แดนนิรมิตเทพ บทที่ 893
สิ่งที่ผนึกไว้ในยันต์หยกของเฉินโม่คือค่ายกลไฟแท้สมาธิที่แท้จริง และค่ายกลกลืนเซียนร้อยพิษนั้นใช้พลังบำเพ็ญของมู่หงเต้าไปแปดสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว ตอนนี้เขาไม่สามารถต้านไฟแท้สมาธิได้แล้ว
ชั่วพริบตาเดียว ร่างของมู่หงเต้าก็ถูกเผาเป็นเถ้าถ่าน และจิตวิญญาณก็สลายไป
ไฟแท้สมาธิเผาเถาวัลย์ทั้งสองข้างทางจนกลายเป็นเถ้าถ่าน พูดแล้วมันก็แปลก นึกไม่ถึงว่ามันจะไม่มีควันแม้แต่น้อย แต่กลับมีเสียงร้องโหยหวนแทน ราวกับเถาวัลย์พิษเหล่านั้นมีชีวิต
ไฟแท้สมาธิเป็นเหมือนน้ำยาทำความสะอาดที่ชำระล้างสิ่งสกปรกทั้งหมดบนโลก ตอนนี้ไม่เหลือเถาวัลย์เขียวชอุ่มอยู่สองข้างของถนนสำนักยาเซียนแม้แต่เส้นเดียว
ท้องฟ้าที่อยู่ตรงหน้าเฉินโม่กลับมาสว่างอีกครั้ง ค่ายกลกลืนเซียนร้อยพิษถูกทำลาย
โจวลี่เต๋อถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพราะอย่างไรเสียเขาก็ยังเป็นเด็ก ถึงแม้ว่าประสบการณ์ที่โหดร้ายจะทำให้เขาเข้มแข็งกว่าคนทั่วไป แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาพบเห็นการต่อสู้ระหว่างคนไม่ธรรมดา ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหม่าเล็กน้อย
เฉินโม่มองมู่จือเสว๋ที่ยืนอยู่บนหน้าผาด้วยสีหน้าตกใจกลัว และกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ต้องให้ผมเชิญนายลงมาไหม?”
มู่จือเสว๋กลืนน้ำลาย และกล่าวด้วยน้ำเสียงตกใจ “ไม่ ไม่ต้อง ผมลงมาเองได้!”
แม้แต่ค่ายกลปกป้องที่เคยสังหารปรมาจารย์แดนมองขวัญแปดคนในคราวเดียว ก็ไม่สามารถทำอะไรช่วยเฉินโม่ได้ ทำให้มู่จือเสว๋หวาดกลัวอย่างสิ้นเชิง ตอนนี้บรรพบุรุษของตระกูลมู่ตายไปแล้ว และไม่มีใครในสำนักยาเซียนที่สามารถต้านพลังของเฉินโม่ได้อีกแล้ว
ถึงแม้ว่ามู่จือเสว๋เพิ่งจะบรรลุดึงระดับปรมาจารย์ แต่การลงมาจากหน้าผาขนาดเล็กไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขา
หลังจากกล่าวจบ มู่จือเสว๋ก็กระโดดลงมา และยืนอยู่ตรงหน้าเฉินโม่ด้วยสีหน้าพ่ายแพ้
“พาผมไปที่ห้องเก็บวัตถุดิบยาของตระกูลมู่” เฉินโม่กล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“โอเค!” มู่จือเสว๋ถอนหายใจ ด้วยสีหน้ายอมรับชะตากรรม
มู่จือเสว๋พาเฉินโม่เดินไปที่มุมตะวันตกเฉียงเหนือของหุบเขา ที่นี่มีอาคารหินแปดเหลี่ยมสองชั้น สลักคำว่าห้องศึกษายาอยู่บนประตู
ตัวอักษรนั้นเป็นอักษรตัวเต็มโบราณ ไม่ใช่อักษรตัวย่อที่ใช้ในปัจจุบัน และมีพลังผันผวนอยู่เล็กน้อย
เฉินโม่คิดว่าอาคารหินแปดเหลี่ยมนี้น่าจะสร้างขึ้นมานานหลายปีแล้ว
มู่จือเสว๋หยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเสื้อ และเปิดประตูหิน
กลิ่นวัตถุดิบยาที่รุนแรงลอยเข้ามา แล้วยังมีพลังโบราณผสมอยู่ด้วย
“นี่คือสถานที่เก็บวัตถุดิบยาและยาเม็ดของสำนักยาเซียน มีทั้งหมดสองชั้น ชั้นสองเป็นหอเก็บหนังสือ สิ่งที่นายต้องการอยู่ที่ชั้นหนึ่ง” มู่จือเสว๋กล่าวเหมือนเครื่องจักร และเหมือนหุ่นเชิดตัวหนึ่ง
“ตามผมเข้ามา” หลังจากเฉินโม่กล่าวจบ เขาก็เดินเข้าไปทันที
โจวลี่เต๋อเดินตามหลังเฉินโม่อย่างใกล้ชิด ด้วยสีหน้าประหลาดใจเล็กน้อย ถ้าสามารถหาวัตถุดิบยาได้ ก็จะสามารถรักษาอาการป่วยของพ่อหายได้
มู่จือเสว๋เดินเข้าไปเป็นคนสุดท้าย ถึงแม้ว่าเขาอยากจะหลบหนีมาก แต่เมื่อเผชิญกับบุคคลที่แม้แต่ค่ายกลกลืนเซียนร้อยพิษก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ตอนนี้มู่จือเสว๋ไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะหลบหนี
บนชั้นวางของห้องชั้นล่างเต็มไปด้วยวัตถุดิบยา ไม่ได้ขาดแคลนวัตถุดิบยาตามที่คนของสำนักยาเซียนกล่าว
เฉินโม่เหลือบมองมู่จือเสว๋ด้วยความเย็นชา มู่จือเสว๋เข้าใจเจตนาของเฉินโม่ ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะหน้าแดง
เฉินโม่เดินวนอยู่ที่ชั้นวางหนึ่งรอบ เขาไม่ต้องค้นหาทีละอย่าง เขาสามารถรู้ประเภทวัตถุดิบยาที่เขาต้องการ โดยอาศัยพลังทิพย์ที่ปล่อยออกมาจากวัตถุดิบยา
ต้องบอกว่าสำนักยาเซียนเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในโลกแห่งการกลั่นยา และจำนวนวัตถุดิบยาที่เก็บไว้ที่นี่ ทำให้เฉินโม่ประหลาดใจ
วัตถุดิบยาบางชนิดที่หายากในโลกบำเพ็ญเซียน แต่นึกไม่ถึงว่ามันจะปรากฏอยู่ที่นี่
ที่นี่มีวัตถุดิบยาที่เฉินโม่จะกลั่นยาสร้างรากฐานให้หน่วยรบพิเศษเทพอินทรี และวัตถุดิบยาที่ใช้กลั่นยาเสริมเทพสำหรับพ่อของโจวลี่เต๋อมากมาย
ถ้าสำนักยาเซียนอยู่ในการควบคุมของตนเอง ต่อไปเฉินโม่ก็ไม่ต้องกังวลเรื่องวัตถุดิบยาอีกแล้ว