แดนนิรมิตเทพ บทที่ 667
หลังจากเฉินโม่ส่งสองพี่น้องตระกูลเซวียแล้ว จากนั้นเขาตรวจค้นทั่วตระกูลเว่ย แต่น่าเสียดายที่ตระกูลเว่ยนั้นมีทรัพย์สินหลายร้อยล้าน แต่แทบจะไม่มีวัตถุดิบที่ใช้ในการฝึกเลย
เฉินโม่ฆ่าบุคคลสำคัญของตระกูลเว่ยตายเกือบทั้งหมด มีเพียงชายหนุ่มที่ทรยศตระกูลเว่ยมีชีวิตรอดคนเดียวเท่านั้น และเขากลายเป็นผู้นำคนใหม่ของตระกูลเว่ยจากการสนับสนุนของเฉินโม่
เพราะกังวลว่าจะถูกฆ่าตาย และด้วยความฉลาดของชายหนุ่มที่ชื่อเว่ยเหลียง เขาสาบานว่าจะจงรักภักดีต่อเฉินโม่ และอาศัยบารมีของเฉินไต้ซือต่อไป
เฉินโม่ไม่เกรงใจเช่นกัน เขามอบหมายให้ชายหนุ่มดูแลบริหารกิจการของตระกูลเว่ยต่อไป ถ้ามีปัญหาอะไรก็โทรไปหาเขา จากนั้นเขาก็เตรียมตัวเดินทางออกไปจากมณฑลเจียงหนาน
ขณะที่เฉินโม่กำลังจะออกจากเจียงหนานเพื่อกลับไปที่ยานจิง มู่หรงยานเอ๋อร์ก็โทรศัพท์มาหาเฉินโม่
“เฉินโม่ ได้ยินมาว่านายเป็นแชมป์เอ็นทรานซ์ระดับประเทศ ยินดีด้วยน่ะ!” น้ำเสียงของมู่หรงยานเอ๋อร์เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
มู่หรงยานเอ๋อร์พูดต่อโดยไม่รอคำตอบจากเฉินโม่ “จริงสิ เพื่อนนักเรียนหลายคนบอกว่านายปฏิเสธคำเชิญของมหาวิทยาลัยยานจิงและมหาวิทยาลัยชิงหัว แล้วไปสมัครเรียนที่มหาวิทยาลัยหัวหนาน เพราะอะไร?”
เฉินโม่ยิ้มบาง ๆ และกล่าวว่า “มหาวิทยาลัยหัวหนานอยู่ใกล้อู่โจวไม่ใช่หรือ สำหรับผมแล้วมหาวิทยาลัยไหนก็เหมือนกัน”
“มันก็ถูก ด้วยสถานะของนาย ความจริงนายจะเรียนมหาวิทยาลัยหรือไม่มันก็ไม่สำคัญ ตอนแรกฉันคิดว่านายจะไม่ไปร่วมสอบเอ็นทรานซ์เสียด้วยซ้ำ?” มู่หรงยานเอ๋อร์กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เฉินโม่ ตอนนี้นายยังอยู่ที่อู่โจวหรือเปล่า?” มู่หรงยานเอ๋อร์กล่าวด้วยความระมัดระวัง
“ทำไม? มีเรื่องอะไรหรือเปล่า?” เฉินโม่รู้สึกกังวลเล็กน้อย หรือว่าลูกศิษย์ของเหรินเทียนหยู่ไปหาเรื่องที่ตระกูลมู่หรง?
