี่ยเฉียนที่จิตเชื่อมกับกระบี่บินสะท้านไหวคราหนึ่ง เลือดลมพลิกตลบ ทรมานจนแทบกระอักเลือดแล้ว
ตูม!
และตอนนี้เองกระแสปราณกระบี่สามสิบสามชั้นพุ่งออกจากร่างหลินสวิน ราวกับทะเลปราณกระบี่ที่กวาดผ่านท้องฟ้า ม้วนเข้าใส่เซวี่ยชิงอีและฮว่าหงเซียว
ทันใดนั้นละอองแสงระเบิดออก เสียงร้องตกใจดังมา การจู่โจมของพวกเซวี่ยชิงอีถูกขัดขวาง เหมือนดั่งแหนที่ถูกคลื่นพายุกระหน่ำตี แม้แต่ร่างกายยังถูกฟาดกระเด็นออกไป
พริบตานั้นหลินสวินสำแดงหนึ่งหมัดสะเทือนสวรรค์ ดรรชนีมหาอุดมสลายมายา กระบี่สามสิบสามชั้นตามลำดับ ทะลวงการล้อมโจมตีทั้งหมด ซัดระดับผู้นำห้าคนที่ล้อมโจมตีเข้ามาจนกระเด็นลอยไป!
ท่วงท่าผงาดกร้าวระดับนั้น พลังที่เผด็จการเช่นนั้นสะท้านสะเทือนทั้งที่นั้น
“เป็นไปได้อย่างไร”
“เทียบกับการต่อสู้ในทะเลผาดำ พลังปราณของเขาทะลวงขั้นอีกครั้งแล้ว!”
“เขาเริ่มหลอมรวมวิชาอริยะแห่งตนแล้ว!”
“น่าชังนัก!”
พวกคุนเซ่าอวี่สีหน้าเคร่งเครียดอย่างยากจะได้เห็น ต่อให้เดือดดาลเพียงใด แต่ความน่ากลัวในพลังที่หลินสวินสำแดงออกมาก็ยังทำให้พวกเขาไหวหวั่นไปด้วย
แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!
พวกเขาสบตากัน ออกตัวเต็มกำลังไม่ต้องนัดแนะอีกครั้ง
ครั้งนี้พวกเขาใช้ไม้ตายออกมา บ้างสำแดงวิชามรรคพลิกฟ้า บ้างใช้สมบัติอริยะที่พลังทำลายล้างตะลึงโลก
ตูมโครม!
ชั่วขณะเดียวในภูผาธาราแห่งนี้มีประกายศักดิ์สิทธิ์กึกก้องราวกับฟ้าร้อง ก้องสะท้อนเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน แสงดาบลุกโชนแผ่ไพศาล ท่วมท้นฟ้าดิน
บุคคลระดับผู้นำทั้งห้าดินแดนขนาบโจมตีหลินสวินคนเดียว แต่ละคนล้วนเป็นมกุฎอริยะแท้ที่ยิ่งยง ความน่าสะพรึงในพลังต่อสู้แค่คิดก็รู้
เพียงแต่พลังที่หลินสวินสำแดงออกมาก็ตะลึงโลกเช่นกัน แม้ตัวคนเดียว อานุภาพกลับเหมือนสุริยันดวงใหญ่สาดส่องฟ้า สว่างไสวไม่อาจประเมิน
เงาร่างของพวกเขาต่อสู้ตั้งแต่เบื้องฟ้าลงมายังพื้นดิน เคลื่อนย้ายกลางภูผาธาราที่กว้างใหญ่ ทุกที่ที่ผ่านชั้นเมฆระเบิดแหลก ห้วงอากาศทรุดทลาย แสงมรรคน่ากลัวม้วนตลบ สะเทือนกลางจักรวาล
วิญญาณเซียนเหินที่มีพลังเทียบเคียงมกุฎอริยะบางส่วนหนีไม่ทัน ถูกลูกหลงของการต่อสู้นี้หวาดโดน สิ้นสลายคาที่!
การต่อสู้นี้เรียกได้ว่าเป็นการต่อสู้แห่งมกุฎที่ตะลึงโลกที่สุด นับตั้งแต่การต่อสู้แห่งเก้าดินแดนครั้งนี้เริ่มขึ้น สามารถสะเทือนอดีตปัจจุบัน ตกตะลึงทั่วหล้า
ไม่ว่าจะในดินแดนรกร้างโบราณหรือแปดดินแดนอื่นๆ ก็ต้องสะท้านสะเทือน ดึงดูดสายตาจากทั่วหล้า!
ควรรู้ว่าสำหรับผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วน ระดับอริยะแท้เป็นตัวตนที่ล้วนเป็นที่ใฝ่ฝัน ผงาดง้ำเหนือภูผาธารา เป็นยอดบุรุษที่อานุภาพไร้จำกัด
มกุฎอริยะ ยิ่งเป็นตัวตนที่อริยะแท้มากมายยังก้มหัวเคารพ
และสำหรับบุคคลพลิกฟ้าระดับมกุฎอริยะแห่งเก้าดินแดน อย่างพวกหลินสวิน คุนเซ่าอวี่ เซวี่ยชิงอีเหล่านี้ คือราชันผู้ยืนตระหง่านอยู่ปลายยอดของระดับนี้ ราวกับนายเหนือหัวที่ทำให้พวกเขาต้องเคารพและปรารถนา!
