แดนนิรมิตเทพ บทที่ 844
“ฉันจะสั่งสอนแกเอง!”
เฉินโม่ส่ายศีรษะ “นายไปรักษาตัวก่อน ที่เหลือปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมเอง!”
“ครับ!” เฉินซงจื่อไม่กล้าฝ่าฝืนคำสั่งแม้แต่น้อย
“เฉินโม่ ตายเสียเถอะ!” หยุนซานตะโกนด้วยความโกรธ และใช้ท่าไม้ตายทันที
“วิชาหัตถ์หมุนเมฆ!”
หยุนซานกระโดดขึ้นไปกลางอากาศ ฝ่ามือของเขาประกบกัน จากนั้นก็คลายออกอย่างรวดเร็ว แล้วกดลงบนร่างของเฉินโม่
สีหน้าของหยุนเทียนหลิงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “คุณพ่อใช้ท่าไม้ตายของตนเองทันที เฉินโม่ วันนี้แกต้องตายอย่างแน่นอน!”
เล่หรูหั่วรู้สึกกังวล ถึงว่าแม้ว่าเฉินโม่จะเป็นอาจารย์ของนักพรตเฒ่า แต่เล่หรูหั่วไม่รู้ว่าเฉินโม่แข็งแกร่งแค่ไหน
เล่หรูหั่วอยากจะเตือนเฉินโม่ว่าอย่าอวดดี แต่ตอนนี้สถานะของเธอคือว่าที่ภรรยาของหยุนเทียนหลิง การเตือนศัตรูของพ่อสามีในอนาคต จะถูกคนอื่นวิพากษ์วิจารณ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
เล่หรูหั่วจึงทำได้เพียงเก็บความกังวลไว้ในก้นบึ้งของหัวใจเท่านั้น
เฉินซงจื่อมองหยุนซาน และแอบเยาะเย้ย ถึงแม้เขาจะรู้ว่านี่เป็นท่าไม้ตายของหยุนซาน แต่เขาก็ไม่คิดจะเตือนเฉินโม่ เพราะเฉินซงจื่อรู้ว่าด้วยความแข็งแกร่งของเฉินโม่แล้ว การจัดการหยุนซานเป็นแค่เรื่องของหมัดเดียวเท่านั้น
“วิชาหัตถ์หมุนเมฆของหยุนซานสมคำร่ำลือจริง ๆ เคล็ดวิชานี้ไม่แตกต่างจากวิชาเปลี่ยนมังกรลวงตาของหยุนคงมากนัก” หยูหมั่นกวนถอนหายใจและกล่าว
“ได้ยินว่าวิชาหัตถ์หมุนเมฆของหยุนซาน ดัดแปลงมาจากวิชาเปลี่ยนมังกรลวงตาของหยุนคง และพลังไม่ธรรมดาเช่นกัน” ผู้นำตระกูลหวางกล่าว
“ตระกูลหยุนยืนหยัดเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในโลกฝึกบู๊ของเมืองจงไห่เป็นเวลาหลายสิบหลายปี ดังนั้นชื่อเสียงต้องสมคำร่ำลืออย่างแน่นอน! แค่มีหยุนคงและหยุนซานอยู่ ก็จะไม่มีใครสามารถสั่นคลอนตำแหน่งของตระกูลหยุนในเมืองจงไห่ได้!” หยูหมั่นกวนกล่าว
“แค่ไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มคนนั้นจะแข็งแกร่งแค่ไหน? ในเมื่อเขาสามารถทำให้นักพรตเฉินเรียกว่าอาจารย์ได้ คิดว่าเขาต้องพิเศษกว่าคนอื่นแน่นอน!”
