กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ – บทที่ 273

บทที่ 273

“ทองแดงที่แตกหัก?”

เยี่ยเฟิงและเซี่ยวอวี่เซวียนต่างก็ไม่เข้าใจว่านั่นหมายความว่าอย่างไร

สิ่งที่พูดออกมาจากปากของกู้ชูหน่วนนั้น บ่อยครั้งที่พวกเขามักฟังไม่เข้าใจ

เซี่ยวอวี่เซวียนส่ายหน้าและเป็นคนแรกที่ไม่เห็นด้วย “เทพแห่งสงครามไม่ได้เป็นคนที่จัดการได้ง่ายๆ วันแต่งงานแต่เจ้ากลับทำเพื่อผู้ชายคนอื่นและหนีไปที่เผ่าปีศาจ ข้าเกรงว่าเจ้าจะยังช่วยเหลือใครไม่ได้ แต่กลับต้องแลกด้วยชีวิตของเจ้าเองมากกว่า”

กู้ชูหน่วนกลอกตาขาวใส่ “เจ้าวางใจได้ ข้าไม่เพียงแต่จะไม่เอาชีวิตของข้าไปเสี่ยง ข้ายังสามารถทำให้เยี่ยจิ่งหานปล่อยข้าออกมาแต่โดยดี เจ้าเลิกเป็นกังวลเรื่องนั้นได้แล้ว”

“พูดอย่างกับเป็นเรื่องจริง เช่นนั้นเจ้าก็พูดสิว่าเจ้าจะออกมาในคืนวันแต่งงานได้อย่างไร?”

“พูดออกมาก็ไม่ศักดิ์สิทธิ์แล้วน่ะสิ”

เซี่ยวอวี่เซวียนคิดว่านางเพียงพูดขึ้นมาเล่นๆ เท่านั้น ไม่คิดเลยว่านางคิดจะหนีการแต่งงานจริง

แต่ว่า……ในใจของนางกลับยิ่งต้องการให้เรื่องการแต่งงานของนางและเทพแห่งสงครามถูกเป็นที่พูดถึงไปทั่ว

กู้ชูหน่วนหยิบแผนที่แผ่นหนึ่งที่วาดเอาไว้ก่อนหน้านี้แล้วและเรียกฝูกวงมาเพื่อพูดคุยปรึกษาว่าจะทำอย่างไรให้เยี่ยจิ่งหานติดกับดักเข้าไปยังหุบเขาพิศวิญญาณเพื่อช่วยชีวิตของท่านยายเยี่ยได้

เยี่ยเฟิงมองไปที่ท้องฟ้าสีคราม แต่กลับไม่ได้ยินคำพูดใดๆ

ก่อนหน้านี้ก็เคยบุกเข้าไปยังหุบเขาพิศวิญญาณแล้วครั้งหนึ่ง ครั้งนี้คิดอยากจะบุกเข้าไป เกรงว่าคงจะไม่ง่ายเช่นนั้นแล้ว

อีกอย่าง……

ชีวิตของเขาไม่มีคุณค่าเลยด้วยซ้ำ จะให้พวกเขายอมตกอยู่ในอันตรายได้อย่างไร

ถึงแม้ว่าเทพแห่งสงครามจะมีบุคลิกที่เคร่งขรึม แต่ก็เป็นคนที่สามารถฝากชีวิตเอาไว้ได้ กู้ชูหน่วนแต่งงานกับเขาไป จะต้องมีความสุขอย่างมาก

ยายของเขา ก็ให้เป็นหน้าที่ของเขาในการเข้าไปช่วยเหลือออกมาเถอะ

ชีวิตของผู้คนในหมู่บ้านเสี่ยวเหอนับร้อย ก็ควรจะได้รับการปลดปล่อย

กู้ชูหน่วนจิ้มไปที่ไหล่ของเยี่ยเฟิงเบาๆ เพื่อให้เขาดึงสติกลับมา

“กำลังคิดอะไรอยู่หรือทำไมถึงดูจริงจังเช่นนั้น ข้าจะให้เซี่ยวอวี่เซวียนและฝูกวงจากไปก่อน เราก็กลับไปกันเถอะ เจ้าไม่ได้กินอิ่มมากี่วันแล้ว”

“ไม่เลย ขอบใจเจ้ามาก”

“ขอบใจข้าเรื่องอะไร?”

