แดนนิรมิตเทพ บทที่ 929
“ใช่ พวกเราต่างก็อยากรู้มากว่าทำไมนักศึกษาเฉินโม่ถึงได้ประสบความสำเร็จด้านนิเวศวิทยามากขนาดนี้ รบกวนเฉินโม่บอกกับพวกเราหน่อยสิ!”
มีหญิงสาวสวยคนหนึ่ง มองเฉินโม่ด้วยสีหน้ายกย่องนับถือ ดวงตาเป็นประกาย
“ใช่แล้ว บอกกับพวกเราหน่อยสินักศึกษาเฉินโม่ มีของดีก็ต้องแบ่งปันกัน อย่าได้เก็บไว้คนเดียวเลย!”
คนส่วนมากต่างก็พูดสมทบ พวกเขาอยากเรียนรู้วิธีการศึกษาของเฉินโม่จริงๆ
หานทงแอบดีใจ “ได้โอกาสละ!”
“ใช่แล้ว พวกเราอยากเรียนรู้วิธีการศึกษาของเฉินโม่ ให้พวกเราได้เรียนรู้ถึงนิเวศวิทยาที่ไม่มีสอนในโรงเรียนแบบนี้บ้าง” หานทงซ่อนอยู่ในกลุ่มนักศึกษา แล้วตะโกนออกไปอย่างหวังร้าย
ทุกคนนิ่งอึ้ง น้ำเสียงนี้ฟังออกได้ว่ามีความสงสัย เห็นได้ชัดว่าสงสัยเฉินโม่ที่มีความรู้ที่ไม่สอนอยู่ในหนังสือพวกนี้
ที่จริงแล้วคำพูดของหานทงเองก็พูดสิ่งในใจของทุกคนออกมา พวกเขาเองก็สงสัยว่าเฉินโม่ไปเรียนรู้จากที่ไหนมา แต่หากถามแบบนี้ก็เหมือนว่ากำลังสงสัยเฉินโม่ ดังนั้นจึงไม่มีใครอยากมีปัญหากับเฉินโม่
แม้แต่หยางจื่อหนิงและศาสตราจารย์เสิ่นพวกนี้ ต่างก็สงสัยที่มาความรู้ของเฉินโม่ แต่เพราะฐานะตำแหน่งของตัวเอง จึงไม่กล้าถามออกไป
แต่ในเมื่อมีคนถามแล้ว ก็ไม่มีใครคิดจะขัดขวาง เพราะว่าพวกเขาเองก็อยากรู้เช่นกัน
แววตาเฉินโม่เหลือบมองหานทงที่ก้มหัวซ่อนอยู่ในกลุ่มผู้คน เขาฟังออกว่าเสียงเมื่อกี้คือเขาเป็นคนพูด
แต่ว่า เฉินโม่รู้ ว่าคำถามนี้ก็เป็นคำถามที่หลายคนอยากจะถาม อีกอย่างคำถามนี้ก็ไม่ได้แย่เกินไป เพราะยังไงซะความรู้ที่เขากล่าวมาก็ยากมากเกินไป จะต้องมีคนสงสัยแน่นอน
ในตอนที่เฉินโม่กล่าว ก็ได้คิดถึงผลลัพธ์แล้ว แต่ว่าเขาไม่ได้คิดจะตอบ เพราะว่าเขาไม่สามารถตอบได้ คงจะบอกไปไม่ได้ว่าเขาเคยท่องเที่ยวในจักรวาลหรอกมั้ง!
อีกอย่างแม้ไม่ตอบก็ไม่มีใครทำอะไรเขาได้ เพราะยังไงซะทุกคนก็มีเรื่องส่วนตัวทั้งนั้น
แต่ตอนนี้ทุกคนถูกหานทงล่อลวง จึงสามารถผิดต่อความคิดแรกของตัวเองได้อย่างง่ายดาย
เฉินโม่ต้องให้คำเตือนกับทุกคนไว้ เพื่อป้องกันไม่ให้พวกเขาถูกคนชั่วร้ายอย่างหานทงหลอกใช้ประโยชน์
จู่ๆเฉินโม่ก็นึกถึงเรื่องเล่าหนึ่ง เรื่องนี้คือศิษย์น้องหญิงเป็นคนบอกกับเขา ตอนนั้นในขณะที่ทำให้เขาหัวเราะออกมาได้ ก็ทำให้เขารู้สึกซึ้งใจด้วยเช่นกัน
เฉินโม่รู้สึกว่าตอนนี้หากใช้เรื่องเล่านั้นมาเตือนทุกคนนั้นดูเหมาะสมอย่างมาก
เฉินโม่พยักหน้าให้กับพิธีกร พิธีกรจึงพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ทุกท่านเงียบสักครู่ นักศึกษาเฉินโม่มีคำตอบให้เราแล้วค่ะ”
คำพูดนี้มีผลอย่างมาก สถานการณ์เงียบกริบลงทันที
สายตาของทุกคน ล้วนจ้องมองไปที่เฉินโม่ แม้แต่พวกหยางจื่อหนิงเองก็ไม่เว้น
เฉินโม่ฉีกยิ้มเล็กน้อย น้ำเสียงนิ่งสงบ “ผมเล่าเรื่องหนึ่งให้ทุกท่านฟังก่อนแล้วกันครับ!”
ด้านล่างมีเสียงปรบมือดังขึ้นทันที ที่จริงแล้วไม่ว่าเฉินโม่จะพูดอะไรเพียงแค่เฉินโม่ยินดีจะพูด ต่างก็ล้วนเติมเต็มความอยากรู้อยากเห็นของพวกเขาได้ทั้งนั้น
เฉินโม่รอจนเสียงปรบมือเงียบลง แล้วเริ่มเล่าเรื่อง “ก่อนหน้านี้มีคนคนหนึ่งเลี้ยงปลาไว้หลายตัว มีวันหนึ่งปลาพวกนี้ล้วนตายจนหมด เขารู้สึกเสียใจอย่างมาก เขาคิดว่าควรจะฝังปลาพวกนี้ซะ ให้พวกมันได้มีศักดิ์ศรี”
“แต่ว่า เขาไม่อยากฝังดิน เขาคิดว่าปลามีชีวิตอยู่ในท้องทะเล ดังนั้นเขาจึงเผามัน จากนั้นก็นำเอากระดูกปลาโปรยลงทะเล ให้พวกมันได้กลับสู่อ้อมกอดของแม่”
ทุกคนตั้งใจฟังอย่างมาก แต่ไม่เข้าใจว่าเฉินโม่หมายความว่าอย่างไร
เฉินโม่เล่าต่อไปว่า “ในขณะที่คนผู้นี้กำลังจะนำเอาปลาไปเผา…ยิ่งเผาก็ยิ่งหอม จากนั้นเขาจึงไปซื้อเบียร์มา….”
เมื่อเล่าถึงตรงนี้ มีนักศึกษาบางส่วนหัวเราะออกมา เหมือนกับเฉินโม่ในตอนนั้นที่เพิ่งได้ฟังครั้งแรก