อี้เฉินเฟยปลอมตัวเป็นเจียงซวี่ เขาลงจากชั้นที่เจ็ดของหอคอยไปยังชั้นที่หก ผู้มีหน้าที่เฝ้าหอคอยโค้งคำนับโดยไม่สงสัยอะไรเลย
“วันนี้ผู้นำกองธงอารมณ์ดี ให้ข้าพาคนคอยปรนนิบัติทั้งหมดในหอคอยไปรับใช้ พวกเจ้าสองคนมาไปพาคนคอยปรนนิบัติทั้งหมดในหอคอยออกมาเสีย”
อี้เฉินเฟยสั่งด้วยน้ำเสียงที่ยโสโอหัง ว่าแล้วก็โยนกุญแจออกไป
“ทะ… ทั้งหมด…”
“ทำไม เจ้าไม่เห็นด้วยกับผู้นำกองธงงั้นรึ”
“ไม่ๆ ไม่ขอรับ ข้าน้อยมิกล้า ข้าน้อยจะรีบจัดการเดี๋ยวนี้”
ผู้คุมทั้งสองนึกสงสัยอยู่ในใจ แต่เมื่อเห็นใบหน้าที่อึมครึมของอี้เฉินเฟย พวกเขาก็ไม่กล้าสงสัยอะไรอีก ถึงอย่างไรก็เป็นที่รู้กันดีว่าในเผ่าปีศาจแห่งนี้ เจียงซวี่โหดเหี้ยมอำมหิตขนาดไหน
จากชั้นเจ็ดถึงชั้นสอง พวกเขาทั้งหมดผ่านมาได้อย่างปลอดภัย
กู้ชูหน่วนละเลงใบหน้าของเยี่ยเฟิงจนเปื้อนและประคองเขาที่เมามายเข้าไปรวมกับฝูงชน
ถึงจะบอกว่าประคอง แต่จริงๆ ควรเรียกว่าแบกมากกว่า ตอนนี้เยี่ยเฟิงทิ้งตัวนอนพาดอยู่บนตัวนางจนนางเหนื่อยแทบหมดแรง
ผู้ถือธงที่คอยคุมคนปรนนิบัติจำนวนมากเริ่มกระซิบกระซาบกัน
“มีคนอยู่ในหอคอยเกือบห้าสิบคนเชียวนะ ผู้นำกองธงจะเพลิดเพลินเกินไปแล้วหรือเปล่า”
“ชู่ว เราวิพากษ์วิจารณ์ท่านผู้นำกองธงได้ที่ไหนกัน อีกเดี๋ยวถ้ามีใครได้ยินเข้าได้ถูกลงโทษกันพอดี”
“เปล่า ที่ข้าหมายถึงก็คือตอนนี้มันดูผิดปกติเกินไป ด้วยนิสัยของท่านผู้นำกองธง ต่อให้จะเพลิดเพลินแค่ไหน เขาก็จะเลือกแค่ไม่กี่คนจากทั้งสามหอคอย เหตุใดคราวนี้จึงให้เลือกคนปรนนิบัติจากทั้งหอคอยเลยเล่า”
“ใครจะไปรู้ เอาน่ะ นี่มันไม่ใช่เรื่องที่ข้ารับใช้อย่างเราจะจัดการอะไรได้ ทำตามที่ท่านปรมาจารย์บอกก่อน พาคนพวกนี้ไปที่ป้อมปราการกันเถอะ”
เมื่อเห็นว่าใกล้จะลงไปที่ชั้นหนึ่งของหอคอย
กู้ชูหน่วนก็รีบจ้องมองไปรอบๆ เผื่อเกิดเหตุสุดวิสัย
“หยุดอยู่ตรงนั้น พวกเจ้าลงมาทำอะไรกันมากมายขนาดนี้” ผู้ถือธงที่อยู่บริเวณหอคอยชั้นหนึ่งขวางพวกเขาไว้
อี้เฉินเฟยก้าวออกมาและมองพวกเขาอย่างเหยียดหยาม
“วันนี้ผู้นำกองธงอารมณ์ดี สั่งให้คนปรนนิบัติทุกคนในหอคอยไปปรนนิบัติ พวกเจ้ายังไม่รีบหลีกทางอีก”
“ผู้นำกองธงมีคำสั่งลงมาแล้วรึ เหตุใดพวกเราจึงยังไม่ได้รับคำสั่ง”
ผู้ถือธงที่คอยดูแลชั้นหนึ่งมีมากหน่อย พวกเขามีกันทั้งหมดแปดคน ทั้งแปดคนมองหน้ากันและเห็นความแววความสงสัยในดวงตาของอีกฝ่าย
ถ้ามีคำสั่งนี้ลงมาจริงพวกเขาก็น่าจะรู้แล้วสิ
อี้เฉินเฟยชักสีหน้าทันที เขากล่าวอย่างโมโหว่า “พวกเจ้าแปดคนคอยเฝ้าหอคอยแห่งนี้ แต่ไม่มีใครรู้เลยด้วยซ้ำว่าท่านผู้นำกองธงมีคำสั่งลงมา พวกเจ้าเป็นคนรับใช้ประสาอะไร ดูเหมือนข้าจะปล่อยปละละเลยพวกเจ้ามากเกินไปแล้วสินะ”
เขาเอ่ยอย่างเฉียบขาดราวกับว่าพร้อมจะโมโหตลอดเวลา
ผู้ถือธงทั้งแปดคนพากันก้มหัวลง ไม่กล้าเงยหน้ามองเจียงซวี่
พวกเขาโยนความสงสัยภายในใจทิ้งไป
บางทีพวกเขาอาจจะล้าหลังจริงๆ
กู้ชูหน่วนเห็นแล้วรู้สึกขำ
วิธีทำให้ตกใจกลัวเช่นนี้ นางเห็นแล้วก็เกือบจะเชื่อเหมือนกัน
หนึ่งในพวกกองธงทำใจกล้า เอ่ยปากคอสั่นว่า “ท่านปรมาจารย์ ข้าน้อย… ข้าน้อยบังอาจนัก แต่ท่านโปรดแสดงตราคำสั่งได้หรือไม่”
“พวกเจ้าละเลยต่อหน้าที่แล้วยังกล้ามาขอดูตราคำสั่งจากข้าอีกรึ หรือพวกเจ้าคิดว่าข้าโกหก”
“มิกล้า ข้าน้อยมิกล้า”
“ในเมื่อไม่กล้าก็รีบไสหัวไปซะ”
“นี่มัน…”
“อะไร หรือว่าคิดจะขวางพวกข้า”
“ข้าน้อยมิกล้า แต่ถ้าไม่มีตราคำสั่งแล้วปล่อยตัวคนปรนนิบัติจำนวนมากไปโดยพลการ ถ้าถูกเบื้องบนไต่สวนขึ้นมา ข้าน้อย…”
“ปกติข้าคงจะปฏิบัติต่อพวกเจ้าดีเกินไปละสินะ พวกเจ้าเลยกล้าต่อต้านแม้กระทั่งคำสั่งของท่านผู้นำกองธง ใครก็ได้มานี่ ไปเอาตัวพวกมันมาให้ข้า”
อี้เฉินเฟยยิ้มเยาะ ดวงตาที่เยียบเย็นของเขาเต็มไปด้วยความชั่วร้ายและเอาแต่ใจ
ทุกคนได้ยินคำพูดของเขาและขนลุกซู่ขึ้นมาทันที
ไหนเลยจะกล้าขัดคำสั่งของเขา ดังนั้นพวกเขาจึงรีบหลีกทางให้ทันที
“เชิญท่านปรมาจารย์”
“ฮึ ยังไม่รีบพาคนพวกนี้ไปที่ป้อมปราการอีก หรือว่าต้องให้ข้าสอนพวกเจ้าคุมตัวนักโทษด้วยตัวเอง”