ผู้ถือธงหลิวปฏิเสธ
แต่ทุกคนในห้องต่างพากันจ้องมองเขา หากเขาไม่กล้าแม้แต่จะพนันกับสิ่งนี้ เช่นนั้นต่อไปจะเป็นหัวหน้าได้อย่างไร?
รวมไปถึงคืนนี้เขาก็แพ้ไปเกือบจะหมดตัวแล้วและเขาก็เก็บกดกองไฟในใจของเขาเอาไว้ เขากัดฟันกรอดและพูดออกมา “ก็ได้ พนันกัน”
“เจ้าพนันด้วยอะไร?”
“บ้านของข้าและเรือนคฤหาสน์ของข้า”
“ได้ เจ้าเดิมพันสูงหรือต่ำ?” ผู้ถือธงลั่วกลัวว่าเขาจะรู้สึกเสียดาย
ผู้ถือธงหลิวได้ซื้อเรือนคฤหาสน์หลังหนึ่งในเมืองหลวงเป็นการส่วนตัว ผู้ถือธงไม่น้อยที่ได้ยินต่างพากันอิจฉาเขา
เขาก็อิจฉามากเช่นกัน
หากเขาสามารถชนะและได้เรือนคฤหาสน์มาครอบครอง เช่นนั้นก็ถือว่าคุ้มค่าอย่างมาก
“เอ่อ……พนันสูงแล้วกัน ไม่ พนันต่ำ”
“จะพนันสูงหรือต่ำกันแน่?”
“ต่ำ”
“น้องอี้ เช่นนั้นเราจะพนันอะไรดี?”
ใบหน้าของอี้เฉินเฟยยังคงดูสง่างามเช่นเคย เขายิ้มและกล่าวว่า “ในเมื่อเขาพนันต่ำ เช่นนั้นเราก็พนันสูงเถอะ”
“พนันสูงจริงหรือ? เจ้าลองทบทวนให้ดีอีกครั้ง” ครั้งนี้เขาเดิมพันด้วยเงินจำนวนมากและไม่สามารถแพ้ได้ หากแพ้จริง เขาจะไม่เหลือแม้แต่สมบัติสักชิ้นเดียว
“ไม่เช่นนั้น เจ้ามาพนัน?” อี้เฉินเฟยขยับที่นั่งให้กับเขา
ผู้ถือธงหลิวโบกมือ “เจ้าเล่นก็ได้แล้ว”
ทั้งสองฝ่ายได้ซื้อเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนลูกเต๋านั้นมีผู้ถือธงหลิวเป็นผู้เขย่า
ผู้ถือธงหลิวเหงื่อไหลออกมา เขย่าไปพร้อมกับอาการสั่นในมือ
เขาเขย่าอยู่นานโดยไม่วางลง ผู้ถือธงหลิวเห็นแล้วก็รู้สึกร้อนใจ
“เจ้าเขย่าเสร็จหรือยัง?”
“จะเร่งอะไรล่ะ”
“เจ้าก็รีบๆ เข้าสิ”
ผู้ถือธงหลิวเขย่าอีกเป็นเวลานานก่อนที่จะวางลง แต่เขากลับไม่กล้าเปิดฝาออกมา
ครั้งนี้เดิมพันใหญ่เหลือเกิน
ไม่ว่าพวกเขาสองคนใครจะเป็นคนแพ้ ต่างก็ต้องล้มละลายสิ้นเนื้อประดาตัว
สุดท้าย ผู้ถือธงลั่วกัดฟันและเปิดฝาออกมา
เขาคิดว่า อี้เฉินเฟยชนะมาตลอดทั้งคืนและเขายังจะสามารถชนะต่อไปได้
แต่ทำอย่างไรก็คาดไม่ถึงเลยว่า ครั้งนี้ กลับเป็น หนึ่ง สอง สาม ต่ำ……
“ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ ทำไมถึงเป็นต่ำไปได้?” สีหน้าของผู้ถือธงลั่วเปลี่ยนไปเป็นสีขาวในทันที ทำอย่างไรก็ไม่อาจยอมรับผลในครั้งนี้ได้
ผู้ถือธงหลิวและทุกคนในห้องต่างตกตะลึง
ขยี้ตาไปมา ก็ยังคงเป็น หนึ่ง สอง สาม ต่ำ
ชนะ……ชนะแล้ว……
เขาชนะแล้วหรือ?
“พระเจ้า ใช่ หนึ่ง สอง สาม ต่ำ จริงๆ ด้วย ข้าชนะแล้ว เงินเหล่านี้ล้วนเป็นของข้าทั้งหมด”
“เจ้าหลิว เจ้าโกงใช่หรือไม่?” ผู้ถือธงลั่วอาละวาด
สีหน้าของผู้ถือธงหลิวเคร่งขรึม “เจ้าเห็นได้อย่างไรว่าข้าโกง? เจ้ามีหลักฐานหรือ?”
“เมื่อสักครู่เจ้าแพ้มาตลอด ทำไมจู่ๆ ก็มาชนะเอาตอนนี้?”
ผู้ถือธงหลิวเยาะเย้ยอย่างโกรธเคือง “ข้าชนะก็บอกว่าข้าโกง เช่นนั้นเมื่อสักครู่ที่ข้าแพ้ไปเยอะเช่นนั้น ข้าก็ควรบอกว่าพวกเจ้าโกงด้วยใช่หรือไม่?”
“เหลวไหล พวกข้าจะโกงได้อย่างไร?”
“เช่นนั้นแล้วเจ้ามาบอกว่าข้าโกงได้อย่างไร”
“นี่……”
ผู้ถือธงลั่วมองไปที่อี้เฉินเฟย
อี้เฉินเฟยกางมือขึ้นมา “เล่นลูกเต๋าเดิมทีก็มีแพ้มีชนะ เมื่อสักครู่ข้าก็พูดไปแล้วว่าหากข้าไม่กระปรี้กระเปร่าไม่มีสมาธิจะทำให้แพ้ได้ง่าย แต่เจ้ากลับอยากจะเดิมพัน”
ใบหน้าของผู้ถือธงลั่วโกรธมากจนเป็นสีดำเพราะรับไม่ได้ “ครั้งนี้ไม่นับ เมื่อครู่ยังไม่ได้เขย่าพวกเจ้าก็พนันสูงแล้ว ไม่นับๆ เริ่มใหม่”