“เช่นนั้นข้าก็ไม่ได้วางหมากผิดสินะ ค่อยยังชั่ว ตกใจแทบตายแน่ะ จริงสิ ทำไมพวกท่านไม่วางหมากเสียที รีบวางให้จบๆ ข้าจะได้กลับไปนอนเร็วขึ้นหน่อย”
มุมปากของทุกคนกระตุก
นอนอะไรกัน
วางอะไรกัน
หมากกระดานนี้ถึงทางตันแล้ว แม้แต่การเดินมากแค่ครั้งเดียวยังยาก พวกเขาจะลงหมากตรงไหนได้
เจ๋ออ๋องร้อนรนและแทบอยากจะล้มกระดานหมากเสียเดี๋ยวนั้น
มาถึงทางตันแล้ว นี่คือการแข่งหมากรุกของมนุษย์จริงๆ น่ะหรือ?
ทุกครั้งที่ปรมาจารย์หมากรุกวางหมากลงไป กู้ชูหน่วนจะสกัดเขาได้เสมอ
เขาถอย กู้ชูหน่วนถอย
เขารุก กู้ชูหน่วนรุก
สิ่งเดียวที่เกิดขึ้นเหมือนกันทุกครั้งคือ ทุกครั้งที่กู้ชูหน่วนโยนปัญหามาให้เขา เขาจะเกาศีรษะด้วยความโกรธ นอกจากนี้เขายังไม่รู้ด้วยว่าความจริงกู้ชูหน่วนจงใจทำให้เขาลำบากหรือเปล่า
เหตุใดนางจึงมีใบหน้าที่ไร้เดียงสาและรอยยิ้มที่ใสซื่อเช่นนั้น
แม้แต่หมากของเยี่ยเฟิงก็ตกอยู่ในวงล้อม หมากรุกทุกตัวถูกกู้ชูหน่วนต้านกลับมาจนหมด
ฉังเจินและฉังผิงทำได้เพียงเฝ้ามอง พวกเขาไม่มีความสามารถแม้แต่จะวางหมากสักตัว
เจ๋ออ๋องนั่งไม่เป็นสุข ทั้งคันทั้งเจ็บปวด ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาถูกเขาเกาจนเลือดออก นอกจากนี้ยังมีจุดลับอีกหลายที่ที่เขาไม่กล้าเกาเพราะกลัวจะเสียหน้า ดังนั้นจึงได้แต่อดทนเอาไว้
เขาทนไม่ไหวอีกต่อไป
หยิบหมากตัวหนึ่งวางลงไป
กู้ชูหน่วนทำเสียงดังปึงและเตรียมจะวางหมาก นางเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าว่าตรงนี้ดูแล้วไม่ขัดตาดี งั้นข้าลงตรงนี้แล้วกัน”
เจ๋ออ๋องเบิกตากว้าง
ตัวหมากที่เขาวางลงไปคือการพาตัวเองไปสู่ทางตัน
กู้ชูหน่วนเพิ่งวางหมากลงไป และนั่นกลายเป็นว่านางล้มหมากสีดำของเขาจนพังย่อยยับ
หมากสีดำทั้งหมด… พ่ายแพ้ย่อยยับ?
เขาเอ่ยด้วยเนื้อตัวสั่นเทา “เป็นไปได้อย่างไร หมากเพียงตัวเดียวจะล้มหมากรุกหลิงหลงได้อย่างไร กู้ชูหน่วน เจ้าโกง”
กู้ชูหน่วนตกใจจนอ้อยแทบหลุดออกจากปาก นางประท้วงขึ้นว่า “ข้าไปโกงตอนไหน มีใครมาชี้นำให้ข้าวางหมากหรืออย่างไร ฝ่าบาท พระองค์ตัดสินหน่อยสิเพคะ มีคนดูตั้งมากมาย ข้าจะโกงได้อย่างไร เจ๋ออ๋องไม่ยอมแพ้แล้วหาเรื่องตำหนิข้า มิหนำซ้ำการแข่งหมากรุกครั้งนี้ยังไม่จบมิใช่หรือ”
จักรพรรดิเยี่ยทรงตกตะลึง รู้สึกเหมือนมีฝูงกาบินผ่านไปตรงหน้าและไม่ตรัสอะไรเลยสักคำ
ปรมาจารย์หมากรุกมองกระดานหมากรุกตาค้าง “ล้มแล้ว… ล้มแล้วจริงๆ… หมากรุกหลิงหลงล้มแล้ว… สวรรค์ทรงโปรด… ข้าเล่นหมากรุกมาหลายสิบปียังไม่เคยล้มได้สักครั้ง เหตุใดนางจึงล้มมันได้ แม่สาวน้อย เจ้าบอกข้าทีว่าเจ้าล้มมันได้อย่างไร”
“มันจะไปยากตรงไหน ก็แค่วางๆ หมากไปเท่านั้น” นางอธิบายง่ายๆ
ทว่าปรมาจารย์หมากรุกกลับไม่เชื่อเลยแม้แต่คำเดียว
ถ้าแค่หนึ่งหรือสองครั้งก็อาจจะพูดได้ว่าเป็นเหตุบังเอิญ แต่มันไม่มีทางบังเอิญทุกครั้งอย่างนี้แน่
ปรมาจารย์หมากรุกกล้ารับประกันว่าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าเล่นหมากรุกได้ดีกว่าเขาแน่นอน
นอกจากนี้ยังดีกว่าไม่รู้กี่เท่าต่อกี่เท่า
ปรมาจารย์หมากรุกรู้สึกเบิกบานใจเป็นอย่างมาก ในหัวของเขามีคำถามวนเวียนอยู่มากมายและอยากจะถามกู้ชูหน่วนรัวๆ
กู้ชูหน่วนขัดจังหวะเขาและเอ่ยอย่างไม่อดทนว่า “ท่านผู้เฒ่า ในเมื่อข้าชนะแล้ว ตามที่เราพนันกันเมื่อครู่นี้ ตอนนี้ท่านควรจะคารวะข้าเป็นอาจารย์และเรียกข้าว่าท่านอาจารย์มิใช่หรือ”
“ท่านอาจารย์ โปรดรับข้าน้อยเป็นศิษย์ด้วย”
ปรมาจารย์หมากรุกงอขาทั้งสองข้างและคุกเข่าลง เขาโค้งคำนับสามครั้งและตะโกนเสียงดัง “ท่านอาจารย์ ต่อแต่นี้ไปข้าจะเป็นลูกศิษย์ของท่าน หากท่านมีสิ่งใดให้ข้ารับใช้โปรดบอกศิษย์ได้ทุกเมื่อ”
ผ่าง
เสนาบดีและทูตหลายคนแทบจะล้มคะมำ
พวกเขาแต่ละคนๆ ตะลึงงันพูดไม่ออก มองดูใบหน้าที่เบิกบานของปรมาจารย์หมากรุกอย่างไม่อยากเชื่อ
แม้แต่กู้ชูหน่วนยังสะดุดจนแทบจะล้มหน้าคว่ำ
การเดิมพันคราวนี้นางก็แค่พูดไปอย่างนั้นเอง ไม่ได้คิดจะรับปรมาจารย์หมากรุกเป็นศิษย์จริงๆ เสียหน่อย