“ขอบใจที่เจ้าไม่ได้บอกถึงตัวตนที่แท้จริงของข้าต่อหน้าของอัครมเหสีฉู่”

เยี่ยเฟิงรู้ว่าจากความเฉลียวฉลาดของกู้ชูหน่วนแล้ว นางจะต้องรู้สถานะความสัมพันธ์ของเขาและอัครมเหสีฉู่อย่างแน่นอน

กู้ชูหน่วนถอนหายใจ ในปากของนางเคี้ยวต้นหญ้าอยู่และพูดขึ้นมาอย่างเกียจคร้าน “ฉะนั้น เจ้าเป็นลูกของอัครมเหสีฉู่และเป็นองค์ชายของรัฐฉู่?”

เยี่ยเฟิงก้มหน้าลงและพูดอย่างเฉื่อยช้า “ไม่ใช่ ในอนาคตพวกเขาจะมีลูก”

“ข้าเห็นว่าอัครมเหสีฉู่ก็ดูอ่อนโยนและใจดีมากเช่นกัน อีกอย่างพระองค์ยังไม่ลืมเรื่องเกี่ยวกับเจ้าเลย ข้าคิดว่า เจ้าควรจะบอกความจริงกับพระองค์ไปเลย พระองค์ไม่มีทางรังเกียจอดีตของเจ้าอย่างแน่นอน”

“พระองค์ไม่รังเกียจ แต่ข้ารังเกียจ”

“แต่เจ้าเคยคิดมาก่อนหรือไม่ว่าความปรารถนาสูงสุดของแม่คือการได้อยู่ร่วมกับลูกๆ ไปตลอดชีวิตและมีความสุขกับครอบครัว พระองค์เจ็บปวดกับการที่ลูกชายแท้ๆ หายไปสิบแปดปี สิบแปดปีมานี้ ข้าเชื่อว่าพระองค์ใช้ชีวิตผ่านไปอย่างยากลำบาก”

เยี่ยเฟิงส่ายหัวอย่างดื้อรั้นและอ้อนวอนด้วยน้ำเสียงสะอื้น “หากเจ้ายังเห็นว่าข้าเป็นเพื่อน เช่นนั้นเจ้าก็ช่วยข้าปกปิดความลับนี้ต่อไป ได้หรือไม่?”

มุมปากของกู้ชูหน่วนขยับและไม่รู้ว่าควรจะพูดเกลี้ยกล่อมอย่างไร

เมื่อสักครู่เยี่ยเฟิงได้เล่าเรื่องราวในอดีตให้นางฟังมากมายเช่นนั้น ก็เพียงเพื่อขอร้องให้นางอย่าเปิดเผยภูมิหลังชีวิตของเขาออกไป

“เรื่องนี้ค่อยพูดกันวันหลังเถอะ กลับไปกินข้าวกันก่อนเถอะ”

“ข้ายังอยากจะอยู่กับพวกเขา เจ้ากลับไปก่อนเถอะ ประเดี๋ยวข้าจะตามกลับไป”

“เช่นนั้นข้าจะกลับไปยกสำรับอาหารมาที่นี่ เรานั่งกินข้าวกันตรงนี้” กู้ชูหน่วนหันหลังเดินกลับไปและโยนต้นหญ้าในปากทิ้งลง

เยี่ยเฟิงต้องการขอร้องนาง หากเป็นไปได้ช่วยดูแลอัครมเหสีฉู่แทนเขา

แต่เขาพูดไม่ออก

หนึ่งคือ อัครมเหสีฉู่มีตำแหน่งฐานะที่สูงส่ง ข้างกายจึงมีคนคอยปรนนิบัติดูแล

สองคือ กู้ชูหน่วนฉลาดเหลือเกิน หากเขาพูดไป กู้ชูหน่วนจะต้องคาดเดาความคิดจุดประสงค์ของเขาได้

สามคือ เขาไม่มีคุณสมบัติอะไรที่จะไปขอร้องให้กู้ชูหน่วนช่วยเหลือในเรื่องนี้

หุบเขาพิศวิญญาณ……

จุดเริ่มต้นทั้งหมดของเขาอยู่ที่นั่น หากจะทำให้ทุกอย่างจบลง เช่นนั้นก็ควรจะจบลงที่นั่น

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท