“องค์หญิง หากท่านอยากเห็นโฉมหน้าของข้า ท่านบอกข้าก็ได้ เหตุใดต้องถอดผ้าคลุมของข้าออกด้วย ชิวเอ๋อร์เป็นคนทำผ้าคลุมหน้าให้ข้าด้วยมือของตนเอง มันมีค่ามากสำหรับข้า”
กู้ชูหน่วนมองไปที่แววตาอันตกตะลึงของผู้คนอย่างพึงพอใจ
เดิมทีนางไม่ต้องการโอ้อวดเช่นนี้ เป็นพวกเขาที่ชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้าน และบังคับให้นางต้องเผยโฉมหน้าที่แท้จริงออกมา
องค์หญิงตังตังกล่าวว่า “เจ้า……เจ้าเป็นใคร?”
“เมื่อครู่องค์หญิงเรียกข้าว่าเสด็จอาสะใภ้ไม่ใช่หรือ?พอโกรธเคืองก็จำกันไม่ได้แล้วหรือ?”
“ท่าน……ท่านคือกู้ชูหน่วน?เป็นไปได้อย่างไร หน้าตาของท่านอัปลักษณ์มากไม่ใช่หรือ?ทำไมถึง……” ทำไมถึงได้หน้าตางดงามมากเช่นนี้?
ก่อนหน้านี้นางคิดว่ากู้ชูหน่วนหน้าตาดี แต่ในตอนนี้นางรู้สึกว่ากู้ชูหน่วนเทียบไม่ได้เลย
“องค์หญิงกล่าวแปลก ๆ ป่วยแล้วก็สามารถรักษาให้หายได้ ก่อนหน้านี้ข้าหน้าตาอัปลักษณ์ แต่ในตอนนี้หายแล้ว มีอะไรน่าแปลกกัน?”
องค์หญิงตังตังสำลัก
ใบหน้านี้เรียบเนียน นุ่มนวลเปล่งปลั่ง เหมือนทารกแรกเกิด จนทำให้ผู้คนอิจฉา
สีหน้าของกู้ชูหน่วนไม่น่ามอง และโกรธจนตัวสั่น
นางต้องเปลืองแรงในการปลุกปั่นให้องค์หญิงตังตังดึงผ้าคลุมหน้าของกู้ชูหน่วนออก ความตั้งใจเดิมของนางคือทำให้กู้ชูหน่วนอับอายขายหน้า แต่ไม่คิดว่าจะเป็นการให้โอกาสกู้ชูหน่วนทำให้ผู้คนตื่นตะลึง
รูปลักษณ์ของกู้ชูหน่วนกลับมาเป็นเหมือนเดิมตั้งแต่เมื่อไหร่?
ทำไมถึงไม่มีข่าวคราวมาก่อน?
นางได้แต่งงานกับเทพแห่งสงคราม แล้วยังมีใบหน้าที่งดงามจนไม่มีใครเทียบได้ หากกู้ชูหน่วนไม่ตาย ต่อไปจะยังมีที่ว่างสำหรับนางอีกหรือไม่?
หลิ่วเย่ว์แทบอยากจะกัดลิ้นของตัวเอง “โอ้สวรรค์ หญิงงามผู้นี้เป็นพี่ใหญ่ของพวกเราจริง ๆ หรือ?ข้าไม่ได้ฝันไปใช่หรือไม่?”
