แต่โลกนี้ไม่แน่นอน อีกทั้งเรื่องส่วนใหญ่มักจะไม่เป็นอย่างที่คิดไว้
เฉินโม่อยากอยู่เงียบๆ คนเดียว แต่ก็ดันมีคนทำให้เขาไม่สมหวังซะอย่างนั้น
หมิงเจ๋อเซวียนไม่ยอมที่แพ้เฉินโม่แบบนี้ เมื่อรู้ว่าพวกมหาวิทยาลัยหัวหนานจะอยู่เที่ยวที่ยานจิงหนึ่งวัน จู่ๆ ก็เกิดความคิดแก้แค้นเฉินโม่ขึ้นมา
ตระกูลหมิงมีอิทธิพลต่ำสุดในยานจิง ยังต่ำกว่าตระกูลเอียนที่เอียนชิงเฉิงอาศัยอยู่ แต่ถึงมีอิทธิพลต่ำสุดในยานจิง แต่ก็ไม่ต่างจากตระกูลเล่แห่งจงไห่เท่าไร
เมื่อคืนรู้ว่าพวกเฉินโม่ยังไม่ออกจากยานจิง หมิงเจ๋อเซวียนเรียกรวมพวกเพื่อนที่เลวเหมือนกัน ปรึกษากันว่าจะแก้แค้นเฉินโม่ยังไง
เมื่อปรึกษากันเสร็จ วันนี้หมิงเจ๋อเซวียนพาพวกเพื่อนเลวและลูกน้อง ขับรถมายังโรงแรมที่เฉินโม่พักอยู่
พูดตามตรง แม้ตระกูลหมิงเป็นตระกูลอันดับต่ำสุด แต่หมิงเจ๋อเซวียนใช้ชีวิตในยานจิงได้ไม่เลวเลย
เมื่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของโรงแรมนี้เห็นเขา รีบโค้งทำความเคารพประจบสอพลอ “คุณชายหมิง มาแล้วเหรอครับ!”
หมิงเจ๋อเซวียนพยักหน้า ถ้าตามปกติ เขาไม่สนใจเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของที่นี่ด้วยซ้ำ แต่วันนี้มาพร้อมเป้าหมาย อีกเดี๋ยวต้องใช้งานเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย
“ฉันถามพวกนายหน่อย พวกที่มาจากมหาวิทยาลัยหัวหนานพักอยู่ที่ไหน พวกนายมีใครรู้บ้าง” หมิงเจ๋อเซวียนเอาบุหรี่ราคาแพงออกมา ลูกน้องที่อยู่ข้างๆ รีบเข้ามาจุดไฟให้เขา
เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองคน มีสีหน้าลำบากใจ รปภ.หนึ่งในนั้นที่ไว้หนวดบางๆ เหนือริมฝีปาก ยิ้มแหยแล้วพูดว่า “คุณชายหมิง ใช่ว่าคุณจะไม่รู้กฎของที่นี่นะครับ เราไม่อนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลของแขกครับ”
หมิงเจ๋อเซวียนยิ้มบางๆ ล้วงแบงก์ร้อยหยวนออกมาปึกใหญ่ “ฉันรู้กฎอยู่แล้ว แต่ยังไงคนก็เป็นคนตั้งกฎขึ้นมา ถ้าพวกนายไม่พูด งั้นฉันจะถามคนอื่น”
“อย่าครับๆ คุณชายหมิง เราพูดแล้ว”
ภายใต้ผลประโยชน์ด้านเงินทอง เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งสองคน รีบบอกเลขห้องของเฉินโม่ให้หมิงเจ๋อเซวียน
ห้องของเฉินโม่
หมิงเจ๋อเซวียนมองหมายเลขห้อง พยักหน้าพูดว่า “ห้องนี้แหละ”
“เคาะประตู!”
ลูกน้องคนหนึ่งรีบเดินเข้าไปเคาะประตูอย่างแรง
เฉินโม่ที่อยู่ในห้องลืมตาขึ้น พูดด้วยสีหน้านิ่งว่า “เข้ามา”
พูดพลางยกมือขึ้น ประตูเปิดออกทันที
หมิงเจ๋อเซวียนพาคนเดินเข้ามา พร้อมรอยยิ้มร้ายกาจบนใบหน้า
เมื่อเห็นหมิงเจ๋อเซวียน เฉินโม่พูดอย่างเย็นชาว่า “บอกจุดประสงค์ของนายมา”
หมิงเจ๋อเซวียนหัวเราะคิกคัก เผยท่าทางที่ไม่เหมือนกับตอนอยู่ในโรงเรียน
“เฉินโม่ อีกเดี๋ยวฉันมีกิจกรรมที่สโมสรเซียงซาน ฉันได้ยินว่านายยังไม่กลับ เลยตั้งใจมาชวนนายไป”
เฉินโม่พูดอย่างเย็นชาว่า “ไม่ไป” พูดจบก็หลับตาลง
หมิงเจ๋อเซวียนใบหน้าชะงักไป ท่าทีของเฉินโม่ ทำให้เขาเสียหน้าต่อหน้าเพื่อนและลูกน้อง
ลูกน้องย้อมผมทองคนหนึ่งพูดอย่างเย็นชาว่า “พี่หมิง ไอ้หมอนี่อวดดีมาก ให้พวกเราช่วยสั่งสอนไหม!”
หมิงเจ๋อเซวียนพูดอย่างเย็นชาว่า “ไม่ต้อง ทุกคนล้วนเป็นปัญญาชน ไม่สามารถแก้ไขปัญหาทุกอย่างได้ด้วยกำลัง”
ไม่ใช่ว่าเขาไม่อยากใช้กำลังกับเฉินโม่ แต่เพราะตอนนี้เฉินโม่ชื่อเสียงโด่งดัง คนจำนวนมากรู้เรื่องที่เขาพนันกับเฉินโม่ ถ้าตอนนี้เฉินโม่บาดเจ็บ คนที่ทุกคนจะสงสัยเป็นคนแรกก็คือเขา
เพื่อที่จะหลงเหลือภาพลักษณ์อันดีเอาไว้ในโรงเรียน แน่นอนว่าหมิงเจ๋อเซวียนต้องไม่ใช้กำลัง เพื่อไม่ให้เป็นรอยด่างในประวัติของตัวเอง
อีกทั้งเขามาเพื่อทำให้เฉินโม่อับอาย การใช้กำลังทำให้อับอาย เป็นวิธีที่ต่ำที่สุดในแวดวงของพวกเขา เขาจะเหยียบเฉินโม่ด้วยเส้นสายและพื้นฐานครอบครัวของเขา ให้เฉินโม่รู้ถึงความกระจอกของตัวเอง