“ไม่มีอะไร เพียงแต่ฉันไม่ได้เจอนายนานแล้ว ก็เลยอยากจะเจอนาย!” ยิ่งอยู่น้ำเสียงของมู่หรงยานเอ๋อร์ยิ่งอ่อนโยนขึ้นเรื่อย ๆ ราวกับน้ำเสียงที่สนทนาระหว่างคู่รัก
เฉินโม่รู้ความคิดของมู่หรงยานเอ๋อร์เป็นอย่างดี ถึงแม้คราวนี้มู่หรงยานเอ๋อร์ขอให้เขาไปพบ บางทีเธออาจมีเหตุผลอื่นแอบแฝง แต่เรื่องที่มู่หรงยานเอ๋อร์อยากพบตนเองนั้นเป็นเรื่องจริงแน่นอน
และบังเอิญตนเองอยู่ที่มณฑลเจียงหนาน ถ้าเช่นนั้นตนเองก็แวะไปหาสาวน้อยเถอะ!
“ตอนนี้ผมอยู่ที่มณฑลเจียงหนาน คุณรออยู่ที่บ้าน ผมจะรีบไปทันที” เฉินโม่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“จริงเหรอ? นายอยู่ที่มณฑลเจียงหนาน เยี่ยมมากเลย!” เฉินโม่สามารถรู้สึกได้ว่ามู่หรงยานเอ๋อร์ที่อยู่ฝั่งโน้นกระโดดโลดเต้นด้วยความตื่นเต้น
“งั้นฉันจะรีบไปแต่งตัว ฉันจะรอนายอยู่ที่บ้าน นายรีบมาเร็ว ๆ น่ะ คำไหนคำนั้น!”
“วางใจเถอะ” เฉินโม่ยิ้มเล็กน้อย สาวน้อยคนนี้กังวลว่าตนเองจะหลอกเธอ
ถึงแม้พวกเขาจะอยู่ในเจียงหนานเหมือนกัน แต่สถานที่ที่เฉินโม่อยู่ไม่ใช่เมืองเดียวกับบ้านของตระกูลมู่หรง จากนั้นเฉินโม่เหมารถแท็กซี่คนหนึ่ง ตรงไปยังเมืองที่ตระกูลมู่หรงตั้งอยู่ทันที
เฉินโม่เคยไปวิลล่าชิงหลงของตระกูลมู่หรงครั้งหนึ่ง ถ้าเป็นคนธรรมดาอาจจะจำเส้นทางไม่ได้ แต่สำหรับเฉินโม่แล้ว ถ้าเขาเคยไปครั้งหนึ่ง ไม่ว่าถนนจะซับซ้อนแค่ไหน เขาก็สามารถจำทิวทัศน์ตลอดทางได้อย่างชัดเจน
ตอนที่เขามาถึงวิลล่าชิงหลงของตระกูลมู่หรง เป็นเวลาห้าโมงเย็น เมื่อเทียบกับตอนที่เขามาตระกูลมู่หรงคราวที่แล้ว ตอนนี้วิลล่าชิงหลงของตระกูลมู่หรงดูคึกคักยิ่งขึ้นไปอีก
ความจริงแล้วหลังจากเฉินโม่แสดงพลังที่ทรงพลังคราวก่อน หลังจากฆ่าเหรินเทียนหยู่แล้ว ผู้ทรงอิทธิพลทั้งหมดของมณฑลเจียงหนาน ถือว่าเฉินโม่เป็นว่าที่ลูกเขยของตระกูลมู่หรงแล้ว และการที่มีผู้แข็งแกร่งอย่างเฉินโม่อยู่ ทำให้พลังอำนาจของตระกูลมู่หรงสูงขึ้นไปอีกระดับ
เหล่าผู้ทรงอิทธิพลของมณฑลเจียงหนาน มักจะมาประจบตระกูลมู่หรงอยู่เสมอ ดังนั้นตระกูลมู่หรงที่เฉินโม่เห็นคราวนี้ คึกคักกว่าคราวก่อนแน่นอน
วันนี้ตระกูลมู่หรงต้องใช้กำลังคนมาก หลังจากทานอาหารกลางวันแล้ว พ่อบ้านลุงสุ่ยจึงประกาศว่าวันนี้จะไม่รับแขก