อวี๋ฮุยพูดอย่างตื่นเต้น “ไม่ได้ฝัน เป็นพี่ใหญ่ของพวกเราจริง ๆ โอ้สวรรค์ พี่ใหญ่สวมผ้าคลุมหน้ามาโดยตลอด ข้าคิดว่าเป็นเพราะนางอัปลักษณ์มากเกินไป จึงไม่กล้าเปิดเผยใบหน้าที่แท้จริง แต่ความจริงแล้วนางหน้าตางดงามมากเสียจนทำให้ผู้คนตกตะลึง จึงต้องสวมผ้าคลุมหน้าไว้”
“หากพี่ใหญ่เซี่ยวอวี่เซวียนอยู่ที่นี่ เขาจะต้องประหลาดใจอย่างแน่นอน”
อัครเสนาบดีกู้หรี่ตาลง และมองใบหน้าที่คุ้นเคยอย่างไม่อยากเชื่อสายตา
ใบหน้านั้นดูคล้ายกับแม่ของนางมาก โดยเฉพาะนัยน์ตาที่เหมือนกันมาก แต่แววตาของนางเฉลียวฉลาดและมีไหวพริบมากกว่า
ถึงอย่างไรนางก็เป็นผู้ให้กำเนิด แม้แต่หน้าตาก็ยังเหมือนกันมากเช่นนี้
เมื่อนึกถึงแม่ที่ตายไปแล้วของกู้ชูหน่วน สีหน้าของอัครเสนาบดีกู้ก็เปลี่ยนไป
ซั่งกวนฉู่ตกตะลึงเมื่อเห็นนาง
เขาคิดมาโดยตลอดว่ารูปลักษณ์หน้าตาของกู้ชูหน่วน อาจจะไม่ได้อัปลักษณ์เหมือนข่าวลือ เพียงแต่เขาไม่คิดว่าแท้จริงแล้วกู้ชูหน่วนหน้าตางดงามมากเช่นนี้
ทุกคนที่นี่ต่างตกตะลึง และไม่อาจละสายตาได้ ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนกว่าที่ทุกคนจะเริ่มรู้สึกตัว
“โอ้สวรรค์ ใครบอกว่าคุณหนูสามของจวนอัครเสนาบดีเป็นหญิงอัปลักษณ์ ที่แท้ก็พูดจาเหลวไหล หากข้ารู้ว่านางงดงามมากเช่นนี้ ข้าก็คงจะไปเข้าแถว เพื่อทำการสู่ขอที่หน้าจวนอัครเสนาบดีทั้งคืน”
“ไม่ใช่เช่นนั้น นี่เหมือนเทพธิดาลงมาจุติ งดงามยิ่งนัก หญิงงามอันดับหนึ่งในรัฐเยี่ยก็ยังไม่งามเท่ากับนาง”
“หญิงงามอันดับหนึ่งในรัฐเยี่ยไม่ใช่กู้ชูอวิ๋นหรือ?ก่อนหน้านี้ก็คิดว่านางงดงามมากจริง ๆ แต่ในตอนนี้หากยืนอยู่กับพระชายาหานแล้ว คงทิ้งห่างไปมากกว่าสิบแปดถนน”
“เป็นข้าเองที่โง่มากเกินไป คิดว่าผู้ที่สวมผ้าคลุมหน้าเป็นเพราะหน้าตาอัปลักษณ์ แต่ไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วผู้ที่สวมผ้าคลุมหน้านั้น เป็นเพราะหน้าตางดงามเกินไป และเป็นเรื่องน่าขันที่ก่อนหน้านี้ข้าเคยหัวเราะเยาะนาง ช่างน่าอับอายยิ่งนัก”
“เป็นเพราะนางหน้าตาอัปลักษณ์ เจ๋ออ๋องจึงพยายามที่จะถอนหมั้น หากเขารู้ว่าพระชายาหานหน้าตางดงามมากเช่นนี้ ไม่รู้ว่าเขาจะโกรธมากหรือไม่”
นัยน์ตาที่เฉียบคมของเยี่ยจิ่งหานจ้องมองไปที่ร่างของกู้ชูหน่วน และแทบอยากจะเก็บนางเข้าไปไว้ในของเขา
หญิงผู้นี้……
มีรูปลักษณ์หน้าตาที่งดงามจนไม่มีใครเทียบได้เช่นนี้ ที่แท้ก็โกหกนาง
“พี่หญิง ท่านเคยบอกว่าจะรับผิดชอบข้า แล้วจะแต่งงานกับชายที่ขาพิการผู้นั้นได้อย่างไร ” เสียงปีศาจดังขึ้นมาอย่างชัดเจน และทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะตื่นตระหนก