แดนนิรมิตเทพ บทที่ 636
“เป็นคุณจริง ๆ!”
เมื่อเห็นเจียงเหอซาน เฉินโม่ไม่ได้รู้สึกแปลกใจแม้แต่น้อย และกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
เจียงเหอซานรู้สึกจำใจเล็กน้อย “คุณเดาออกแล้ว!”
“บอกมาเถอะ มันหมายความว่าอย่างไร?” เฉินโม่เหลือบมองนักบู๊ที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น และเอ่ยถาม
เจียงเหอซานแสดงสีหน้าจริงจัง และกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “นี่เป็นบททดสอบของทุกคนที่จะเข้ามาเป็นสมาชิกของหน่วยสำคัญ และทุกคนต้องผ่านการทดสอบนี้!”
“อ้อ ในเมื่อมันเป็นการทดสอบ มันน่าจะไม่ง่ายขนาดนี้ ยังมีการทดสอบขั้นต่อใช่ไหม?” เฉินโม่ถามด้วยความสงสัย
เจียงเหอซานมองเฉินโม่ด้วยสายตาซับซ้อน และกล่าวด้วยความเซ็งว่า “ต้องมีแน่นอน แต่ก่อนอื่นต้องบีบห้านยจนตรอกเสียก่อน แต่ตอนนี้พวกเราไม่สามารถทำได้แม้แต่ขั้นตอนแรก ซึ่งทำให้ไม่สามารถดำเนินการทดสอบขั้นต่อไปได้”
“ตลอดหลายปีที่ผ่านมา คุณเป็นคนแรกที่ทำให้พวกเราไม่สามารถดำเนินการทดสอบขั้นต่อไปได้!” ถ้าเจียงเหอซานไม่คำนึงถึงภาพลักษณ์ของตนเอง เขาอยากจะกลอกตาใส่เฉินโม่แล้ว
เฉินโม่รู้สึกว่าการที่ตนเองกลายเป็นข้าราชการแบบนี้ มันเร็วเกินไปหรือเปล่า หากยังมีการทดสอบขั้นต่อไปอีก ก็ถือว่าสมเหตุสมผล
แต่น่าเสียดายที่เฉินโม่แข็งแกร่งเกินไป เจียงเหอซานระดมลูกน้องที่เป็นยอดฝีมือมาหมดแล้ว แต่กลับพ่ายแพ้ให้เฉินโม่ด้วยหมัดเดียว ซึ่งทำให้พวกเขาไม่สามารถดำเนินการทดสอบขั้นต่อไปได้
เพียงแต่ตอนนี้เฉินโม่อยากรู้รายละเอียดการทดสอบขั้นต่อไปเป็นอย่างมาก ไม่รู้ว่าวิธีการทดสอบของทางการเป็นแบบไหน
“นายสามารถบอกการสอบขั้นต่อไปได้ไหม?” เฉินโม่ถามด้วยความสงสัย
“ได้! นั่นก็คือจับนายให้ได้ก่อน ทำให้นายรู้สึกว่าชีวิตของตนเองตกอยู่ในอันตราย จากนั้นบีบบังคับให้นายยอมจำนน เพื่อดูว่านายจะสามารถต้านได้ไหม”
“ถ้านายสามารถต้านได้ คุณก็จะสามารถกลายเป็นสมาชิกของทางการอย่างแท้จริง ในทางกลับกัน พวกเราจะพิจารณามอบตำแหน่งที่ไม่สำคัญให้นาย หรือปฏิเสธนายทันที” เจียงเหอซานอธิบาย
“ที่แท้เป็นเช่นนี้เอง!” หลังจากเข้าใจแล้ว ทำให้เฉินโม่หมดความสนใจ เพราะนี่มันเป็นการทดสอบที่ธรรมดามาก
“พวกคุณไม่จำเป็นต้องทดสอบผม และผมเคยบอกแล้วว่าผมสามารถเป็นสมาชิกของพวกคุณได้ แต่ผมต้องการอิสระอย่างแท้จริง”
“พาผมไปที่หน่วยรบพิเศษเทพอินทรีเถอะ!” เฉินโม่กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
เจียงเหอซานยิ้มด้วยความลึกลับ “นายมาถึงแล้ว!”
