“ข้ากลัวว่าท่านจะอิจฉาความงามของข้า”
“แหวะ……”
เจ๋ออ๋องเกือบจะอาเจียนออกมา
หน้าตาเป็นหลุมเป็บบ่อเช่นนั้น อัปลักษณ์เสียจนไร้ใบหน้าเทียบได้เขาจะอิจฉาได้หรือ
“กู้ชูหน่วน มีความสามารถพวกเราก็มาเดิมพันกันอีกครั้ง”
“ได้สิ แต่หากว่าน้อยกว่าสามล้านตำลึงข้าจะไม่เดิมพัน”
“ได้ สามล้านตำลึงก็สามล้านตำลึง หากเจ้าไม่สามารถเอาชนะเราห้าคนได้ ข้าไม่เพียงแค่ต้องการให้เจ้าแก้ผ้าวิ่งร้อยรอบข้ายังต้องการมือทั้งคู่ของเจ้าด้วย”
กู้ชูหน่วนไม่ได้คิดเลยก็ตกลงโดยตรง “ได้ เช่นนั้นก็ให้ท่านทั้งหลายเป็นพยาน ท่านอ๋องโง่เขลาผู้นี้อยากจะมอบเงินสามล้านให้ข้าเองเปล่าๆไม่ใช่ว่าข้าขู่เข็ญจากเขา”
ทุกคนต่างไร้คำพูด
พวกเขาไม่รู้ว่าจะว่าสิ่งใดกู้ชูหน่วนแล้ว
หญิงผู้นี้ไม่รู้จักฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ สิ่งใดก็กล้าเดิมพัน
มือคู่นั้นของนางคงไม่สามารถรักษาเอาไว้ได้แล้วเป็นแน่
จักรพรรดิเยี่ยทรงกริ้วเล็กน้อย “เสี่ยวหลี่จือเจ้าว่าพี่น้องเหล่านี้ของข้าร่ำรวยมากเกินไปใช่หรือไม่? ลงมือก็เดิมพันกันเป็นหลายล้านตำลึง”
เสี่ยวหลี่จือไม่รู้จะตอบอย่างไร
เจ๋ออ๋องนั้นโมโหจนเลอะเลือนไปแล้วจริงๆ
ต่อหน้าพระพักตร์ฝ่าบาทยังกล้าเดิมพันมากเพียงนี้
เสี่ยวหลี่จือกล่าวอย่างระมัดระวังว่า “บางที……จักรพรรดิพระองค์ก่อนทรงพระราชทานไว้ให้มากมายกระมังพ่ะย่ะค่ะ”
ทุกคนรู้ดีว่าต่อให้จักรพรรดิพระองค์ก่อนทรงพระราชทานรางวัลให้มากมายเพียงใดก็ไม่ได้มีค่าเพียงแค่เงินห้าล้านตำลึง
หลิ่วเย่ว์วิตกกังวลจนเป็นบ้าแล้วจึงได้เร่งกล่าวขึ้นว่า “พี่ชายใหญ่ท่านเกลี้ยกล่อมหน่อยสิ ปรมาจารย์หมากรุกใช่ว่าจะทำให้ขุ่นเคืองได้ง่ายๆ หากว่ามือทั้งสองของพี่ใหญ่ถูกตัดทิ้งจริงๆแล้วจะทำเช่นไร?”
“ข้าสามารถเกลี้ยกล่อมได้หรือ? นางมีเวลาให้ข้าเกลี้ยกล่อมหรือ?”
ตอนนี้ทำได้เพียงแค่ก้าวหนึ่งก้าวดูหนึ่งก้าวแล้ว
อี้เฉินเฟยกับซั่งกวนฉู่นั่งข้างๆกัน ซั่งกวนฉู่ยิ้มและกล่าวว่า “คุณชายอี้ ท่านว่าในเกมนี้ผู้ใดจะชนะ?”
“อาจารย์ซั่งกวนรู้ตั้งแต่แรกแล้วไม่ใช่หรือ?” อี้เฉินเฟยหันถ้วยเหล้าด้วยรอยยิ้มซึ่งไม่ได้ยิ้ม
รูปร่างหน้าตาของทั้งคู่หาตัวจับได้ยากซึ่งงดงามราวกับมิใช่คนธรรมดา ตอนนี้นั่งติดกันดังกับเป็นทิวทัศน์อันสวยงามที่สุดจึงอดไม่ได้ที่จะทำให้คนหันข้างไปมอง
อาจารย์สวีห่างกับพวกเขาอยู่ในระยะที่ใกล้ที่สุด
คำพูดต่อพวกเขาฟังแล้วรู้สึกว่าแปลกประหลาดอยู่บ้าง
คุณชายอี้กับอาจารย์ซั่งกวนกล่าวถึงผู้ใดกัน? เหตุใดเขาจึงฟังไม่เข้าใจ?
ลูกน้องทั้งหลายได้จัดกระดานหมากรุกหลิงหลงทั้งห้าเอาไว้ต่อหน้าเจ๋ออ๋อง เยี่ยเฟิง ปรมาจารย์หมากรุก รวมทั้งผู้มีความสามารถทั้งสองท่านแห่งรัฐจ้าว กู้ชูหน่วนก็ได้นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพวกเขาโดยที่หนึ่งต่อห้า
กู้ชูหน่วนบุ้ยปากไปทางเยี่ยเฟิง “เสี่ยวเฟิงเฟิง เกมที่แล้วพวกเราเสมอกัน ไม่งั้นเกมนี้พวกเรามาเดิมพันกันอีกครั้ง?”
เยี่ยเฟิงรู้สึกเยือกเย็นจนกล่าวออกมาจากปากประโยคหนึ่งว่า “ไม่มีเงิน”
“เมื่อครู่ข้าเพิ่งได้รับเงินจำนวนมากจากท่านอ๋องผู้โง่เขลาผู้นั้น ข้าให้เจ้าบางส่วน พวกเราก็……”
“โครม……”
เจ๋ออ๋องตบกระดานหมากรุกอย่างรุนแรงจนเขานั้นเจ็บปวดรวดร้าว”
“กู้ชูหน่วน ระวังปากเจ้าให้สะอาด……สะอาดหน่อย”
“สะสะสะ สะอาดกับผี ให้ลิ้นตั้งตรงก่อนเถอะค่อยพูด”
เจ๋ออ๋องหายใจหน้าอกขึ้นๆลงๆพร้อมเส้นเลือดเขียวบนใบหน้าที่ปูดออก ผู้ใดก็ดูออกว่าเขากดมันเอาไว้อยู่ตลอด
เจ๋ออ๋องถูกคุณหนูสามทำให้เสียหายเช่นนี้โดยที่เขาสามารถทนมาได้จนถึงตอนนี้ก็นับว่ายากยิ่งนัก หากเปลี่ยนเป็นพวกเขาก็คงจะระเบิดไปตั้งนานแล้ว
หม่ากงกงรีบให้คนจัดกระดานหมากรุกใหม่และกล่าวว่า “รอบที่สองประลองเล่นหมากรุก กำหนดเวลาหนึ่งก้านธูป”