แดนนิรมิตเทพ บทที่ 656
ใบหน้าของเว่ยอวี้เหอเป็นสีแดง ท่าทางของเขายังคงสงบ แต่หัวใจเต็มไปด้วยความโกรธ
เฉินไต้ซือ ผมม่มีคุณสมบัติหรือไม่ ลองดูก่อนจึงรู้
ดูเหมือนว่าเว่ยอวี้เหอจะพยายามพิสูจน์ตัวเอง แล้วชี่แท้ก็ปะทุออกมาจากทั่วร่างกาย พลังที่ทรงพลังปกคลุมไปทั่วห้องโถงทันที
“แดนในชั้นสูงสุด ทะลวงไปแล้วจริงๆ!”
ทุกคนที่อยู่ในห้องโถงต่างตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง พรสวรรค์ของเด็กหนุ่มตระกูลเว่ยสองคนนี้ช่างน่ากลัวจริงๆ!
แต่พลังนั้นปะทุออกมาเร็วและหายไปอย่างรวดเร็ว เร็วจนทุกคนไม่สามารถมองเห็นการลงมือเคลื่อนไหวของเฉินโม่ ร่างของเว่ยอวี้เหอกระเด็นกลับหัวออกไป
เสียงดังโครม กระแทกจนโต๊ะแตกละเอียด และล้มอยู่บนพื้นด้วยความน่าสังเวช
ทุกคนเงียบ!
ทุกคนต่างอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง
“สถานการณ์……เป็นอย่างไรกันเนี่ย?”
“เว่ยอวี้เหอกำลังเล่นกลอยู่เหรอ? ทำไมจู่ ๆ เขาถึงได้กระเด็นออกไป”
เหล่าเด็กรุ่นหลังของโลกฝึกบู๊แห่งเจียงหนานถามอย่างต่อเนื่อง เพราะพวกเขามองไม่เห็นการลงมือเคลื่อนไหวของเฉินโม่
คนที่มีความแข็งแกร่งถึงจะสามารถมองเห็นได้ ตอนที่เว่ยอวี้เหอพูดจบ เฉินโม่สะบัดมือไปทางเว่ยอวี้เหอ ราวกับว่าเขากำลังไล่แมลงวันตัวหนึ่ง
จากนั้น เว่ยอวี้เหอก็กระเด็นออกไป แล้วกระแทกจนโต๊ะแตกละเอียด ไม่รู้ว่าตอนนี้เขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่
ตอนนี้สีหน้าของพานรุ่ยหมิง เว่ยชางหยุนและบุคคลสำคัญอื่น ๆ ของโลกฝึกบู๊แห่งเจียงหนานเต็มไปด้วยเคร่งขรึม ราวกับว่าพวกเขาเห็นผี!
ผู้นำหม่าและผู้อาวุโสเการู้สึกตกใจเช่นกัน ความรู้สึกเหยียดหยามเฉินโม่ก่อนหน้านั้น ก็มลายหายไป
เด็กรุ่นหลังพวกนั้นยังคงถามต่อไปว่า “เกิดอะไรขึ้น ทำไมจู่ ๆ เว่ยอวี้เหอก็กระเด็นออกไปโดยไม่มีเหตุผล?”
“เจ้าโง่ เป็นฝีมือของเฉินไต้ซือ เมื่อสักครู่แกไม่เห็นเฉินไต้ซือสะบัดมือเหรอ!”
“ไม่ใช่มั้ง แค่สะบัดมือก็สามารถทำให้คนกระเด็นออกไปได้ บุคคลนั้นคือเว่ยอวี้เหอน่ะ เป็นยอดฝีมือแดนในชั้นสูงสุด! แม้แต่ปรมาจารย์ก็ไม่สามารถทำเช่นนั้นได้!”
“ยังชัดเจนไม่พออีกเหรอ? ไม่ใช่ว่าเว่ยอวี้เหออ่อนแอ แต่เป็นเพราะเฉินไต้ซือแข็งแกร่งมาก! เกรงว่าเฉินไต้ซือจะไม่ใช่ปรมาจารย์ธรรมดาแล้ว!”
หลังจากคนใหญ่คนโตเหล่านั้นได้ยินการเดาของเด็กรุ่นหลังแล้ว สีหน้าของพวกเขาเคร่งขรึมยิ่งขึ้นไปอีก
เฉินโม่เอามือไพล่หลังและกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชาว่า “ฉันจะพูดอีกครั้ง ส่งตัวเซวียจื่ออีออกมา แล้วฉันจะปล่อยให้ตระกูลเว่ยมีสายเลือดสืบต่อไป” ไอรีนโนเวล
สีหน้าของเว่ยชางหยุนและสมาชิกของตระกูลเว่ยเต็มไปด้วยความโกรธ แต่พวกเขาเกรงกลัวความแข็งแกร่งของเฉินโม่และไม่กล้าพูดอะไร
เพียงแต่เมื่ออยู่ต่อหน้าคนของโลกฝึกบู๊แห่งเจียงหนานแล้ว เว่ยชางหยุนจะแสดงความขี้ขลาดไม่ได้ และตระกูลเว่ยขี้ขลาดไม่ได้เช่นกัน มิเช่นนั้นต่อไปตระกูลเว่ยจะเป็นตัวตลกของโลกฝึกบู๊แห่งเจียงหนาน
“ฮึ่ม แค่สามารถเอาชนะเด็กรุ่นหลังของตระกูลเว่ยได้คนหนึ่ง ก็คิดว่าตระกูลเว่ยไม่มีคนแล้วเหรอ? ฉันจะเป็นคนต่อสู้กับแกเอง!”
หลังจากเว่ยชางหยุนกล่าวจบ พลังที่อันทรงพลังก็ปกคลุมไปทั่ว
ทุกคนรู้สึกตกใจ และเมื่อเห็นเว่ยชางหยุนลอยอยู่กลางอากาศ มีคนอุทานด้วยความประหลาดใจว่า “ปรมาจารย์แดนแปรภาพ!”
ถึงแม้เซวียมู่หัวจะไม่ใช่คนของโลกฝึกบู๊ แต่เขาเคยได้ยินพลังของปรมาจารย์มาก่อน และกล่าวด้วยความประหม่าว่า “เฉินไต้ซือ ระวังตัวด้วย!”
เฉินโม่ไม่สนใจเขา มองเว่ยชางหยุนและกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “ดื้อดึงไม่ยอมรับผิด!”
หลังจากกล่าวจบ เขาขยับร่างกาย แล้วปล่อยพลังหมัดไปที่เว่ยชางหยุนทันที
ท่าที่หนึ่งหมัดเทพเทียนเสวียน สยบภูเขา!
ปัง!
ผู้นำตระกูลเว่ยที่น่าเกรงขาม เป็นปรมาจารย์แดนแปรภาพ เป็นคนที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกฝึกบู๊ ถูกหมัดของเฉินโม่จนกระเด็นออกไปเหมือนเว่ยอวี้เหอเมื่อสักครู่ กระแทกจนโต๊ะแตกละเอียด และล้มอยู่บนพื้นด้วยความน่าสังเวช
อย่างไรก็ตาม ปรมาจารย์ก็คือปรมาจารย์ ถึงแม้ว่าเว่ยชางหยุนจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แต่เขาก็ยังมีสติอยู่
“เป็นไปได้ยังไง!” สีหน้าของเว่ยชางหยุนเศร้าหมอง กล่าวพึมพำกับตัวเองด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
สายตาของทุกคนที่มองเฉินโม่เต็มไปด้วยความหวาดกลัว!