แต่คำพูดเหล่านั้นพวกนางจะกล้าพูดกับอัครเสนาบดีกู้ได้อย่างไร อู่อี๋เหนียงพูดกระซิบกระซาบ “นายท่าน ข้าก็เพิ่งมารู้เอาตอนหลังว่าเดิมทีท่านพ่อยังหลงเหลือเงินห้าแสนตำลึงให้กับพวกข้า นายท่านก็รู้ดี ต่อให้พวกข้ามีความกล้ามากแค่ไหนก็ไม่กล้าที่จะคิดโกหกนายท่าน ตอนที่ข้ารู้ว่าท่านพ่อหลงเหลือเงินห้าแสนตำลึงไว้ให้ ข้าก็คิดอยากจะมอบให้กับนายท่าน แต่ใครจะไปรู้ว่าคุณหนูสามไปได้ข่าวมาจากไหนว่าหลานเอ๋อร์ยังมีเงินห้าแสนตำลึง จากนั้นจึงหอบเงินทั้งหมดหนีไป”
“ท่านพ่อ ลูกสำนึกผิดแล้ว ท่านพ่อยกโทษให้ลูกได้หรือไม่เจ้าคะ”
ฮูหยินใหญ่หัวเราะเยาะ “พูดออกมาช่างน่าฟัง เพิ่งจะรู้ภายหลัง? หากไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้นมา เกรงว่าคงจะไม่มีภายหลังล่ะสิ? ท่านผู้เฒ่าจางก็เสียชีวิตไปหลายปีแล้ว หรือว่าเขาผุดออกมาจากใต้ดินเพื่อนำเงินห้าแสนตำลึงมาให้พวกเจ้าอย่างนั้นหรือ”
เมื่อได้ยินสิ่งนี้ กู้ชูหลานก็รีบพูดอธิบาย “ไม่ใช่อย่างนั้น คือ……”
“เพี๊ยะ……”
อัครเสนาบดีกู้ตบหน้ากู้ชูหลานอย่างแรงหนึ่งครั้ง ความแรงที่ออกไปนั้น ทำให้ฟันของกู้ชูหลายหลุดออกไปหนึ่งซี่
หลังจากการตบหน้าของเขานั้น ยังมีเสียงด่าทอตามไปอีกด้วย
“พอได้แล้ว อย่าคิดว่าข้าไม่รู้ว่าพวกเจ้าสองคนแม่ลูกได้ทำเรื่องเลวร้ายอะไรไปบ้างในหลายปีมานี้ เรื่องบางเรื่องข้าก็สามารถปิดหูปิดตาไม่รับรู้ได้ แต่ตอนนี้พวกเจ้ากลับกล้าลองดีกับข้า พวกเจ้าคิดว่าข้าเป็นคนโง่อย่างนั้นหรือ?”
กู้ชูหลานตกใจกลัวจนเนื้อตัวสั่นและเอามือกุมปากเอาไว้
อู่อี๋เหนียงก็ตกใจด้วยเช่นกัน
นางไม่เคยเห็นท่านอัครเสนาบดีโมโหมากเช่นนี้มาก่อน
นางรู้สึกมีลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก
อัครเสนาบดีกู้เริ่มรู้สึกโมโหมากขึ้นเรื่อยๆ “ข้าบอกไปกี่ครั้งกี่หนแล้ว หากสูญเสียความบริสุทธิ์ไปแล้วก็ไม่ต้องหาเรื่องใส่ตัว แต่เจ้ากลับไม่ฟัง แต่กลับทำท่าทีโอ้อวดไปทั่ว ตอนนี้เป็นอย่างไรล่ะ ทุกคนต่างก็รู้ว่าคุณหนูห้าแห่งจวนอัครเสนาบดีได้ทำเรื่องน่าบัดสีน่ารังเกียจกับอันธพาลท้องถิ่น แม้แต่ฝ่าบาทก็ยังรู้สึกตื่นตระหนก ใบหน้าของข้านี้ นับว่าถูกพวกเจ้าทำลายลงอย่างไม่มีชิ้นดี”
อู่อี๋เหนียงพูดด้วยความสั่นกลัว “นายท่าน หลานเอ๋อร์ถูกคนอื่นใส่ร้ายรังแกต่างหาก”
“ข้าไม่สนว่านางจะถูกใส่ร้ายหรือไม่ ข้ารู้เพียงแต่ว่าเกียรติยศชื่อเสียงของจวนอัครเสนาบดีนี้ถูกนางทำลายลงอย่างไม่มีชิ้นดี หากไม่ใช่เป็นเพราะนาง อวิ๋นเอ๋อร์จะถูกตัดคุณสมบัติของผู้เข้าร่วมการแข่งขันทางวิชาการได้อย่างไร? มีลูกสาวที่ไร้ซึ่งยางอายอย่างนาง นับเป็นความแปดเปื้อนของจวนอัครเสนาบดีไปตลอดชีวิต”
อู่อี๋เหนียงและกู้ชูหลานเงยหน้าขึ้นด้วยความตื่นตระหนก
นายท่าน (ท่านพ่อ) คำพูดนี้หมายความว่าอย่างไร?
