“ระฆังวิญญานสะบั้นนี้มีค่าไม่น้อยเลยนะ หยกจันทร์เสี้ยวขององค์หญิงตังตังก็รวมเข้าไปอยู่ในนี้ด้วยซึ่งมีค่าเท่ากับเงินห้าสิบล้านตำลึงถ้วนเลยนะ หากเจ้าไม่รับไว้ก็ระวังว่าข้าจะเปลี่ยนใจไม่ให้เจ้านะ”
กู้ชูหน่วนยัดระฆังวิญญาณสะบั้นไว้ในมือเขา
เยี่ยเฟิงกุมระฆังวิญญาณสะบั้นราวกับว่ากุมโลกทั้งใบเอาไว้
บอกว่าไม่ตื้นตันใจนั้นเป็นการโกหก
เป็นเพราะรู้สึกตื้นตันใจดังนั้นชั่วขณะหนึ่งก็ไม่รู้ว่าจะกล่าวสิ่งใดดี
เขาต้องการระฆังวิญญาณสะบั้น
ต้องการยิ่งนัก
มีเพียงระฆังวิญญาณสะบั้นเท่านั้นที่สามารถทำให้พวกเขาเป็นอิสระ
แต่เขาเกรงว่าจะเป็นการสร้างปัญหาให้กับกู้ชูหน่วน
“อย่าได้มองข้าด้วยสายตาเช่นนี้ ช่างขนลุกยิ่งนัก”
“ขอบคุณ”
“ระฆังวิญญาณสะบั้นอันเดียวมีสิ่งใดน่าขอบคุณ หากต้องการขอบคุณจริงๆเจ้าบอกข้าทีว่าที่ใดที่สามารถหาหญ้านรกได้”
“หุบเขากลืนวิญญาณ”
กู้ชูหน่วนมือสั่น “หุบเขากลืนวิญญาณ? เจ้าบอกว่าที่หุบเขากลืนวิญญาณมีหญ้านรก?”
“ใช่ แต่หุบเขากลืนวิญญาณนั้นยากต่อการฝ่าเข้าไป ที่นั่นเป็นเขตบรรจบของเผ่าปีศาจและเผ่ามนุษย์และยังเป็นเขตบรรจบของรัฐเยี่ย รัฐฉู่ รัฐจ้าวและรัฐหวานับว่าเป็นเขตไร้การดูแลในสามแห่งซึ่งผู้คนที่อาศัยอยู่ที่นั่นล้วนเป็นผู้คนที่เลวทรามชั่วช้าทั้งสิ้น”
“เจ้ารู้ได้อย่างไรว่ามีหญ้านรกอยู่ที่นั่น?”
“ได้ยินโดยไม่ตั้งใจ หากเจ้าต้องการไปยังหุบเขากลืนวิญญาณจริงๆทางที่ดีให้เทพแห่งสงครามไปพร้อมกับเจ้า หรือไม่ก็ให้เทพแห่งสงครามช่วยเจ้าหาหญ้านรก”
กู้ชูหน่วนยิ้มเล็กน้อยด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหยิ่งทะนง
สิ่งของที่กู้ชูหน่วนต้องการจำต้องขอให้ผู้อื่นช่วยเหลือด้วยเหตุใด
แม้ว่าหุบเขากลืนวิญญาณจะเป็นสถานที่ที่ต้องบุกน้ำลุยไฟนางก็จะต้องบุกเข้าไปให้จงได้
“คุณหนูสาม ข้าขอร้องเจ้าให้ช่วยเหลือสักหนึ่งอย่างได้หรือไม่?”
“คำว่าขอร้องคำนี้ข้าไม่ชอบดังนั้นข้าไม่ช่วย แต่แน่นอนว่าหากเจ้าต้องการให้ข้าช่วยเหลือสักอย่างข้าก็ต้องช่วย”
เยี่ยเฟิงยิ้มเล็กน้อย ใจที่ตึงเครียดเมื่อครู่นี้ก็โล่งไปบ้าง
“ข้าต้องการกลับไปยังเผ่าปีศาจหนึ่งรอบ รอให้ออกมาจากเผ่าปีศาจแล้วข้าจะไปยังสำนักศึกษาหลวงด้วยตนเอง ถึงเวลานั้น……หากข้าไม่สามารถออกมาได้ขอให้เจ้าช่วยดูแลท่านยายของข้าด้วย”
“ไปหาหัวหน้ากองธงกล้วยไม้เพื่อขอยาถอนพิษหรือ?”
สายตาเยี่ยเฟิงเป็นประกายผ่านไปและมองลงไปยังกล่องไม้มะเกลือจากนั้นน้ำเสียงก็ลดต่ำลงเล็กน้อย “เจ้าก็รู้หมดแล้ว”
“รู้เพียงเล็กน้อยนะ”
“เรื่องราวบางสิ่งเช่นไรก็ต้องจัดการแก้” เยี่ยเฟิงเงยหน้าขึ้นทันที รอยยิ้มอันน่าสงสารนั้นปรากฏขึ้นบนใบหน้าอันหล่อเหลา
กู้ชูหน่วนลุกยืนขึ้นและตบๆมุมเสื้อผ้าที่ยุ่งเหยิง น้ำเสียงอันหนักแน่นแต่ก็ไม่ได้รับปากโดยตรง “ข้าจะไม่ปล่อยให้คนของสำนักศึกษาหลวงกุมขังเจ้าเอาไว้หรอก ไป ข้าจะไปเผ่าปีศาจกับเจ้ารอบหนึ่ง”
“ไม่ต้องหรอก ข้ากลับไปเองก็พอ น้ำของเผ่าปีศาจนั้นลึกคนภายนอกเข้าไปได้ลำบากนัก”
คิ้วของกู้ชูหน่วนขมวดเข้าหากัน
“วางใจเถอะข้าจะไม่เป็นไร แม้ว่าหัวหน้ากองธงกล้วยไม้……แต่ว่าเขาก็มีความน่าเชื่อถือ ในเมื่อเขาบอกแล้วว่าเพียงแค่นำระฆังวิญญาณสะบั้นมาให้เขาได้เขาก็จะปล่อยให้ข้าเป็นอิสระ และยังจะให้ยาถอนพิษแก่ท่านยายก็จะไม่ผิดคำพูด”
กู้ชูหน่วนไม่เชื่อคำพูดเหล่านั้นเลยแม้แต่น้อย
เพียงแต่ว่าพิจารณาถึงศักดิ์ศรีและความปลอดภัยของเยี่ยเฟิงแล้วนางตามไปด้วยก็ไม่เหมาะสมจริงๆ
ลังเลอยู่ครู่หนึ่งกู้ชูหน่วนจึงได้พยักหน้า “หนึ่งวัน ข้าให้เวลาเจ้าเพียงแค่หนึ่งวัน หลังจากหนึ่งวันหากเจ้าไม่สามารถออกจากเผ่าปีศาจได้ข้าก็จะไปหาเจ้าที่เผ่าปีศาจ”