ผู้นำตระกูลหวางส่ายศีรษะแล้วกล่าวว่า “ผมไม่คิดเช่นนั้น เด็กคนนั้นอายุอย่างมากที่สุดแค่สิบแปดปีเท่านั้น ถึงแม้ว่าเขาจะเริ่มฝึกบู๊ตั้งแต่เกิด มันก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะแข็งแกร่งกว่าหยุนซานได้ แล้วนับประสาอะไรกับหยุนคง”
“อ้อ แล้วทำไมเขาถึงกล้ายืนออกมาในเวลาเช่นนี้ล่ะ?” หยูหมั่นกวนถามด้วยความสงสัย
ผู้นำตระกูลหวางหัวเราะและกล่าวว่า “เด็กหนุ่มล้วนมุทะลุ! เมื่อเห็นผู้หญิงที่ตนเองชอบแต่งงานกับคนอื่น ถ้าเป็นนาย นายสามารถทนได้เหรอ?”
หยูหมั่นกวนพยักหน้าเห็นด้วย “หวังว่าเขาจะไม่แพ้จนอนาถเกินไป มิเช่นนั้นตระกูลหยุนไม่ไว้ชีวิตเขาอย่างแน่นอน!”
คนอื่นต่างแอบคาดเดาความแข็งแกร่งของเฉินโม่ แต่หลายคนไม่ได้คาดหวังในตัวเฉินโม่ เพราะเฉินโม่เด็กเกินไป
เฉินโม่มองการโจมตีที่ทรงพลังของหยุนซานด้วยสีหน้าราบเรียบ ขณะที่หยุนซานพุ่งเข้าถึงหน้าเฉินโม่ด้วยระยะทางห้าเมตร เฉินโม่สะบัดมือทันที
“ฝีมือของแกยังห่างไกลมาก เปลี่ยนให้หยุนคงมาต่อสู้กับฉันเถอะ!”
หลังจากเฉินโม่กล่าวจบ หยุนซานรู้สึกราวกับว่าตนเองชนกับพายุเฮอริเคนระดับสิบสอง ซึ่งเป็นพลังที่ไม่มีใครสามารถเทียบได้
ปัง!
หยุนซานถูกเฉินโม่ตบเบา ๆ จนกระเด็นออกไป
เป็นไปได้ยังไง!
ทุกคนเงียบ!
ทุกคนมองเฉินโม่ด้วยความตกใจกลัว และสีหน้าเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“หยุนซาน… แพ้แล้ว?” สีหน้าของหยูหมั่นกวนเต็มไปด้วยความตกตะลึง เขาคิดถึงความเป็นไปได้นับร้อย แต่เขาไม่เคยคิดว่าผลลัพธ์จะเป็นเช่นนี้
หยุนเทียนหลิงร้องเหมือนหมูถูกเชือก “ไม่ เป็นไปไม่ได้! พ่อของฉันเป็นถึงปรมาจารย์แดนคุ้มกาย แล้วเขาจะไม่สามารถต้านรับแม้แต่กระบวนท่าเดียวได้อย่างไร? แกใช้กลอุบายต่ำทรามอะไรกับพ่อของฉัน?”
คนส่วนใหญ่ยอมรับคำพูดของหยุนเทียนหลิง พวกเขารู้สึกว่าเฉินโม่ต้องใช้กลอุบายต่ำทรามบางอย่าง มิฉะนั้น หยุนซานคงไม่ถึงกับไม่สามารถต้านได้แม้แต่กระบวนท่าเดียว?
เฉินโม่ไม่มองหยุนเทียนหลิงด้วยซ้ำ เขาทำอะไร ไม่จำเป็นต้องอธิบาย
แต่เฉินซงจื่อไม่อยากให้เฉินโม่ถูกเข้าใจผิด เขาจึงกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ความสามารถของอาจารย์ผม ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาอย่างพวกคุณจะสามารถจินตนาการได้ ไม่ต้องพูดถึงหยุนซาน ถึงเป็นผมก็ยากจะที่ต้านรับได้แม้แต่กระบวนท่าเดียวของอาจารย์!”