กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ – บทที่ 235

บทที่ 235

หากในเมืองแห่งนี้ไม่มีผักสด เนื้อสุกร หรืออาวุธร่วงหล่นลงมาเป็นบางครั้งบางคราว กู้ชูหน่วนก็จะคิดว่าเป็นเมืองร้างไปเสียแล้ว

เมื่อนางหลับตาพริ้วพลันสัมผัสได้ถึงเสียงลมหายใจ ทว่าเป็นลมหายใจกระชั้น ตัวสั่นเทิ้ม คล้ายกับหวั่นหวาดอะไรบางอย่าง

“ข้านึกว่าผู้ใด ที่แท้ก็นังหนูนี่เอง”

ในระยะที่ไม่ไกลออกไป สวีซานเหนียงเดินนวยนาดด้วยฝีเท้าแช่มช้า แววตานางเปี่ยมไปด้วยความชิงช้าอันแรงกล้า สายตาที่มองกู้ชูหน่วนดั่งมองคนตายอย่างไรอย่างนั้น

ด้านข้างสวีซานเหนียงยังมีบุรุษร่างสูง ผอมซูบราวกับวานรแห้งเหี่ยว นามว่า สวีเจิ้น

สวีเจิ้นจ้องหุ่นได้รูปของนางด้วยแววตาบ้ากาม พลางเลียนิ้วอย่างชั่วร้าย

เมื่อเห็นแววตาบ้ากามของสวีเจิ้น กลิ่นอายสังหารพลันแวบผ่านจอมมาร เร็วจนยากจะมองทัน

“วิญญาณทั้งเจ็ดแห่งหุบเขามืด” กู้ชูหน่วนกล่าวอย่างขี้คร้าน

สวีซานเหนียงสะบัดหัตถ์โลหิต คล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม ปริมาณสีผึ้งอันหนาเตอะลอกออกจากใบหน้าตามจังหวะก้าวเดิน

“สวรรค์มีประตู เจ้าไม่ไป นรกไร้ประตู เจ้าดันบุกเข้ามา ข้ากำลังกลุ้มอยู่พอดี กลัวว่าจะหาตัวเจ้าไม่เจอ คาดไม่ถึงว่าเจ้าจะเสนอหน้ามาเอง”

“ซานเหนียง สตรีผู้นี้คือ?”

“คือนังปากคอเราะราย นางกับบุรุษวัยหนุ่มอีกสองคนร่วมมือกับสังหารคนแคระเจี่ยน”

“อะไรนะ……นางเป็นคนสังหารคนแคระเจี่ยน”

สวีเจิ้นหน้าถอดสี มองกู้ชูหน่วนด้วยแววตาที่โหดร้ายหลายส่วน

“สตรีผู้นี้ลูกเล่นเยอะ ถนัดเข็มอาบยาพิษและอาวุธลับ เจ้าระวังอย่าได้หลงกลนางเชียว”

“มีแต่คนหลงกลข้า ยังไม่มีคนเล่นอุบายใส่ข้ามาก่อน นางก็แค่สตรีตัวเล็ก ๆ คนหนึ่ง ซานเหนียงพูดเกินไปหรือเปล่า?”

พวกเขามั่นใจว่ากู้ชูหน่วนไร้วรยุทธ

ทว่าพวกเขาไม่มั่นใจว่าบุรุษชุดแดงที่เคียงข้างกู้ชูหน่วนจะมีวรยุทธหรือไม่

พวกเขาลอบสำรวจ ทว่าก็ไม่อาจสัมผัสกำลังภายในที่มีอยู่ในสรรพางค์กายของเขาแม้แต่เศษเสี้ยว

หรือว่าบุรุษตรงหน้าไม่มีวรยุทธจริง ๆ ?

และอีกหนึ่งความเป็นไปได้คือ วรยุทธของอีกฝ่ายเลิศล้ำกว่าพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถรับรู้

ไม่สิ วรยุทธของพวกเขานับว่าสูงลิ่วแล้ว นอกเสียจากเขาจะเป็นยอดฝีมือพลิกฟ้าอย่างจอมมารหรือหัวหน้านิกายเทพอสูร

แวบแรกที่สวีซานเหนียงยลโฉมใบหน้าของจอมมาร นางก็ถูกใบหน้าอันงดงามไร้ที่ติ ดั่งทวยเทพของจอมมารดึงดูดใจ

นางแย้มยิ้มเอื้อนเอ่ย “คุณชายท่านนี้ ไม่ทราบว่าชื่อกระไร? ยินดีติดตามข้าหรือไม่ ข้าสามารถให้ท่าน……”

“ไม่ยินดี”

จอมมารคร้านจะเงยหน้ามองอีกฝ่าย เพียงแค่เอาผมด้านหลังหูม้วนเล่นอย่างขี้เกียจเท่านั้น

เขาไม่วางหน้าสวีซานเหนียงเลยสักนิด ถึงขั้นขี้เกียจฟังสวีซานเหนียงกล่าวจบ

สวีซานเหนียงยิ้มเย็น “ท่านต้องรู้ว่าติดตามนางแล้วมีแต่ตายสถานเดียว”

จอมมารเงยหน้า ดวงตาดอกท้อสะท้อนรอยยิ้มยโสโอหังของกู้ชูหน่วน เสียงใสกล่าวเรียบ ๆ ว่า “พี่สาวข้าจะปกป้องข้าเอง”

“……”

“กลัวว่าแม้แต่ตัวนางเองยังปกป้องไม่ได้หน่ะสิ”

“เฮอะ……ไม่รู้ว่าครั้งที่แล้วใครกันนะที่แพ้แล้ววิ่งหนีหัวซุกหัวซุน วันนี้ยังมีหน้าโอ้อวดอีก” กู้ชูหน่วนปัดเสื้ออันยุ่งเหยิงของตัวเอง นัยน์ตาโอหังเปี่ยมไปด้วยความเหยียดหยาม

นางแตะไหล่จอมมาร ก่อนจะตบไหล่เบา ๆ พร้อมกับพูดปลอบประโลมว่า “เด็กดี พี่สาวอยู่ตรงนี้ ไม่มีผู้ใดทำร้ายเจ้าได้”

จอมมารซุกหัวอยู่ในอ้อมอกนาง ประหนึ่งภรรยาผู้หนึ่ง

สวีซานเหนียงเจ้าชู้ประตูดิน

สวีเจิ้นก็เช่นกัน

บัดนี้เห็นพวกเขาสนิทชิดเชื้อกันเยี่ยงนี้ มีหรือจะไม่เกรี้ยวกราด

“พูดไม่รู้จักกระดากปาก เชอะ ข้าจะดูสิว่าวันนี้ใครจะช่วยท่านเจ้าได้ น้องชาย เจ้าจัดการนังคนนี้ ส่วนบุรุษผู้นี้ก็มอบให้ข้า”

“ได้เลย”

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท