แดนนิรมิตเทพ บทที่ 865
เซี่ยงชงแปลงกายเป็นดวงอาทิตย์สีทอง ส่องประกายไปทั่วเนินเขาวิหคจอด
ถึงแม้ว่าพลังการโจมตีคราวนี้จะสู้ท่าไม้ตายที่โด่งดังมาหลายสิบปีของเซี่ยงชงไม่ได้ แต่วอกแปดแขนก็ทรงพลัง และไม่มีใครกล้าดูถูกพลังการโจมตีนี้
ร่างกายของเซี่ยงชงเปล่งประกายแสงสีทอง เหมือนพระพุทธรูปยักษ์ที่ลงมาจากสวรรค์ เสียงแตกที่ทะลุผ่านอากาศ แสดงให้ทุกคนเห็นถึงพลังของการโจมตีนี้
เฉินโม่ไม่ได้ถอย แต่เดินไปกลางอากาศหนึ่งก้าว แล้วปล่อยพลังหมัดขึ้นไปบนท้องฟ้า
“ท่าที่สามของหมัดเทพเทียนเสวียน ปราบฟ้าดิน”
บูม!
หมัดของพวกเขาสองคนปะทะกัน ราวกับระเบิดนิวเคลียร์ เสียงดังสนั่นไปทั่ว
เนินเขาวิหคจอดสั่นสะเทือนไปทั่ว ชี่ทิพย์ภายในรัศมีหนึ่งร้อยเมตรมลายหายไปหมด ต้นไม้ที่อยู่ในป่าทึบด้านล่างถูกแรงปะทะของพวกเขาสองคนพัดจนล้มไปรอบ ๆ เหมือนถูกลูกบอลขนาดใหญ่บดขยี้
มีระลอกคลื่นที่เป็นวงกลมที่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า ปรากฏอยู่ตรงจุดปะทะของพวกเขาสองคน ซึ่งเป็นระลอกคลื่นที่เกิดจากพลังที่ทรงพลังบดขยี้กับอากาศ
เฉินโม่ยืนอยู่กลางอากาศ แต่เซี่ยงชงกระเด็นกลับหัวออกไปหลายสิบเมตร และอาเจียนเป็นเลือด
แต่มันดีกว่าตอนที่ถูกเฉินโม่โจมตีแล้วตกลงในทะเลสาบกลับคืนรัง
“พลังเช่นนี้ เป็นพลังที่มนุษย์สามารถครอบครองได้เหรอ?” นักบู๊แดนในคนหนึ่งกล่าวพึมพำด้วยสีหน้าตกใจ
“ครอบครองได้แน่นอน และถ้าเป็นนักบู๊แดนเทพ พลังจะน่ากลัวขึ้นไปอีก”
ทุกคนต่างตกตะลึงกับพลังการโจมตีของพวกเขาสองคน ถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของพวกเขาจะเป็นระดับปรมาจารย์ แต่พวกเขาก็ตกใจเช่นกัน
“ภายใต้พลังดังกล่าว เกรงว่าแม้แต่ปรมาจารย์ก็ไม่สามารถต้านการโจมตีเช่นนี้ได้! มิน่าปรมาจารย์ของตระกูลหวงสี่คนร่วมมือกันโจมตี พวกเขาไม่เพียงไม่ประสบความสำเร็จเท่านั้น แต่กลับถูกเขาฆ่าตายไปสองคน” ปรมาจารย์จากมณฑลไห่ซีคนหนึ่งกล่าวและถอนหายใจ
เซี่ยงชงแอบปรับลมหายใจครู่หนึ่ง แล้วมองเฉินโม่ด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ตอนนี้สามารถกล่าวได้ว่าเขาใช้ท่าไม้ตายไปหมดแล้ว แต่ดูเหมือนว่าเฉินโม่ยังมีพลังเต็มเปี่ยม
หลังจากใช้หมัดวอกแล้ว พลังความแข็งแกร่งของเซี่ยงชงข้ามแดนมองขวัญไปแล้ว และใกล้แดนเทพแล้ว
เพียงแต่เขายังคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเฉินโม่ เฉินโม่แข็งแกร่งเพียงใดกันแน่? ตอนนี้เซี่ยงชงไม่กล้าจินตนาการแล้ว
อย่างไรก็ตาม เซี่ยงชงรู้สึกว่าถึงแม้เฉินโม่จะอัจฉริยะเพียงใด แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะบรรลุถึงแดนเทพแล้ว เพราะตอนนี้เขาอายุเพียงแค่สิบแปดปีเท่านั้น
แค่ปรมาจารย์อายุสิบแปดปีก็ล้มล้างการรับรู้ของโลกฝึกบู๊แล้ว ถ้าอายุสิบแปดปีบรรลุถึงแดนเทพ ถ้าเช่นนั้น……
เซี่ยงชงไม่สามารถจินตนาการได้อีกต่อไป แดนเทพอายุสิบแปดปี เกรงว่ามันจะทำให้โลกฝึกบู๊คลุ้มคลั่ง
เพียงแต่เฉินโม่สามารถเอาชนะคนที่ใกล้แดนเทพอย่างเขาได้ ถ้าเฉินโม่ไม่ใช่แดนเทพแล้วจะเป็นอะไร?
ข้างป่าเบื้องล่าง ชายชราสวมชุดลัทธิเต๋าได้รวบรวมคนจำนวนหกคน ทุกคนล้วนเป็นชายชราที่อายุเกินห้าสิบปี
เมื่อนักบู๊คนอื่นเห็นพวกเขา ทุกคนต่างคำนับพวกเขาด้วยสีหน้าหวาดกลัว แล้วรีบเดินจากไปทันที
ไม่มีคนอยู่ภายในรัศมีสิบเมตรที่พวกเขาหกคนยืนอยู่ และไม่มีใครกล้ายืนกับพวกเขา ถึงแม้ว่าตำแหน่งนี้จะเหมาะสำหรับชมการต่อสู้ระหว่างเฉินโม่กับเซี่ยงชงมากที่สุด
“ถ้าเป็นหมัดเมื่อสักครู่ พวกเราหกคนร่วมมือกัน จะสามารถต้านได้ไหม?” ชายชราคนที่หน้าเปล่งปลั่งมีเลือดฝาดถาม
“น่าจะต้านรับได้ เพียงแต่ไม่รู้ว่าหมัดเมื่อสักครู่เป็นพลังทั้งหมดของเขาหรือเปล่า?”
“คอยดูต่อไป ถือเสียว่าเซี่ยงชงต่อสู้นำหน้าแทนพวกเรา เพื่อหยั่งเชิงพลังของเด็กคนนั้น”
“อืม!”
กลางอากาศ ตำแหน่งของเซี่ยงชงอยู่ห่างจากเฉินโม่ค่อนข้างไกล หมัดเมื่อสักครู่เป็นการโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของเขาแล้ว แต่เขาก็ยังไม่สามารถเอาชนะเฉินโม่ได้
ตอนนี้เซี่ยงชงรู้สึกกลัวแล้ว เพราะความแข็งแกร่งของเฉินโม่นั้นเกินกว่าจินตนาการของเขามาก ตอนนี้สิ่งที่เขาต้องทำคือรักษาชีวิตตนเองเอาไว้