หรือว่า……เขาต้องการฆ่าหลานเอ๋อร์?
อู่อี๋เหนียงรีบคลานเข้ามาตรงหน้าของอัครเสนาบดีและดึงชายขอบชุดของเขาและร้องไห้ขอความเมตตาไปพร้อมกัน น้ำตาในดวงตาของนางก็เหมือนกับแม่น้ำที่เอ่อล้น เขาทนดูไม่ได้จึงเบือนหน้าออกไป
“นายท่าน จะต้องมีคนจงใจเผยแพร่เรื่องที่หลานเอ๋อร์สูญเสียความบริสุทธิ์ออกไปอย่างแน่นอน นายท่านได้โปรดอภัยให้กับในครั้งนี้ด้วยเถอะเจ้าค่ะ ข้าสัญญาว่าจะอบรมสั่งสอนนางอย่างดี และจะไม่ยอมให้นางทำเรื่องน่าอับอายเช่นนี้อีก”
ที่คานเหนือหลังคาบ้าน อี้เฉินเฟยหัวเราะยิ้มเบาๆ ด้วยความสง่างามที่ไม่มีใครเทียบได้ “เจ้ามาเพื่อทวงเงินหรือว่ามาดูความครึกครื้นกันหรือ?”
กู้ชูหน่วนถือดอกหญ้าไว้ในมือและยิ้มอย่างเกียจคร้าน “เรื่องนี้น่ะหรือ เป็นความลับของสวรรค์ที่ไม่อาจเปิดเผยได้”
เซี่ยวอวี่เซวียนเบะปาก “เป็นเพียงแค่ลูกสาวของอนุภรรยาที่พ่ายแพ้คนหนึ่ง หากเจ้าไม่อยากเห็นนางละก็ ข้ามีวิธีจัดการกับนาง ทำไมเราต้องเสียเวลากับพวกนางด้วย? ข้าคิดว่า เรารับเงินมาแล้วจากไปเสียจะดีกว่า”
กู้ชูหน่วนนั่งไขว่ห้างราวกับนางได้พิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว “เกรงว่าเจ้าจะไม่มีโอกาสนั้นแล้ว”
“หมายความว่าอย่างไร?” หรือว่าคิดว่าเขาจะไม่สามารถจัดการลูกสาวของอนุภรรยาเพียงคนเดียวได้?
อี้เฉินเฟยอธิบายด้วยความหวังดี “ท่านอัครเสนาบดีให้ความสำคัญกับเกียรติยศและหน้าตา ต่อให้อู่อี๋เหนียงและคุณหนูห้าจะทำสิ่งเลวร้ายมากมายแค่ไหนในอดีต แต่สิ่งเหล่านั้นก็ไม่เป็นอันตรายและส่งผลกระทบถึงผลประโยชน์ของเขา แต่ครั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นเงินตำลึง หรือการสูญเสียความบริสุทธิ์ ล้วนต่างก็ทำให้ท่านอัครเสนาบดีเสียหน้าและเสื่อมเสียชื่อเสียง ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ท่านอัครเสนาบดีจะปล่อยให้พวกนางอยู่เคียงข้างเขาต่อไป”
“อะไรนะ?” หรือว่าเขาต้องการฆ่าผู้หญิงของเขาและลูกสาวของเขา?
“เหตุผลที่อู่อี๋เหนียงเป็นที่รักและโปรดปรานนั้น ก็เป็นเพราะนางมีหน้าตาคล้ายกันอย่างมากกับคู่รักในวัยเด็กที่จากโลกนี้ไปแล้วของท่านอัครเสนาบดี ดังนั้นท่านอัครเสนาบดีจึงยอมทนกับนางครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ต่อให้หน้าตาคล้ายกันมากเพียงใด ถึงอย่างไรเสียก็ไม่ใช่คนเดียวกัน หลังจากที่ท่านอัครเสนาบดีตื่นจากความหลงใหล เขาก็หมดความรักความโปรดปรานในตัวของอู่อี๋เหนียงที่ไร้ประโยชน์ไปโดยสมบูรณ์ ตอนนี้คาดว่าท่านอัครเสนาบดีคงจะได้สติกลับคืนมาแล้ว”
เซี่ยวอวี่เซวียนกลืนน้ำลาย “ฉะนั้น……ท่านอัครเสนาบดีต้องการฆ่าพวกนางจริงหรือ?”