สองผู้ตรวจสอบรีบนำผลการประเมินมอบให้เฉินตงซุ่น เมื่อเฉินตงซุ่นตรวจสอบดูก็รีบนำส่งต่อให้กับสามผู้อาวุโสทันที
เนื่องจากมีเหตุการณ์ของเฉินหลี้เกิดขึ้นทุกคนจึงมีการเตรียมใจกันไว้แล้ว เห็นได้ชัดเลยว่า ผลงานของเฉินเหล่ยอยู่ในระดับที่ทำให้ตกตะลึงได้
ไม่อย่างนั้นคงไม่มีทางทำให้สามผู้อาวุโสตกตะลึงได้แน่
เหล่าคนรุ่นหลังเริ่มถกเถียงไปต่าง ๆ นานา
“พวกนายคิดว่าเฉินเหล่ยจะสามารถเอาชนะเฉินหลี้ได้หรือเปล่า ? เฉินหลี้เก่งขนาดนั้น ถ้าหากเฉินเหล่ยสามารถเอาชนะได้ เขาก็เป็นอัจฉริยะแล้ว !”
“มันก็พูดยาก ฉันคิดว่าทั้งสองคนสูสีกัน หากไม่เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น แชมป์ในครั้งนี้ต้องตกเป็นของหนึ่งในพวกเขาอยู่แล้ว”
“ยังเหลืออีกตั้งหลายคน อย่าเพิ่งมั่นใจขนาดนั้น” จู่ ๆ น้ำเสียงประชดประชันของเฉินควางก็ดังขึ้น
“ที่เหลือน่ะหรือ ฮ่าฮ่า นายยังคิดว่าไอ้ขยะอย่างเฉินโม่จะเอาชนะพวกเขาสองคนได้หรือ ?” มีคนเยาะเย้ย
“ฮ่าฮ่า……” ฝูงชนต่างพากันส่งเสียงหัวเราะราวกับได้ยินเรื่องตลก สายตามองไปทางเฉินโม่ด้วยเจตนาไม่เป็นมิตร
“โอ้ว ไอ้ขยะเฉินโม่มันยังหลับลงได้อีก ใจถึงจริง ๆ !” มีคนอุทาน
“ที่เหลือเตรียมตัวสละสิทธิ์แล้ว ยังมีอะไรให้กังวลอีก ?”
“นั่นสิ ที่เหลือก็ปล่อยไปตามยถากรรม ชีวิตก็แค่นี้แหละ”
ทายาทรุ่นที่สอง เฉินตงหวาแววตาเป็นประกาย หันไปมองเฉินตงเยว่และพูดว่า “น่าอิจฉาพี่จริง ๆ ดูจากสถานการณ์แล้ว ผลงานของเฉินเหล่ยคงไม่ธรรมดา !”
“ใช่แล้ว เมื่อครู่เฉินหลี้สร้างความตกตะลึงให้กับสามผู้อาวุโส ตอนนี้เฉินเหล่ยก็เช่นกัน ดูเหมือนว่าตระกูลเฉินของพวกเราจะมีผู้สืบทอดแล้ว !”
เฉินตงเยว่สีหน้าภาคภูมิใจ “ยังเร็วเกินไปที่จะพูด รอสามผู้อาวุโสประกาศผลก่อนถึงจะรู้ พวกเรามารอดูกันดีกว่า !”
พูดจบ เขาก็มองเฉินฉงซานด้วยสายตายั่วยุ อีกฝ่ายตอบรับเขาด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย
การประเมินในครั้งนี้ยาวนานกว่าของเฉินหลี้ โดยใช้เวลาไปเกือบสิบนาที
กว่าเฉินกั๋วเหลียงจะพยักหน้า และส่งผลประเมินให้เฉินตงซู่น
เฉินตงซุ่นมองเฉินเหม่ยที่อยู่บนเวที สีหน้าตกใจเล็กน้อย จากนั้นประกาศเสียงดังว่า “เฉินเหล่ย ทรัพย์สินเริ่มต้นสิบล้าน กำไรหนึ่งปีสามร้อยยี่สิบล้าน !”
“อะไรกัน !”
“นี่มันตั้งสามสิบสองเท่า พระเจ้า เฉินเหล่ยทำได้ยังไงกัน !”
“ทีแรกคิดว่าเฉินหลี้สามารถทำเงินเพิ่มขึ้นมาได้ยี่สิบห้าเท่าก็อัจฉริยะแล้ว แต่เฉินเหล่ยกลับสามารถทำได้ถึงสามสิบสองเท่า ! ถ้าหากเฉินหลี้คืออัจฉริยะ เฉินเหล่ยก็คือมหาอัจฉริยะแล้ว”
เฉินหลี้สีหน้าเปลี่ยนเป็นบูดเบี้ยว กำหมัดแน่น มองไปยังเฉินเหล่ยที่ยังคงยืนอยู่บนเวที
“ผลาดไปก้าวหนึ่ง ! ไม่คิดว่าเฉินเหล่นจะมีความสามารถขนาดนี้ !”
“ครั้งนี้ฉันแพ้ให้นายแล้ว แต่นายสบายใจได้ หลังจากนี้ ฉันจะพิสูจน์ให้เห็นว่า ฉันเฉินหลี้ เก่งกาจกว่านาย !”
เฉินฉีพูดเสียงดัง “พี่เฉินเหล่ย แชมป์ แชมป์ !”
คนรุ่นหลังที่สนิทกับเฉินเหล่ยตะโกนตามขึ้นมา “แชมป์ แชมป์ !”
เหล่าชายหนุ่มที่ยังไม่ได้ทดสอบหน้าแดงก่ำ
“นายคิดว่าพวกเราจะยังขึ้นไปทำไมอีก ? เฉินเหล่ยกับเฉินหลี้อยู่ที่นี่ พวกเราน่ะเป็นได้แค่ส่วนที่ถูกลิขิตให้ส่งเสริมให้พวกเขาเด่นขึ้นเท่านั้น” ชายหนุ่มที่เข้าร่วมการทดสอบบ่นกับชายหนุ่มอีกคนหนึ่ง
ชายหนุ่มอีกคนหนึ่งมีสีหน้าเคียดแค้น พูดอย่างจำใจว่า “ทำให้เด่นก็ทำให้เด่นสิ แค่อย่าขึ้นไปทำขายหน้าก็พอ ใครบอกให้เราไม่มีสมองเหมือนคนอื่นกันล่ะ ?”
“คงไม่ขายหน้าหรอก อย่าลืมสิว่ายังมีเฉินโม่อยู่กับเราอีก !”
เมื่อพูดถึงเฉินโม่ ทั้งสามคนก็ใจชื้นขึ้นมา “พูดถูก มีเฉินโม่อยู่ พวกเราคงไม่มีทางขายหน้าหรอก ฮ่าฮ่า !”