แดนนิรมิตเทพ บทที่ 992
พวกห่าวเจี้ยนพยักหน้าเห็นด้วยเช่นกัน
“หึ พวกนายไม่เชื่อเฉินโม่ แต่ฉันเชื่อ! เฉินโม่บอกว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลไช่ติดเงินเขา ไม่ได้โกหกแน่นอน!” มู่หรงยานเอ๋อร์พูดด้วยใบหน้าจริงจัง
จี๋ต๋าจิ่วตูเงยหน้ามองฟ้า พูดพึมพำว่า “ถ้าตอนไหนเฉินโม่พูดแล้วเธอไม่เชื่อสิถึงจะแปลก”
“นายพูดอะไร!” มู่หรงยานเอ๋อร์ถลึงตาใส่จี๋ต๋าจิ่วตู จี๋ต๋าจิ่วตูตกใจจนรีบพูดใหม่ “ฉันก็คิดว่าเฉินโม่พูดจริง คุณหนูใหญ่ตระกูลไช่อะไรนั่นต้องติดเงินเขาแน่ๆ! อืม ต้องใช่แน่นอน!”
“อันนี้ก็พอได้อยู่!” มู่หรงยานเอ๋อร์เพิ่งจะพอใจ
เล่หรูหั่วขมวดคิ้วเบาๆ เธอค่อนข้างเชื่อคำพูดเฉินโม่ แต่เธอรู้สึกว่าคุณหนูใหญ่ตระกูลไช่ คงไม่ได้มาหาเฉินโม่เพราะต้องการยืมเงินแน่นอน
ขนาดเจียงอี่ว์เวยยังไม่เชื่อ กังวลว่าเฉินโม่จะก่อเรื่องใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แล้วจะโดนตระกูลไช่แก้แค้น จึงพูดเกลี้ยกล่อมด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “เฉินโม่ นายรีบไปเถอะ ไม่ต้องสนใจเรื่องฉัน”
แต่เฉินโม่กลับไม่สนใจ พูดต่อไปว่า “ฉันพูดจริง ตระกูลนายติดเงินฉันจริง ตอนนี้เงินต้นและดอกเบี้ย ก็ประมาณหลายพันล้านแล้ว” เฉินโม่ใบหน้าจริงจัง สายตานั่นดูยังไงก็ไม่เหมือนกำลังโกหก
แต่ไม่มีใครเชื่อเขา
ไช่อิงฉินยิ้มเยาะแล้วพูดว่า “ไอ้หนุ่ม นายกล้าพูดแบบนี้ที่นี่ ถ้านายไปก่างวานแล้วยังกล้าพูดแบบนี้ ฉันรับรองเลยว่านายจะตายอย่างน่าเวทนาแน่นอน!”
“วางใจเถอะ อีกไม่นานฉันก็จะไปทวงหนี้กับพวกนายแล้ว! ถ้านายไม่เชื่อ ทางที่ดีโทรหาไช่เหวินหย่าตอนนี้เลย ถือโอกาสบอกเธอด้วย ให้เธอเตรียมเงินไว้ให้เรียบร้อย!” เฉินโม่พูดอย่างราบเรียบ ดูท่าทางจริงจังเป็นอย่างมาก
เห็นเฉินโม่ยังปากแข็ง ทุกคนเริ่มสงสัยแล้ว
“ดูท่าทางไอ้หมอนี่ไม่กลัวเพราะมีที่พึ่งพิง อย่าบอกนะว่าเขาพูดจริง”
“ฉันก็คิดอย่างนี้เหมือนกัน ถ้าโกหก เขาไม่มีทางแน่วแน่แบบนี้”
ทุกคนพากันคาดเดา
ไช่อิงฉินก็แอบหวั่นใจ เขาก็คิดว่าสีหน้าของเฉินโม่ดูไม่เหมือนแสร้งทำ โทรถามคุณหนูใหญ่ตอนนี้เลยดีไหม ถ้าไอ้เด็กนี่โกหก จะได้แฉเขาทันที ดูสิว่าเขาจะดิ้นยังไง
ถ้าเขาพูดจริง ก็จะได้เตือนคุณหนูใหญ่ได้พอดี
เมื่อตัดสินใจได้ ไช่อิงฉินรีบเอามือถือออกมา จะโทรหาไช่เหวินหย่า
“ไอ้หนุ่ม ถ้านายพูดโกหก ฉันขอเตือนให้นายรีบยอมรับซะตอนนี้ จะได้ไม่ทำให้ตัวเองดูแย่!” ไช่อิงฉินพูดเสียงเย็นชา
“อย่าพูดไร้สาระ รีบโทรสิ!” เฉินโม่พูดอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย
“หึ!” ไช่อิงฉินส่งเสียงหึอย่างเย็นชา แล้วกดปุ่มโทรออก
มือถือดังอยู่ห้าครั้ง ก็มีคนรับสาย
มีเสียงผู้หญิงที่ดูเย่อหยิ่งดังออกมาจากโทรศัพท์ “มีธุระอะไรเหรอ”
รอยยิ้มสอพลอปรากฏบนหน้าไช่อิงฉิน น้ำเสียงเป็นกันเอง “หลานเหวินหย่า ฉันมีเรื่องหนึ่งอยากยืนยันกับเธอ”
“มีอะไรก็รีบพูดมา ฉันกำลังประชุมอยู่!” เสียงไช่เหวินหย่าดูหงุดหงิดเล็กน้อย
“คืออย่างนี้ มีนักเรียนชื่อเฉินโม่ บอกว่าเธอติดเงินเขา ยังบอกอีกว่าอีกไม่นานจะไปเยี่ยมถึงที่……”
ไช่อิงฉินยังไม่ทันพูดจบ เสียงตื่นเต้นดังออกมาจากโทรศัพท์ “เฉินโม่! นายเจอเขาแล้วเหรอ”
“อืม ตอนนี้เขาอยู่ข้างฉัน” ไช่อิงฉินมองเฉินโม่อย่างประหลาดใจ เสียงตกใจจากไช่เหวินหย่าเมื่อครู่ เขาเดาได้แล้วว่าที่เฉินโม่พูดเมื่อกี้คือเรื่องจริง
เสียงของไช่เหวินหย่ากลับเป็นปกติอย่างรวดเร็ว พูดอย่างเย็นชาว่า “นายให้เขามาสิ อยากได้เงินก็ดูว่าเขามีปัญญาหรือเปล่า!”
พูดจบ ไช่เหวินหย่าตัดสายไปทันที
รอบๆ ไช่อิงฉินมีหลายคนได้ยินคำพูดของไช่เหวินหย่า ข่าวแพร่ไปทั้งห้องโถงอย่างรวดเร็ว
“คุณหนูใหญ่ตระกูลไช่ติดเงินเขาจริงๆ!”
“เหลือเชื่อเกินไปจริงๆ!”
ทันใดนั้น สายตาที่ทุกคนหันมามองเฉินโม่อีกครั้ง แฝงไปด้วยความสงสัยอย่างมาก
“ฮ่าๆ ฉันบอกแล้วว่าเฉินโม่ไม่โกหก ดูสิว่าฉันเดาถูก!”
จี๋ต๋าจิ่วตูพูดด้วยรอยยิ้มอย่างหน้าไม่อาย
มู่หรงยานเอ๋อร์มองบนใส่เขา ไม่ได้พูดเปิดโปงเขา