กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ – บทที่ 280

บทที่ 280

ช่วงนี้พักอยู่ที่จวนหานอ๋องตลอด กู้ชูหน่วนจึงชำนาญภูมิทัศน์ที่นี่มาก

นางแอบย่องออกไปอย่างชำนาญเส้นทาง ทว่าพึ่งจะถึงลานบ้านก็ถูกพวกทหารคุ้มกันจับได้เสียแล้ว

“พระชายาอย่างข้าจะกินขนมกุ้ยฮวา พวกเจ้ารีบหลบไป”

“ท่านอ๋องมีคำสั่งห้ามผู้ใดออกจากเรือนแม้แต่ครึ่งก้าวพ่ะย่ะค่ะ โดยเฉพาะพระชายา”

โอ้สวรรค์

นางแปลงโฉมแล้ว ไยคนพวกนี้จึงจำได้?

คล้ายกับทหารคุ้มกันรู้ว่านางสงสัย

“ใต้เท้าชิงเฟิงปฏิบัติตามคำสั่งของท่านอ๋องมาโดยตลอด เขาจึงไม่มีทางออกจากเรือนฉีเย่ว์แน่ และท่านอ๋องยังเคยรับสั่งว่า พระชายาเชี่ยวชาญด้านค่ายกลแปดทิศ ด้านแปลงโฉม และช่างจำนรรจา หากผู้ใดอยากออกจากเรือนแห่งนี้ ย่อมเป็นพระชายาปลอมตัว”

“……”

กู้ชูหน่วนหน้าดำคล้ำ

จำเป็นต้องวิเคราะห์นางจนทะลุปรุโปร่งไหม?

“ดังนั้นหากข้ารั้นจะออกไป พวกเจ้าจะหักขาข้าใช่ไหม? หรือเอาลูกในท้องข้าออก เอาชีวิตข้า”

“ข้าน้อยมิกล้า แต่ท่านอ๋องมีรับสั่งว่า หากพระชายาออกจากเรือนฉีเย่ว์ก็จะตัดขาชิวเอ๋อร์ทิ้งพ่ะย่ะค่ะ”

กู้ชูหน่วนหัวเราะเย้ยหยัน “วันนี้ข้าของพูดตรงนี้เลยว่า ข้าจะออกไปเรือนฉีเย่ว์แน่นอน หากพวกเจ้ากล้าตัดขาชิวเอ๋อร์ ข้าจะทำลายเด็กในท้องทิ้ง ถ้าเจ้าไม่เชื่อก็ลองดู อย่างไรเสียข้าก็ไม่อยากได้ลูกคนนี้อยู่แล้ว”

เหล่าทหารคุ้มกันหน้าถอดสี ใบหน้าเริ่มมีความยืดหยุ่นขึ้นนิด ๆ

กู้ชูหน่วนกล่าวต่อไปว่า “อีกอย่าง ชิวเอ๋อร์เป็นแค่สาวใช้คนหนึ่ง หากนางพิการ ข้าหาใหม่ได้ แต่หากสูญเสียลูกในท้องก็ไม่มีคนที่สองแล้ว นี่คือเลือดเนื้อเชื้อไขหนึ่งเดียวของท่านอ๋อง พวกเจ้าชั่งน้ำหนักกันเองเถอะ”

เบื้องบนมีคำสั่ง ทว่าพระชายาก็พูดจากดำเป็นขาวได้ ไม่ว่านางจะเอ่ยเช่นไรก็ปล่อยออกไปไม่ได้เด็ดขาด

ทว่ายามนี้ พวกเขาไม่กล้าเสี่ยง เพราะตอนนี้ท่านอ๋องมีทายาทเพียงหนึ่งเดียว ยิ่งไปกว่านั้นจวนอ๋องให้ความสำคัญกับลูกคนนี้มาก

“ไปรายงานใต้เท้าเจี้ยงเสวี่ย เชิญเขามาหน่อย”

กู้ชูหน่วนรู้สึกโมโห

เจี้ยงเสวี่ยยังอยู่ในจวนหรือ?

เช่นนั้นเยี่ยจิ่งหานก็อยู่ในจวนด้วยน่ะสิ?

“พาข้าไปพบท่านอ๋อง” กู้ชูหน่วนตะเบ็งเสียงเกรี้ยวกราด

“ยามนี้ท่านอ๋องไม่อยู่ในจวนพ่ะย่ะค่ะ หากพระชายาต้องการพบหน้าท่านอ๋องก็ให้รออยู่ที่เรือนฉีเย่ว์ก่อน ข้าน้อยจะส่งคนไปรายงานท่านอ๋องให้พ่ะย่ะค่ะ”

กู้ชูหน่วนเหยียดยิ้มเย้ยหยัน

คิดว่านางโง่เง่าเต่าตุ่นหรือไร?

เยี่ยจิ่งหานมีองครักษ์คนสนิทสองคน

คนหนึ่งคือชิงเฟิง วิ่งถูกย้ายให้มาปกป้องนาง

ส่วนอีกคนคือเจี้ยงเสวี่ย

เมื่อไม่มีชิงเฟิงอยู่ข้างกาย เยี่ยจิ่งหานต้องให้เจี้ยงเสวี่ยติดตามแน่นอน

กู้ชูหน่วนรู้สึกเกรี้ยวกราดถึงทรวง เมื่อใช้ไม้นวมไม่ได้ผล เช่นนั้นก็จะใช้ไม้แข็งแล้วนะ

นางจึงงัดวิชาตัวเบาออกมาใช้ บุกออกไปซึ่ง ๆ หน้า และการกระทำของนางก็อยู่ในการคาดคะเนของเหล่าทหารคุ้มกัน พวกเขาต่างแยกย้ายไปยังจุดต่าง ๆ แล้วทำการขัดขวางกู้ชูหน่วน

ทหารคุ้มกันที่เยี่ยจิ่งหานส่งมาล้วนเป็นยอดฝีมือกันทั้งนั้น

ทว่าการขัดขวางนั้นกลับยากเย็นแสนเข็ญ

เพราะวิชาตัวเบาของกู้ชูหน่วนร้ายกาจมาก ลูกน้องของเยี่ยจิ่งหานพะว้าพะวัง ไม่กล้าลงมือกับกู้ชูหน่วน ดังนั้นจึงทำให้กลายเป็นว่าไม่มีฝ่ายใดเหนือกว่า

กู้ชูหน่วนกุมท้องกะทันหัน หน้าย่นคิ้วขมวด “โอ้ ท้องข้า ข้าปวดจะตายอยู่แล้ว ไม่ใช่ว่าจะแท้งหรอกนะ”

ประโยคเดียว ทว่ากลับทำให้เหล่าทหารคุ้มกันพากันประหวั่นพรั่นพรึง

กู้ชูหน่วนฉวยโอกาสปาผงยาพิษออกไป ก่อนจะทำการเผ่นหนี

จากนั้นสิ่งที่เหนือการคาดหมายนางก็เกิดขึ้น

ไม่รู้ว่าเยี่ยจิ่งหานจัดคนมาเฝ้าดูการกักบริเวณกี่คน

เมื่อนางปลีกตัวออกจากกลุ่มหนึ่งได้สำเร็จ อีกกลุ่มหนึ่งก็เข้ามาทันที ไม่รู้ว่าวิ่งไป ๆ มา ๆกี่รอบ มันทำให้นางเหงื่อไหลซึมทั้งตัว

“พระชายา เชิญกลับพ่ะย่ะค่ะ”

กลับบ้าบออะไรกัน

ตีให้ตาย นางก็ไม่กลับ

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท