แดนนิรมิตเทพ บทที่ 1008
นักพรตยู่หลงฉีกยิ้ม หัวเราะอย่างประหลาดแล้วพูดว่า “ยอมแพ้เหรอ เหอะๆ……”
คนตระกูลไช่สีหน้าดีใจ ไช่เหวินหย่าพูดว่า “ดีมากเลย ดูเหมือนนักพรตยู่หลงยังมีท่าไม้ตายที่ยังไม่ได้ใช้ออกมา!”
“ในเมื่อนักพรตยู่หลงเลือกที่นี่เป็นสถานที่ต่อสู้ เขาต้องมีแผนการเหลืออยู่แน่นอน”
“หวังว่าแผนการที่เหลืออยู่ของนักพรตยู่หลง จะเอาชนะเฉินโม่ได้!” ไช่อิ้งเวินพูดอย่างทอดถอนใจ เมื่อกี้เขาก็รู้สึกว่านักพรตยู่หลงครองความได้เปรียบด้านสถานที่ ต้องชนะแน่นอน แต่ตอนนี้ไม่ได้คิดแบบนั้นแล้ว
ทุกคนที่ชมการต่อสู้ ได้ยินว่านักพรตยู่หลงยังมีท่าไม้ตาย จู่ๆ ก็คาดหวังเป็นอย่างมาก
“ไม่รู้ว่านักพรตยู่หลงยังมีท่าไม้ตายอะไร ที่ยังไม่ได้ใช้ออกมา แต่ต้องแข็งแกร่งกว่ากระบวนท่าดาวร่วงหล่นเมื่อครู่ ไม่งั้นก็ทำอะไรเฉินไต้ซือไม่ได้อยู่ดี” มีนักบู๊พูดอย่างทอดถอนใจ
“ฉันว่ายาก ฉันว่ากระบวนท่าดาวร่วงหล่น เป็นขีดสุดของนักพรตยู่หลงแล้ว ถ้าเขายังมีการโจมตีที่แข็งแกร่งกว่านี้ คงไม่รอถึงตอนนี้หรอก นายไม่เห็นเหรอ ถ้าเมื่อกี้นักพรตยู่หลงไม่มีเครื่องรางป้องกันที่แข็งแกร่งอยู่ในมือ ตอนนี้เขาคงตายไปแล้ว!”
ทุกคนพยักหน้าไม่หยุด เห็นได้ชัดว่าเห็นด้วยกับความเห็นของคนนี้ ตอนนี้คนส่วนใหญ่มองว่านักพรตยู่หลงก็แค่งั้นๆ ถึงขนาดที่มีคนสงสัยว่าพละกำลังของเฉินโม่ถึงแดนเทพแล้ว!
นักพรตยู่หลงเงยหน้ามองฟ้ายามค่ำคืน มีดวงจันทร์กลมอยู่บนท้องฟ้า แต่ไม่สามารถบดบังแสงของหมู่ดาวได้อยู่ดี
“เฉินไต้ซือ ถ้าอยู่ที่อื่น ตอนนี้ฉันคงยอมแพ้นายแล้ว แต่นายอย่าลืมสิว่าที่นี่คือเขายู่หลงของฉัน!”
เฉินโม่เดาได้นานแล้วว่านักพรตยู่หลงเลือกที่นี่เป็นที่ต่อสู้ ต้องเตรียมอะไรไว้ล่วงหน้าแล้ว แต่เขาจะกลัวไปทำไมล่ะ
“ถึงที่นี่คือเขายู่หลง แล้วทำไมล่ะ”
“หึ งั้นจะให้นายได้เห็นความเก่งกาจของค่ายกลโบราณเขายู่หลงของฉัน!” นักพรตยู่หลงพูดอย่างเย็นชา
“ค่ายกลโบราณ!”
ทุกคนตกใจ!
คนที่คุ้นเคยกับเขายู่หลง ไม่เคยได้ยินว่าเขายู่หลงมีค่ายกลโบราณ
แต่ในเมื่อนักพรตยู่หลงบอกว่ามี ต้องไม่ผิดพลาดแน่นอน
เฉินโม่ก็ประหลาดใจ ถ้าเป็นค่ายกลโบราณจริงๆ ไม่แน่อาจสร้างความเสียหายให้เขาได้
นักพรตยู่หลงใช้สองมือจับหนังสือสวรรค์ขึ้นมา ด้วยใบหน้าเลื่อมใสมาก
“ศิษย์ยู่หลง ขอใช้ค่ายกลหมื่นดวงดาว เพื่อทำให้ศัตรูล่าถอย!”
“ค่ายกลหมื่นดวงดาวเหรอ ฟังดูเก่งกาจมากเลยนะ ไม่รู้พลานุภาพเป็นยังไง” ทุกคนใบหน้าคาดหวัง ค่ายกลที่ทำให้นักพรตยู่หลงเก็บซ่อนถึงตอนนี้ พลานุภาพต้องสะท้านฟ้าสะเทือนดินแน่ๆ
นักพรตยู่หลงอ้าปากพ่นเลือดใส่บนหนังสือสวรรค์ หลังจากนั้นหนังสือเล่มนั้นกลายเป็นแสงสีเงิน พุ่งขึ้นไปบนฟ้า
ตอนนี้เหมือนทั้งเขายู่หลงสั่นสะเทือน ดวงจันทร์กลมและดวงดาวบนฟ้ายามค่ำคืน แสงหม่นหมองตามไปด้วย
“นี่มันอะไรกัน” จู่ๆ ทุกคนรู้สึกถึงบรรยากาศอึดอัดลงมาจากท้องฟ้า ไม่ว่าจะเป็นนักบู๊แดนนอกที่พละกำลังต่ำ หรือเป็นปรมาจารย์ที่ถึงระดับแดนมองขวัญแล้ว ล้วนรู้สึกว่าหายใจลำบาก
เฉินโม่ตกใจ “นี่คือพลังฟ้าดิน! ค่ายกลนี้คือค่ายกลที่ผู้บำเพ็ญสมัยโบราณหลงเหลือไว้!”
จู่ๆ ลำแสงหนึ่งพาดผ่านท้องฟ้ายามค่ำคืน หลังจากนั้นแสงนับไม่ถ้วนสว่างขึ้น ดวงดาวบนฟ้าสว่างขึ้นอย่างรวดเร็วหลายเท่า เหมือนเปิดหลอดไฟอย่างกะทันหัน
นักพรตยู่หลงยกสองมือขึ้นสูง ใบหน้าเลื่อมใส หมอบกราบบนฟ้า “ศิษย์ยู่หลง ขอใช้ดวงดาวทั้งท้องฟ้า!”
ครืนน!
ทันใดนั้น เหมือนทั้งโลกสั่นสะเทือนครู่หนึ่ง บรรยากาศแข็งแกร่งจนน่ากลัวปกคลุมทั้งเขายู่หลง
ทุกคนเกิดความคิดอยากหมอบกราบขึ้นมา อย่างไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เหมือนเหล่าเทพที่มีอำนาจกับผู้คน ลงมายังโลกมนุษย์
พลานุภาพน่ากลัว เหมือนพลังของทั้งโลก กดดันอยู่บนตัวคนคนเดียว ทำให้คนหายใจไม่ออกและหวาดผวา