“ข้าจะล้อเจ้าเล่นได้อย่างไร เพียงแต่วันนี้ข้าเบิกบานใจ จึงอยากหาคนมาดื่มด้วย แต่บังเอิญว่าเสี่ยวเซวียนเซวียนของบ้านข้า ไม่อนุญาตให้ข้าดื่มกับบุรุษรูปงามคนอื่น ๆ ข้าจึงต้องมาหาเจ้า”
“กี่จอก?” คำพูดของเยี่ยเฟิงสั้นกะทัดรัดและตรงประเด็น เขาไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับกู้ชูหน่วนมากนัก
“สามจอกก่อน”
กู้ชูหน่วนนั่งอย่างเฉื่อยชาและเอามือข้างหนึ่งเท้าคางไว้ นางมองดูเยี่ยเฟิงถือเหล้าไว้ในมือข้างหนึ่งและอีกข้างหนึ่งถือจอก จากนั้นก็ดื่มสามจอกอย่างสบาย ๆ
“เสี่ยวเฟิงเฟิง ไม่เพียงแต่เจ้าจะหน้าตางดงาม แต่เวลาที่ดื่มเหล้าก็ยังมีเสน่ห์อีกด้วย”
เซี่ยวอวี่เซวียนด่าว่า “หญิงลามก”
อี้เฉินเฟยดีดฉินไปพลางยิ้มเจื้อน ๆ ไปพลาง
หญิงสาวผู้นี้ให้เขามาดีดฉิน เขายังบรรเลงไม่ทันจบ นางก็จะไปหาบุรุษรูปงามคนอื่นแล้ว
“ข้าไปได้แล้วหรือไม่?”
“แน่นอนว่าไม่ได้ ท่านเป็นนักดีดฉินไม่ใช่หรือ? เช่นนั้นท่านก็บรรเลงฉินให้ข้าฟังหน่อย ข้าจะดูว่าท่านบรรเลงได้ดี หรือว่าท่านพี่เฉินเฟยบรรเลงได้ดี”
ในขณะที่กู้ชูหน่วนกล่าว นางก็ดึงเขาไปข้าง ๆ
เยี่ยเฟิงถอยหลังไปสองสามก้าว ราวกับว่าเขาไม่ชอบให้ผู้อื่นแตะต้องร่างกายของเขา
“ท่านจะประหม่าทำไมกัน ข้าไม่กินท่านหรอก”
ในขณะที่พูด กู้ชูหน่วนก็ลุกขึ้นไปดึงเขาอีกครั้ง และบังเอิญสะดุดขาโต๊ะจนล้มหน้าคะมำ
“ปัง……” เสียง
กู้ชูหน่วนโผเข้าหาเยี่ยเฟิงแล้วล้มลง
ผู้คนอ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง
รูม่านตาของเยี่ยเฟิงหรี่ลง ใบหน้าที่เย็นชาของเขาแตกเป็นเสี่ยง ๆ ความตระหนกตกใจของเขาโจมตีไปที่หัวใจ และเอามือไปป้องกันตัวเองไว้
กู้ชูหน่วนก็ตกใจเช่นกัน
สิ่งที่น่าตกใจคือนางทำให้เยี่ยเฟิงล้มลง
และสิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นก็คือเยี่ยเฟิงตัวสั่น ราวกับว่าเขากลัวอะไรบางอย่าง และสีหน้าท่าทางที่ดุร้ายก็ปรากฏออกมาแวบหนึ่ง
ความหวาดกลัว……
สีหน้าท่าทางที่ดุร้าย……
แม้ว่าทุกอย่างจะเกิดขึ้นเพียงแวบเดียว แต่นางก็รู้สึกได้อย่างชัดเจน
ก่อนที่จะได้สติและยังไม่ทันได้ลุกขึ้น ทันใดนั้นทหารที่สวมเสื้อเกราะสีดำสนิทจำนวนมากก็พุ่งเข้ามาในหอไร้กังวล เมื่อทหารเหล่านี้มาถึง พวกเขาก็ล้อมหอไร้กังวลไว้ในทันที หลังจากนั้นชายผู้หนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้น
ชายผู้นั้นนั่งอยู่บนรถเข็นและสวมหน้ากากผี มีกลิ่นอายของความเยือกเย็นปกคลุมไปทั่วร่างกายของเขา
เยี่ย……เยี่ยจิ่งหาน……
คู่หมั้นของนาง เทพแห่งสงคราม ท่านหานอ๋อง……
“กู้ชูหน่วน……”
คำพูดของเยี่ยจิ่งหานออกมาจากระหว่างฟันของเขา และเต็มไปด้วยความน่าเกรงขาม
เมื่อผู้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ได้ยินเสียงคำรามนี้ พวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะพากันคลานออกไป
ชายผู้นั้นน่าเกรงขามมากจนทำให้พวกเขาเหงื่อพลั่กและตัวสั่น ราวกับว่าพวกเขาเห็นพญามาร เพียงแค่กระดิกนิ้วก็สามารถทำให้พวกเขาร่างกายแหลกสลายได้
กู้ชูหน่วนใจสั่น
นางยังไม่ทันจะได้ตอบโต้ เยี่ยเฟิงก็ผลักร่างของนางออกไป นางลุกขึ้นและจัดเสื้อผ้าที่ยุ่งเหยิงให้เรียบร้อย
เมื่อเผชิญหน้ากับเยี่ยจิ่งหานที่ปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายของความเยือกเย็นทั่วทั้งร่างกาย กู้ชูหน่วนก็รู้สึกกระสับกระส่ายอย่างไร้เหตุผล
ราวกับว่าลอบคบชู้ และถูกผู้ชายขของตัวเองจับได้
เฮ้ย
เยี่ยจิ่งหานไม่ใช่ผู้ชายของนาง
กู้ชูหน่วนยิ้มอย่างเขินอาย “นี่……เมื่อครู่เป็นอุบัติเหตุ ข้ายังมีเรื่องที่ต้องทำ พวกท่านพูดคุยกันเถิด ข้าขอตัวก่อน”
“ปัง……”
ชิงเฟิงขวางนางไว้ และทหารสองกองที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นอย่างดีก็ขวางทางนางไว้เช่นกัน
เยี่ยจิ่งหานจะยิ้มก็ไม่ยิ้ม นัยน์ตาสีดำขลับของเขาเต็มไปด้วยฟ้าฝนที่โหมกระหน่ำ “คุณหนูสามชอบบุรุษรูปงามมิใช่หรือ จะรีบร้อนไปไหนกัน?”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ กู้ชูหน่วนก็หันกลับมาอย่างห้าวหาญ พร้อมรับแบกรับการกดขี่ของท่านอ๋องผู้เกรียงไกร
“ท่านหานอ๋อง ข้าว่าเราฉวยโอกาสตอนที่ยังไม่ได้แต่งงาน ถอนหมั้นกันเสียจะดีกว่า อย่างที่ท่านเห็น ข้าเป็นหญิงที่มักมาก เพียงแค่เห็นบุรุษรูปงาม ข้าก็ไม่อาจละสายตาได้”