เฉินโม่ขยับดวงตา “นายหมายความว่าที่นี่ก็คือหน่วยรบพิเศษเทพอินทรี?”
เจียงเหอซานพยักหน้า “ถูกต้อง เซี่ยไห่หลง พาทีมออกมาต้อนรับหัวหน้าคนใหม่ของพวกคุณเถอะ!”
บนพื้น ชายหนุ่มรูปร่างกำยำที่ชุดกีฬาสีดำ กัดฟันลุกขึ้นยืน มองเจียงเหอซาน ทำความเคารพและตอบกลับเสียงดัง “ครับ!”
“พวกคุณสองคนพาคนอื่นไปทำแผลก่อน!” สีหน้าของเจียงเหอซานน่าเกลียดเล็กน้อย คนพวกนี้เป็นคนที่เก่งที่สุดของเขา แต่ผลลัพธ์คือถูกพลังมัดเดียวของเฉินโม่สยบจนล้มอยู่บนพื้น ซึ่งทำให้เขารู้สึกอับอายขายหน้า
พวกเขาสองคนก้มหน้า “ครับ!”
กลุ่มนักบู๊เดินออกไปอย่างรวดเร็ว
ห้องโถงที่กว้างขวาง เหลือเพียงเจียงเหอซานกับเฉินโม่เท่านั้น
เจียงเหอซานมองเฉินโม่ด้วยสีหน้าแปลก ๆ “เจ้าหนู ถ้านายต้องการเป็นหัวหน้าของหน่วยรบพิเศษเทพอินทรี ไม่ใช่แค่ผมแต่งตั้งนายก็จบเรื่อง แต่ยังขึ้นอยู่กับฝีมือของตัวนายเองด้วย”
“หน่วยรบพิเศษเทพอินทรี พวกเขาล้วนเป็นหัวกะทิที่คัดเลือกมาจากหัวกะทิของหน่วยต่าง ๆ ในเมื่อพวกเขาเป็นหัวกะทิ ดังนั้นพวกเขาจึงเป็นอัจฉริยะของแต่ละหน่วย และคนที่เป็นอัจฉริยะมีลักษณะเหมือนกัน นั่นก็คือไม่ยอมจำนนต่อใครทั้งนั้น!”
“ดังนั้น หากนายต้องการเป็นหัวหน้าของพวกเขา ความแข็งแกร่งอย่างเดียวมันยังไม่เพียงพอ ต้องขึ้นอยู่กับความสามารถของตัวนายเองด้วย”
หลังจากเจียงเหอซานกล่าวจบ เขามองเฉินโม่ด้วยสายตาลึกซึ้ง หันหลังแล้วเดินจากไป
ทันใดนั้น เขาก็หยุดฝีเท้า แล้วหันกลับมามองเฉินโม่ “เมื่อเจอของแข็งแล้ว ก็อย่ามาโทษว่าผมไม่เตือนนาย!”
เฉินโม่ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย เพิกเฉยต่อคำเตือนของเจียงเหอซานโดยตรง
เขาไม่เคยกลัวการท้าทายมาก่อน!
สวบ ๆ!
มีเสียงฝีเท้าที่พร้อมเพรียงดังมาจากนอกประตู
“ยืนตรง กลับหลังหัน หันไปทางขวา หันไปข้างหน้า!”
คำสั่งเป็นจังหวะดังขึ้น
ชายหนุ่มชุดเครื่องแบบอำพรางยืนเป็นสี่แถว ยืนอยู่ตรงหน้าเฉินโม่อย่างเป็นระเบียบ แถวละเก้าคน รวมเป็นสามสิบหกคน
เลขเก้า เป็นเลขมงคล ดูเหมือนว่าคนที่สร้างหน่วยรบพิเศษเทพอินทรีจะเป็นคนที่ค่อนข้างพิถีพิถัน