กู้ชูหน่วนตกใจ
และฝูกวงก็ตกใจเช่นกัน
พวกเขาต้องการเข้าไปช่วย แต่เจียงซวี่อยู่ใกล้กับเยี่ยเฟิงมากเกินไป ต่อให้พวกเขาเคลื่อนไหวเร็วมากเพียงไรก็ไม่ทันเวลา
ในเหตุการณ์ที่วิกฤตินี้ ยายเยี่ยที่ยืนอยู่ข้างเยี่ยเฟิงก็รับรู้ได้ถึงการสังหารและร่างกายก็โถมตัวไปที่เยี่ยเฟิงทันที
“ผลุบ……”
เยี่ยเฟิงถูกผลักลงไปที่พื้นโดยไม่ได้เตรียมตัว สิ่งที่ดึงดูดสายตาของเขาคือดวงตาที่ดุร้ายของเจียงซวี่ มีดแทงนั้นทิ่มแทงเข้าที่หัวใจของยายเยี่ยและเลือดก็สาดกระเซ็นใส่เขา ทำให้ดวงตาของเขาเป็นสีแดง
เงียบสงัด……
ราวกับทั้งโลกหยุดนิ่งและเงียบสงบลง
เงียบจนได้ยินเพียงเสียงหัวใจตัวเองกำลังเต้น
ตรงหน้า กู้ชูหน่วนชักดาบของฝูกวงออกมาอย่างดุร้ายและสับเข้าไปที่แขนของเจียงซวี่ เลือดสาดกระเซ็นขึ้นอีกครั้ง เจียงซวี่กรีดร้องอย่างโอดครวญเสียงดังกึกก้องไปทั่วทั้งป่าเขา ทหารอารักขาของเยี่ยจิ่งหานต่างก็ได้ยินและตกใจไปตามๆ กัน จากนั้นจึงล้อมวงกันเข้ามาดู
ดูเหมือนว่าเยี่ยเฟิงจะยังไม่ได้สติและตรงหน้าเขามีเพียงยายเยี่ยที่เปื้อนเลือดที่ล้มลงกับพื้นเท่านั้น
ไม่……
ไม่ได้……
เยี่ยเฟิงคลานไปข้างหน้าด้วยความสั่นเทาและประคองยายเยี่ยที่กำลังจะหมดลมหายใจ ในใจนั้นไม่เคยมีความรู้สึกหวาดกลัวและสับสนยุ่งเหยิงเช่นนี้มาก่อนเลย
“ยาย……ยาย……ท่านอย่าทำให้เฟิงเอ๋อร์ตกใจเช่นนี้ แม่นางกู้ ทักษะทางการรักษาของเจ้าเก่งกาจไม่ใช่หรือ? เจ้ารีบช่วยชีวิตยายของข้าหน่อยสิ”
เดิมทีกู้ชูหน่วนต้องการจะดับชีวิตของเจียงซวี่ด้วยดาบด้ามนั้น เมื่อได้ยินที่เยี่ยเฟิงพูดขึ้นมา จึงรีบไปตรวจสอบอาการบาดเจ็บของยายเยี่ยในทันที
แววตาของนางรู้สึกเจ็บปวด “ตรงกลางหัวใจเลย เป็นอาการบาดเจ็บถึงชีวิต แม้แต่พระเจ้าก็ช่วยได้ยาก”
ร่างกายของเยี่ยเฟิงแกว่งไปมาและใบหน้าซีดเผือดในทันที
“ไม่……เป็นไปไม่ได้ จะเป็นไปได้อย่างไร……เราผ่านอะไรกันมามากมายและกำลังจะได้ไปดินแดนอันบริสุทธิ์นิกายเทพอสูรโดยไม่ถูกรบกวน เป็นไปได้อย่างไร……ยาย ท่านอดทนเอาไว้ เฟิงเอ๋อร์จะพาท่านไปหาหมอ”
ยายเยี่ยจับมือที่สั่นเทาและเย็นยะเยือกของเยี่ยเฟิงเอาไว้ ดวงตาทั้งสองข้างของนางก็ถูกควักไปแล้วและไม่สามารถมองเห็นเยี่ยเฟิงได้ แต่นางก็ยังจ้องไปที่เขาอย่างลึกซึ้งและพูดอย่างอ่อนแรง
“ไม่เป็นไร โชคดีที่เจ้าไม่เป็นอะไร……”
“ยาย……”
เยี่ยเฟิงรู้สึกผิดอย่างมาก
เป็นเพราะเขาประมาท เขาไม่ควรเชื่อใจเจียงซวี่ง่ายเกินไป หากเขาไม่เชื่อเจียงซวี่ ยายก็คงไม่มารับมีดนี้แทนเขา
“ข้าจะหามยายไปหาหมอ แม่นางกู้ช่วยยายไม่ได้ จะต้องมีหมอคนอื่นที่สามารถช่วยได้อย่างแน่นอน”
“เฟิง……เฟิงเอ๋อร์ ไม่ต้องแล้ว ข้าเป็นเพียงภาระของเจ้าและควรตายไปนานแล้ว หลายปีมานี้ ข้าเป็นภาระให้เจ้ามาโดยตลอด”
ยายเยี่ยยื่นมือที่สั่นเทาของนางออกไปลูบใบหน้าที่ซีดเผือดของเยี่ยเฟิง “ข้าไม่เสียดายที่ข้าจะต้องตาย ข้ากลัวว่า……ความจิตใจดีของเจ้า จะทำให้คนอื่นมารังแกเอาได้”
ดวงตาของเยี่ยเฟิงเต็มไปด้วยน้ำตา ราวกับเด็กที่ถูกทอดทิ้ง ทำอะไรไม่ถูก สับสนและหวาดกลัว
ในใจของเขารู้ดีกว่าคนอื่นว่ามีดที่ทิ่มแทงมาตรงกลางของหัวใจนี้ ซึ่งไม่สามารถรักษาหรือช่วยชีวิตให้กลับมาฟื้นขึ้นได้
โดยเฉพาะหากกู้ชูหน่วนไม่มีวิธี เช่นนั้นหมอคนอื่นก็ยิ่งไม่มีทางรักษาได้ เพียงแต่เขาดื้อรั้นที่จะไม่เชื่อในความจริง
“กู้……แม่นางกู้ ข้าขอร้องอะไรเจ้าได้หรือไม่ เยี่ยเฟิงเด็กคนนี้ลำบากเหลือเกิน ข้ากลัว……ข้ากลัวว่าหลังจากที่ข้าจากไปแล้วเขาจะโดดเดี่ยวอ้างว้างเพียงลำพัง”
“ท่านวางใจเถอะ เขาเป็นเพื่อนของข้า ข้าจะดูแลเขาอย่างดี”
“ขอบคุณ……ขอบคุณมาก”
ยายเยี่ยมองไปที่เยี่ยเฟิงด้วยความรัก ราวกับมีร้อยพันคำพูดที่อยากจะพูดออกมา แต่กลับแลกมาเพียงหยดเลือดที่ไหลออกมา
“ตึ่ง……”
มือของนางที่ลูบไล้ใบหน้าของเยี่ยเฟิงเลื่อนลงอย่างอ่อนแรงและหัวใจของนางก็หยุดลงอย่างสมบูรณ์ในขณะนี้