แดนนิรมิตเทพ บทที่ 752
จากนั้น เขาหันไปมองเฉินโม่ที่อยู่หลังเล่หรูหั่วด้วยสีหน้าเหยียดหยาม “เป็นผู้ชายที่รู้แต่หลบซ่อนอยู่หลังผู้หญิงเท่านั้น นายไม่คู่ควรเป็นคู่ต่อสู้ของฉันหรอก คราวนี้มีคนปกป้องนาย แต่คราวหน้านายจะไม่โชคดีแบบนี้หรอก!”
เฉินโม่ไม่พูดอะไร และไม่ได้รู้สึกโกรธ เพียงแต่เขายกมุมปากขึ้นเล็กน้อย มองหยุนเทียนหลิงและกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า “วางใจเถอะ พวกเราต้องได้พบกันอีกแน่นอน!”
“ฮึ่ม!” หยุนเทียนหลิงเดินจากไป เขาไม่ถือว่าเฉินโม่เป็นคู่ต่อสู้ของตนเอง และแน่นอนว่าเขาก็ไม่สนใจคำพูดของเฉินโม่เช่นกัน
จี๋ต๋าจิ่วตูมองแผ่นหลังของหยุนเทียนหลิงที่เดินจากไป ถามด้วยความปลงว่า “เจ้าหมอนั้นเป็นใคร เขามีพลังที่ทรงพลังมาก!”
เฉินโม่ไม่ตอบ เล่หรูหั่วก็ได้ไม่พูดอะไร แต่เจียงเสวี่ยกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เป็นแค่คนที่คิดว่าตนเองเก่งเท่านั้น”
เล่หรูหั่วมองเฉินโม่ และกล่าวด้วยสีหน้าจริงจังว่า “เฉินโม่ ต่อไปนายอย่ามายุ่งเรื่องระหว่างฉันกับเขา ถึงแม้ว่าเขาจะจองหอง แต่สิ่งที่เขาพูดบางอย่างก็เป็นความจริง นายไม่สามารถยั่วยุเขาได้หรอก!”
จี๋ต๋าจิ่วตูและคนอื่น ๆ รู้สึกไม่พอใจที่เล่หรูหั่วดูหมิ่นเฉินโม่ พ่นลมออกมาอย่างเย็นชา แต่พวกเขาก็ไม่ได้ตอบโต้เล่หรูหั่ว ถือว่าเป็นการให้เกียรติเธอ
เฉินโม่มองเล่หรูหั่วด้วยสีหน้าสงบ เขารู้ว่าการที่เล่หรูหั่วพูดเช่นนี้เพื่อปกป้องเขา
เพียงแต่ตอนนี้เฉินโม่ไม่ใช่เฉินโม่ในชาติก่อนอีกต่อไปแล้ว ชาติก่อนหยุนเทียนหลิงอาศัยความเป็นนักบู๊ แต่ตอนนี้สำหรับเฉินโม่แล้ว เขาไม่มีค่าให้เอ่ยถึงแม้แต่น้อย
กระทั่งยังสู้ตระกูลใหญ่ในโลกมนุษย์ไม่ได้เสียด้วยซ้ำ เพราะถ้าเฉินโม่ต้องการจัดการตระกูลใหญ่ในโลกมนุษย์ เขายังต้องคำนึงถึงความรู้สึกของเจ้าหน้าที่ทางการ
แต่สำหรับตระกูลบู๊อย่างตระกูลหยุนแล้ว ถึงแม้ว่าเฉินโม่จะไปจัดการที่ตระกูลหยุนแห่งจงไห่โดยตรง ก็ไม่มีอะไรต้องกังวล
เฉินโม่ไม่ตอบเล่หรูหั่ว เพราะมีคนตอบแทนเขาไปแล้ว
กู่หลินเฟิงหัวเราะเยาะ “ถึงแม้ว่าตระกูลหยุนแห่งจงไห่จะแข็งแกร่ง แต่หยุนเทียนหลิงเป็นเพียงนักบู๊แดนในเท่านั้น และเฉินโม่อาจจะไม่แพ้เขาก็ได้!”
เล่หรูหั่วไม่ได้ใส่ใจคำพูดของกู่หลินเฟิง เพราะเธอคิดว่ากู่หลินเฟิงแค่เป็นเดือนเป็นร้อนแทนเฉินโม่เท่านั้น นั่นเป็นเพราะเธอไม่เห็นตอนที่เฉินโม่ทำให้เยว่หนานตกใจกลัวจนหนีไป
“เฉินโม่ วันนี้ขอบคุณที่นายออกหน้าแทนฉัน แต่โปรดจำคำพูดของฉันไว้ นายกับเขาอยู่คนละโลก!”
มีรอยยิ้มปรากฏอยู่ในดวงตาของเฉินโม่ และเขากล่าวด้วยความเหยียดหยามว่า “ถูกต้อง ผมกับเขาอยู่คนละโลกจริง ๆ!”
เฉินโม่เป็นผู้บำเพ็ญที่เดินทางข้ามจักรวาลและดวงดาวบนท้องฟ้า ในขณะที่หยุนเทียนหลิงเพียงนักฝึกบู๊ที่ชั่วชีวิตก็ไม่สามารถเดินออกไปจากโลกใบนี้ได้ แล้วพวกเขาสองคนจะอยู่ในโลกเดียวกันได้อย่างไร?
เพียงแต่สำหรับเล่หรูหั่วแล้ว คำพูดของเฉินโม่มีความหมายอื่น โดยเฉพาะความเหยียดหยามที่ปรากกฏอยู่บนใบหน้าของเฉินโม่ ในสายตาของเล่หรูหั่วแล้ว มันเป็นการเยาะเย้ยตนเอง
“นายเข้าใจก็ดีแล้ว!” เล่หรูหั่วพยักหน้า มองเฉินโม่ด้วยความลึกซึ้งสักครู่ และกล่าวด้วยความเสียใจว่า “ฉันยอมรับว่าถึงแม้ฉันจะมีความรู้สึกดีกับนาย แต่สุดท้ายพวกเราก็ไม่ใช่คนที่สามารถเดินร่วมทางกันได้ ต่อไปได้โปรดอย่ามาเสียเวลากับฉันอีกเลย”
“ดูแลตัวเองด้วย!”
เล่หรูหั่วเดินจากไปทันที โดยไม่มีความอืดอาดยืดยาดแม้แต่น้อย เหมือนกับนิสัยของเธอ
เฉินโม่ยิ้มจาง ๆ “เธอยังคงเป็นคนตรงไปตรงมา แม้แต่ปฏิเสธคนก็ไร้ความปรานีขนาดนี้ ไม่เคยนึกถึงความรู้สึกของคนอื่นเลย”
“เธอ ยังคงเป็นคนเดิม……”
“เพียงแต่เธอไม่รู้ว่าผมไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปแล้ว!”