ในสามสิบหกกลยุทธ์ การหนีคือยอดกลยุทธ์ งั้นไปดีกว่า
ขณะที่กำลังจะแอบย่องออกไป จู่ๆ เยี่ยจิ่งหานก็เอ่ยบางอย่างขึ้นมา ทำให้นางหมดทางหลบซ่อน
“คุณหนูสาม ไม่เจอกันไม่กี่วัน สบายดีหรือไม่”
กู้ชูหน่วนแข็งเกร็งไปทั้งตัวเมื่อได้ยินคำพูดประโยคนั้น
หมอนี่
คงไม่ใช่ว่าจำนางได้หรอกนะ
เมื่อยามเจอกันครั้งแรกนางก็รังควานเขา
พอเจอกันครั้งที่สอง นางก็โผไปหาทั้งยังแตะเนื้อต้องตัวเขา ถ้าเขาจำนางได้จริงๆ นางจะไม่ถูกฆ่าหันศพเป็นชิ้นๆ หรอกหรือ
ร่างกายของนางมีเพียงความรวดเร็วที่เพิ่มขึ้นนิดหน่อย แต่ไม่มีกำลังภายในเลยแม้แต่น้อย
ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าบุรุษผู้นี้มีฝีมือเหนือชั้นขนาดไหน ฝีมือการต่อสู้ของเขามีแต่นางเท่านั้นที่หยั่งรู้
เมื่อเสือมาเจอะกับสิงห์ นางจะต้องเสียเปรียบอย่างแน่นอน
เมื่อคิดได้แบบนี้กู้ชูหน่วนจึงจงใจทำตัวสั่นเทิ้มประหนึ่งว่าตกใจจนปากคอสั่น แม้แต่จะพูดก็ยังพูดตะกุกตะกัก
“ทะ… ท่านคือเทพแห่งสงคราม… ท่านหานอ๋อง… ระ… เราเคยเจอกันมาก่อนหรือ”
คนในจวนอัครเสนาบดีแทบอยากจะอาเจียน
กู้ชูหน่วนเป็นพวกเก่งแต่กับคนไม่มีทางสู้งั้นรึ
เมื่อครู่นี้ยังทำตัวเย่อหยิ่งอวดดี ตอนนี้พอเจอท่านเทพแห่งสงครามกลับตกใจจนหน้าถอดสี ตัวสั่นงันงก จะคุกเข่าก็ไม่ใช่ จะยืนก็ไม่เชิง
ไร้ยางอาย
ไร้ยางอายเหลือเกิน
เยี่ยจิ่งหานแต่งกายด้วยผ้าแพรขนสุนัขจิ้งจอกสีม่วงอ่อนและคาดเอวด้วยเข็มขัดหยกสีม่วง ขับให้รูปร่างที่สมส่วนของเขายิ่งดูโดดเด่น
ดวงตาดั่งหงส์ของเขาหรี่ลงเล็กน้อยและมองไปทางกู้ชูหน่วนด้วยรอยยิ้มที่ไม่อาจคาดเดา
“ถ้าคุณหนูสามจำไม่ได้ ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะช่วยให้คุณหนูสามค่อยๆ ทบทวนความจำ”
เขากำลังยิ้ม ทว่ารอยยิ้มนั้นปราศจากความอบอุ่นและแฝงไปด้วยการคุกคาม
ถึงกับต้องกัดฟันกรอด…
กู้ชูหน่วนแอบด่าเขาอยู่ในใจเป็นร้อยเป็นพันครั้ง
ค่อยๆ ทบทวนความจำงั้นเหรอ
อยากจะให้นางพูดออกมาต่อหน้าทุกคนว่านางองอาจห้าวหาญหรืออย่างไร
“ท่านอ๋องช่างมีอารมณ์ขัน หญิงสาวชาวบ้านธรรมดาไร้อำนาจบารมี เป็นเพียงสตรีที่ต่ำต้อยด้อยค่า จะมีโชคได้พบท่านอ๋องได้อย่างไร”
“ต่ำต้อย? เฮอะ แล้วข้าได้ยินมาได้อย่างไรว่ามีคนปฏิเสธที่จะอภิเษกกับข้า”
กู้ชูหน่วนแสร้งทำเป็นแข้งขาอ่อนและล้มลงไปกับพื้น ทำอย่างไรก็ลุกขึ้นไม่ได้ เหมือนกระต่ายขาวตัวน้อยที่ตื่นตระหนก กะพริบตาปริบๆ อย่างน่าสงสาร พูดพลางร่ำไห้ว่า
“ท่านอ๋อง นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด ผู้หญิงอัปลักษณ์ที่ไม่เข้าใจทั้งบทกวีและดนตรี ไร้ความสามารถทั้งทางด้านหมากรุกและการประดิษฐ์อักษร หากอภิเษกกับท่านก็มีแต่จะทำให้ท่านเสียเกียรติ ด้วยเหตุนี้ข้าจึงพยายามทูลฝ่าบาทให้เรียกคืนพระราชโองการที่มีรับสั่งให้อภิเษก และถึงแม้จะมีความกล้าแค่ไหน ข้าก็ยังไม่กล้าปฏิเสธการอภิเษกกับท่านอ๋องอยู่ดี”
“คุณหนูสามยังคง… ฉลาดพูดเช่นเคย”
เยี่ยจิ่งหานยิ้มเยาะ
แม้ว่าผู้หญิงตรงหน้าจะล้มลงไปกองกับพื้น แม้ว่าเนื้อตัวจะสั่นเทาและไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้า
แต่เขารู้ว่าในที่ที่เขามองไม่เห็น ดวงตาของผู้หญิงคนนี้จะต้องเต็มไปด้วยแววแห่งความเย่อหยิ่งจองหอง
คนอื่นๆ ในจวนอัครเสนาบดีประหลาดใจ
กู้ชูหน่วนไปรู้จักเทพแห่งสงครามผู้สูงศักดิ์ตั้งแต่เมื่อใดกัน
ขณะที่กู้ชูหน่วนกำลังคิดหาวิธีสลัดให้หลุดจากเยี่ยจิ่งหาน เสียงของเยี่ยจิ่งหานก็เปลี่ยนไป เขาหันไปมองทุกคนในจวนอัครเสนาบดีและเอ่ยด้วยเสียงทุ้มต่ำ
กระแอมนิดหนึ่งก่อนจะเอ่ยว่า “ท่านอัครเสนาบดีกู้ ข้าควรจะขอบคุณท่านและฝ่าบาทมิใช่หรือที่เสนอการอภิเษกครั้งนี้ขึ้นมา”
อัครเสนาบดีกู้รู้สึกท้อแท้ตั้งแต่ต้นจนจบ
เทพแห่งสงครามมาเพื่อ… ชำระบัญชีกับเขางั้นหรือ
“ท่านอ๋อง… กระหม่อม… กระหม่อม…”
“ฮึ เจ้าอบรมลูกสาวได้ดี”
คำพูดนั้นคลุมเครือและทุกคนล้วนไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไรกันแน่ มีเพียงกู้ชูหน่วนเท่านั้นที่รู้… หมอนี่จะต้องสงสัยนางเป็นแน่
“ราชสำนักปรวนแปรยากจะคาดเดา อัครเสนาบดีกู้ควรจะยืนหยัดให้มั่นคงเสียหน่อย”
ไม่นะ…
เลือดในกายของอัครเสนาบดีกู้แทบจะหยุดสูบฉีด