การต่อสู้ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ก็คือการชิงชัยระหว่างมกุฎอริยะแท้ ผลกระทบระดับนั้นย่อมไม่ธรรมดา
การต่อสู้เช่นนี้ ไม่รู้กี่ปีจึงจะได้เห็นอีกครั้ง!
‘เจ้าหมอนี่เหมือนสัตว์ประหลาดคนหนึ่ง สามารถเทียบกับพวกตัวประหลาดบนทางเดินโบราณฟ้าดาราได้…’
สือพั่วไห่ที่ถอยจากการต่อสู้เพื่อทำเวลารักษาบาดแผลมาโดยตลอด พอเห็นเงาร่างผงาดกร้าวที่หนึ่งคนเทียบเท่าห้าคนของหลินสวินแล้วก็ขนลุกตกใจขึ้นมาระลอกหนึ่ง
เขาเคยได้ยินว่าบนทางเดินโบราณฟ้าดารามีบุคคลชั้นยอดที่เรียกได้ว่าไร้ศัตรูในระดับอริยะแท้มากมาย แต่ละคนน่ากลัวจนไม่สามารถวัดด้วยหลักการทั่วไป ถูกมองว่าเป็นอริยะแท้ที่แข็งแกร่งที่สุดใน ‘ใต้ฟ้าดารา บนมรรคาแห่งมกุฎ’
ก่อนหน้านี้สือพั่วไห่ยังไม่เชื่อ แต่ยามเห็นหลินสวินในตอนนี้ เขารู้สึกรางๆ ว่าข่าวลืออาจเป็นความจริง
บนโลกนี้มีตัวประหลาดพลิกฟ้าที่ไม่สามารถวัดได้ด้วยหลักการทั่วไปจริงๆ!
อย่างเช่นหลินสวิน มาจากดินแดนรกร้างโบราณที่แห้งแล้งและทรุดโทรม ในตอนแรกไม่มีคนสนใจ ไม่มีใครรู้จักชื่อของเขา
แต่เวลาสั้นๆ ไม่ถึงสองปีเขาก็ผงาดขึ้นมาอย่างรวดเร็ว สังหารจนค่ายทัพแปดดินแดนสั่นคลอน มกุฎอริยะไม่รู้เท่าไหร่ตายไปพร้อมความเคียดแค้นภายใต้น้ำมือเขา อานุภาพที่ร้ายกาจประหนึ่งไร้ศัตรูเช่นนั้น ใครจะไม่แปลกใจได้เล่า
‘หากเจ้าหมอนี่ไม่ตาย ในอนาคตสักวันต้องกลายเป็นภัยร้ายของแปดดินแดน!’
สือพั่วไห่ไม่กล้าคิดว่าด้วยรากฐานพลังและพรสวรรค์ของหลินสวิน หากถึงตอนที่เขาเสาะแสวงเส้นทางแห่งมหาจักรพรรดิ จะมีพลังน่ากลัวเพียงใด
ถึงตอนนั้นในเก้าดินแดนจะมีใครเป็นศัตรูกับเขาได้!
หืม?
ทันใดนั้นสีหน้าของสือพั่วไห่เปลี่ยนไปเล็กน้อย เงาร่างพริบวาบ
ฉัวะ!
ตำแหน่งที่เขายืนอยู่ตอนแรกปรากฏประกายกระบี่ที่ราวกับไร้ตัวตน ยามประกายกระบี่สลาย ก็เผยให้เห็นเงาร่างของเสี่ยวอิ๋น เสื้อผ้าขาวยิ่งกว่าหิมะ ดวงหน้างดงามเย็นชา
บนไหล่ของเขา ผีเสื้อมารแยกฟ้ากระพือปีก กลิ่นอายเย็นเยียบน่าสยดสยอง
“บาดเจ็บหนักจนจะตายอยู่แล้ว ยังมีการรับรู้และสัญชาตญาณว่องไวเช่นนี้ ช่างสมกับเป็นหนึ่งในแปดยอดนภาคราม”
เสี่ยวอิ๋นจุ๊ปาก
“พยัคฆ์ในที่ราบถูกสุนัขกลั่นแกล้งสินะ…”
สือพั่วไห่ทอดถอนใจในใจอย่างโศกเศร้า รู้สึกถึงความโกรธและอับอาย หากอยู่ในสภาพสมบูรณ์ เจอการท้าทายเช่นนี้ เขาคงตบอีกฝ่ายให้ตายภายในฝ่ามือเดียวไปนานแล้ว
“น่าเสียดาย ครั้งนี้เจ้าหนีไม่รอดแล้ว!”
ยามเอ่ยวาจาเสี่ยวอิ๋นโจมตีอีกครั้ง เงาร่างราวกับล่องหน
ตูม!
