เฉินโม่น้ำเสียงราบเรียบ “เธอเข้าใจแบบนี้ก็ได้ แต่ประโยคนั้นไม่ได้เจาะจงไปที่เธอคนเดียว”
“ไม่ลืมความตั้งใจแรกเริ่ม นายว่าฉันลืมความตั้งใจแรกเริ่ม แล้วนายล่ะ นายก็ลืมเหมือนกันไม่ใช่เหรอ” อานเข่อเยว่ตวาดออกมาเบาๆ
เฉินโม่ไม่ได้พูดอะไร ใช่ หลังจากเกิดใหม่อีกครั้ง เขาก็ลืมความตั้งใจแรกเริ่มที่มีต่ออานเข่อเยว่ แต่นั่นเป็นเพราะรู้ธาตุแท้ของอานเข่อเยว่และแม่ของเธอนานแล้ว จะมาว่าเขาไม่ได้
อานเข่อเยว่หัวเราะเย็นชา “ฉันยอมรับว่าตอนแรกฉันไม่จริงจังกับนายตลอด แต่ตอนนั้นนายก็แค่ลูกผู้ดีมีเงิน ไม่ทำการทำงาน ฉันผิดเหรอที่ไม่จริงจังกับนาย เพราะการเลือกของฉันในตอนนั้น ทำให้นายไร้เยื่อใยกับฉันขนาดนี้!”
“เฉินโม่ ทำไม”
“ทำไมนายถึงดีกับยานเอ๋อร์ขนาดนั้น แม้แต่เจี่ยงหยาว นายก็ยังทำดีด้วยจากใจจริง ทำไมมีเพียงแต่ฉันที่นายไร้เยื่อใยขนาดนี้! ทำไม” อานเข่อเยว่ตวาดออกมาแล้ว ไม่สนภาพลักษณ์ใด สภาพเหมือนคลั่ง
เจอการซักถามของอานเข่อเยว่ เฉินโม่หน้านิ่ง เหมือนกับประโยคที่เขาพูดตอนนั้น เมื่อทำบางเรื่องลงไปแล้ว ไม่อาจจะหวนกลับคืนได้อีกต่อไป
ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีความทรงจำอันเจ็บปวดชาติที่แล้ว ชาตินี้ลิขิตไว้แล้วว่าเขากับอานเข่อเยว่ต้องห่างกันเรื่อยๆ
เฉินโม่มองอานเข่อเยว่ ไม่มีความสงสารสักนิด พูดด้วยเสียงเฉยเมยว่า “ฉันก็ยังพูดประโยคเดิม ต้องถามตัวเธอเอง”
“ถามตัวฉันเองเหรอ” อานเข่อเยว่ฝืนยิ้มแล้วส่ายหน้า “ฉันไม่เข้าใจ”
เฉินโม่มองเธอ “เธอจะให้ฉันพูดออกมาให้ได้ใช่ไหม”
อานเข่อเยว่สีหน้าแน่วแน่ “ใช่ ถึงแพ้ อย่างน้อยนายก็ต้องทำให้ฉันแพ้ด้วยความชัดเจน”
เฉินโม่สีหน้าเหนื่อยใจ พูดเสียงเย็นชาว่า “แม้ฉันไม่มีอะไรสักอย่าง ยานเอ๋อร์ก็ยังทำเพื่อฉันได้ทุกอย่าง เธอทำได้ไหม”
“ถ้าอยู่ในช่วงที่ต้องเลือกระหว่างความเป็นตาย เจี่ยงหยาวสามารถใช้ชีวิตตัวเองแลกกับชีวิตฉัน เธอทำได้ไหม”
“ถ้าฉันไม่ใช่เฉินไต้ซือ ยังเป็นลูกผู้ดีมีเงินที่ไร้ความสามารถ เธอจะยังพูดกับฉันเหมือนวันนี้ไหม”
การซักถามสามครั้ง เสียงราบเรียบ แต่เหมือนฟ้าผ่าดังอยู่ในหัวอานเข่อเยว่สามครั้ง
คำถามที่เฉินโม่พูดออกมา อันที่จริงเธอเคยถามตัวเองมามากกว่าหนึ่งครั้ง ซึ่งเธอรู้คำตอบนานแล้ว แต่เธอแค่ไม่ยอมรับ
เธอทำไม่ได้!
ถ้าเฉินโม่ยังเป็นลูกผู้ดีมีเงินแห่งอู่โจว ที่ไม่ทำการทำงาน บางทีเธออาจจะไม่มองเขามากกว่านี้ด้วยซ้ำ
ตอนนี้เฉินโม่เป็นคนพูดออกมาเอง จิตใจของอานเข่อเยว่ไร้ความรู้สึกไปแล้ว
การอบรมสั่งสอนของแม่เธอ ทำให้เธอมีนิสัยเห็นแก่ผลประโยชน์มาก ดังนั้นเมื่อเธอทำเรื่องอะไรก็ตาม มักจะคำนึงถึงผลประโยชน์ก่อนเป็นอันดับแรก
ถึงเป็นเรื่องความรัก คู่ครองที่เธอต้องการ อย่างแรกคือพื้นฐานครอบครัวแน่นอน อย่างที่สองถึงจะเป็นนิสัยและความสามารถ
ดังนั้นมู่หรงยานเอ๋อร์กับเจี่ยงหยาวสามารถทำได้ แต่เธอทำไม่ได้
เฉินโม่พูดต่อ “เธออยากได้เท่าไร ต้องดูว่าเธอให้ไปเท่าไร เธอยังทำไม่ได้สักอย่าง แล้วจะไปเรียกร้องให้คนอื่นทำได้ยังไง”
“ฉันพูดแค่นี้ หวังว่าเธอจะทำตัวให้ดี ถ้าต่อไปเจอกันอีก ก็เป็นเพียงคนแปลกหน้า” พูดจบ เฉินโม่หันหลังเดินออกไป เหลือเพียงอานเข่อเยว่ที่ยืนใบหน้าช็อกอยู่ที่เดิม
“ถ้าต่อไปเจอกันอีก ก็เป็นเพียงคนแปลกหน้า……เหอะๆ ไร้เยื่อใยจริงๆ!” อานเข่อเยว่กำมือขาวทั้งสองข้างแน่น จนเล็บจิกเข้าไปในเนื้อ เลือดสดไหลลงมาตามมือขาวไม่หยุด
เหมือนในใจของอานเข่อเยว่ในตอนนี้ ที่เจ็บปวดเป็นอย่างมาก
“เฉินโม่ ต้องมีสักวันที่ฉันจะทำให้นายเสียใจ สำหรับสิ่งที่นายเลือกในวันนี้! ฉันเชื่อว่าต้องมีสักวัน!” อานเข่อเยว่ตะโกนเงียบๆ อยู่ในใจ ความไม่พอใจและความเคียดแค้นตัวเอง กลายเป็นความเจ็บปวดและขุ่นเคือง เหมือนไฟแค้นที่สามารถกลืนกินทุกอย่างได้
วันต่อมา การกล่าวสุนทรพจน์ระดับนักเรียนได้เริ่มขึ้น
ครั้งนี้มหาวิทยาลัยหัวหนานส่งหวางเฉิงขึ้นไป ผลปรากฏว่าตอนกำลังอ้างอิงเหตุผล เกิดข้อผิดพลาดขึ้น ตัวเองไม่สามารถพูดต่อได้ สุดท้ายเดินคอตกลงจากเวที