สือพั่วไห่ไม่มีเวลาไปห่วงการรักษาบาดแผลอีกต่อไป โจมตีเต็มที่
สิ่งที่ทำให้เขาปวดหัวคือ การร่วมมือกันของเสี่ยวอิ๋นและผีเสื้อมารแยกฟ้าเป็นเหมือนมือสังหารที่ไปมาไร้ร่องรอย ยากจะป้องกัน แปลกประหลาดอย่างที่สุด
เพียงครู่เดียวสือพั่วไห่ก็ได้รับบาดเจ็บ!
เดิมทีเขาก็บาดเจ็บสาหัสแล้ว และคู่ต่อสู้ของเขายังเป็นทายาทหนอนกินเทพตัวหนึ่งกับทายาทผีเสื้อมารแยกฟ้า แต่ละคนพลังไม่ด้อยกว่ากัน พรสวรรค์มหัศจรรย์ หลังบรรลุระดับอริยะก็ไม่ใช่บุคคลที่มกุฎอริยะทั่วไปเทียบได้นานแล้ว
หากอยู่ในสภาพสมบูรณ์สือพั่วไห่ยังพอมีวิธีกำราบอีกฝ่าย แต่ตอนนี้…
อันตรายอย่างยิ่งแล้ว!
ห่างออกไปพวกคุนเซ่าอวี่ห้าคนร่วมมือกันโจมตีหลินสวิน แต่ยังไม่สามารถกำราบอีกฝ่ายลงได้ ย่อมไม่มีทางปลีกตัวมาช่วยเขาได้
นี่ทำให้สือพั่วไห่หนาวเหน็บและเศร้าโสกในใจอย่างอดไม่อยู่ หรือว่า… วันนี้จะต้องตายด้วยน้ำมือหนอนสองตัวนี้จริงๆ!
ในเวลาเดียวกันพวกคุนเซ่าอวี่ยิ่งสู้ยิ่งตกใจ!
อานุภาพของหลินสวินแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ทำให้แรงกดดันของพวกเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หากไม่ใช่ห้าคนร่วมแรงกัน คงถูกเขาโจมตีไปคนละทิศละทางนานแล้ว
“ฟัน!”
จู่ๆ หลินสวินก็ตวาดเบาๆ ดาบหักโฉบพุ่งออกมาโดยพลัน ราวกับลำแสงที่กรีดเฉือนพันธนาการ กรีดทำลายห้วงฟ้า
พรวด!
ศีรษะนองเลือดหัวหนึ่งลอยขึ้นกลางอากาศ ฮว่าหงเซียวผู้นำดินแดนโบราณหม่อนบูรพาถูกดาบหักฟันหัวขาดในชั่วพริบตา
ร่างไร้หัวยังไม่ทันร่วงลงก็ถูกคลื่นการต่อสู้น่าพรึ่นพรึงซัดทำลายแหลก ฝนเลือดระเบิดออก
ก่อนตายดวงตาเดือดดาลของเขายังเบิกโพลง เต็มไปด้วยความงุนงงราวกับไม่กล้าเชื่อ
และภาพการตายที่นองเลือดนี้ ก็เหมือนค้อนหนักทุบใส่หัวพวกคุนเซ่าอวี่อย่างแรง ทำเอาพวกเขาหวาดกลัวถึงที่สุด
ห้าคนร่วมมือกันเชียวนะ!
กลับยังทำอะไรเจ้าหมอนี่ไม่ได้เช่นนั้นหรือ
ชั่วขณะนี้จิตต่อสู้ของพวกเขาสั่นคลอน!
ไม่ว่าใครที่สามารถมาเป็นผู้นำของค่ายทัพดินแดนหนึ่งได้ ล้วนเป็นคนที่จิตต่อสู้แน่วแน่มั่นคงอย่างไม่มีข้อยกเว้น สภาวะจิตราวกับเหล็กกล้า เจออุปสรรคใหญ่จนชินแล้ว
แม้ก่อนหน้านี้ถูกขังในกระบวนค่ายกลพันผี ก็ไม่สามารถทำให้จิตต่อสู้ของพวกเขาสั่นคลอน
แต่ตอนนี้เมื่ออยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ห้าคนร่วมมือกัน กลับยังถูกหลินสวินฉวยโอกาสสังหารไปได้คนหนึ่ง แรงโจมตีระดับนี้หนักหน่วงเกินไปอย่างไม่ต้องสงสัย
เพลิงโกรธและความเคียดแค้นเต็มอกของพวกเขา ตอนนี้ถูกความหวาดกลัวหนาวเหน็บเข้าแทนที่ เย็นเยียบไปทั้งกาย!
หรือว่า…
เจ้าหมอนี่จะมีอานุภาพที่ไร้ศัตรูในระดับนี้แล้ว
ตูม!
ไม่นานเสียงกึกก้องปานสะท้านฟ้าสะเทือนดินดังขึ้น ปราณกระบี่ไร้สิ้นสุดพุ่งออกจากขวดมหามรรคไร้ขอบเขต ราวกับผลักภูเขาพลิกสมุทร พุ่งตรงไปที่เลี่ยเฉียน
ปราณกระบี่แผ่เต็มภูผาธารา!
…………