แขกในงานสังเกตว่ามีบางอย่างผิดปกติ พวกเขาพากันออกห่างจากห้องโถงใหญ่เพราะกลัวว่าถ้าเทพแห่งสงครามกับจอมมารต่อสู้กัน พวกเขาจะโชคร้ายโดนลูกหลง
แต่ถึงกระนั้นก็ไม่อยากพลาดการต่อสู้ครั้งใหญ่นี้ ดังนั้นแต่ละคนจึงไปซ่อนตัวและแอบมองจากข้างนอก
กู้ชูหน่วนหาวอย่างเบื่อหน่าย
“ชิวเอ๋อร์ พาข้าไปนอนที่ห้องหน่อยสิ”
“เอ่อ…คุณหนู ท่านอ๋องกับจอมมารกำลังจะสู้กันนะเจ้าคะ” เวลาแบบนี้คุณหนูจะหลับลงได้อย่างไร
ได้ยินว่าจอมมารเป็นผู้ที่ชั่วร้ายมาก เล่นชู้ ลามกเสเพล เป็นคนชั่วที่ชอบปล้นชิงผู้อื่น
กู้ชูหน่วนง่วงจนลืมตาไม่ขึ้น นางคร้านที่จะสนใจว่าพวกเขาจะต่อสู้กันอย่างไร ไม่สนด้วยว่าคนอื่นจะคิดอย่างไรกับนาง นางแค่อยากจะนอนหลับเท่านั้น
เมื่อเห็นว่าชิวเอ๋อร์ไม่นำทางไปเสียที กู้ชูหน่วนจึงกลับไปที่ห้องเองเสียเลย นางปิดประตูเสียงดังและนอนไปทั้งชุดอย่างนั้น
ชิวเอ๋อร์เปิดปิดประตูห้องอย่างเบามือ ตอนแรกนางคิดว่าคุณหนูของนางไม่มีความสุขเพราะถูกล่มงานแต่ง แต่ไม่คิดว่าผ่านไปเพียงครู่เดียว กู้ชูหน่วนจะหลับสนิทจนได้ยินเสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอ
“คุณหนู ท่านจะไม่สนใจเลยหรือ ข้างนอกกำลังวุ่นวายกันใหญ่เลยนะเจ้าคะ”
“โวยวายอะไรนักหนา ข้าไม่ได้นอนหลับสบายๆ มาหลายวันแล้วนะ” กู้ชูหน่วนปัดมือของชิวเอ๋อร์ออกไปโดยไม่แม้แต่จะลืมตา
ตั่งเตียงสั่นไหวราวกับเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวใกล้ๆ ข้าวของภายในห้องสั่นโคลงเคลงไม่หยุด นอกจากนี้ที่ด้านนอกยังมีเสียงตูมตามดังขึ้นมาไม่ขาดสาย ท้องฟ้าที่เคยสว่างไสวเปลี่ยนแปลงไปอย่างฉับพลัน เมฆดำปลุกคลุมหนาแน่นและตามมาติดๆ ด้วยเสียงฟ้าร้องกับฟ้าแลบ ชิวเอ๋อร์เห็นดังนั้นก็ตกใจจนตัวสั่น
เทพแห่งสงครามกับจอมมารต่อสู้กันแล้วจริงๆ
ไม่รู้ว่าพวกเขาต่อสู้กันอย่างไร จวนหานอ๋องทั้งจวนจึงสั่นสะเทือนไม่หยุดเช่นนี้
“คุณหนู เหตุการณ์ข้างนอกรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ แล้วนะเจ้าคะ คุณหนูจะไม่ไปดูหน่อยหรือ”
“คุณหนู อย่าหลับสิเจ้าคะ ฟ้าจะถล่มอยู่แล้ว คุณหนู…”
ชิวเอ๋อร์ไม่รู้จะทำอย่างไรและทำได้เพียงเขย่าตัวกู้ชูหน่วน
กู้ชูหน่วนไม่ได้ถูกรบกวนโดยคนข้างนอก แต่นางถูกชิวเอ๋อร์รบกวนจนปวดกะโหลก นางลุกขึ้นนั่งพรวดพราดและเอ่ยอย่างไม่พอใจ “สองคนนั่น คนหนึ่งคือเทพแห่งสงคราม คนหนึ่งคือจอมมาร แล้วข้าเป็นอะไร? ถ้าข้าออกไปจะทำอะไรพวกเขาได้”
“แต่ว่า…”
“อีกอย่างนะ ต่อให้ฟ้าถล่มลงมาก็ยังมีหลังคาอยู่ เจ้าก็ตื่นตระหนกไปได้ ห้ามรบกวนข้าอีก ถ้าทำอีกละก็ข้าจะเอาเจ้าไปขายทิ้งเสียเลย”
ชิวเอ๋อร์สำลักคำพูดที่ติดอยู่ในลำคอ นางยังพูดไม่ทันจบ คุณหนูของนางก็ผล็อยหลับไปอีกครั้ง
เมื่อเห็นต้นไม้ใหญ่อายุนับพันปีในจวนหานอ๋องถูกระเบิดปลิวไปทีละต้นนางก็ยิ่งตื่นตระหนก ทว่าไม่รู้ว่าชิวเอ๋อร์ไปเอาความกล้ามาจากไหน นางเปิดประตูห้องออกไป ทันทีที่เปิดประตูไปแล้วนางจึงเห็นว่าบนท้องฟ้ามีหงส์ฟ้าสีดำตัวหนึ่งกำลังต่อสู้อยู่กับดอกลำโพงที่กำลังบานสะพรั่ง ซึ่งต้นเหตุที่ทำให้ท้องฟ้าเปลี่ยนสีก็เพราะพวกนั้นนั่นเอง
ฟ้าร้องเสียงดังเปรี้ยงปร้าง เมฆดำก่อตัวเป็นกระแสพายุหมุนที่ปะทะเข้าหากันไม่หยุด ความเร็วที่ก่อตัวขึ้นมามีพลานุภาพรุนแรงจนคนจำนวนไม่น้อยถูกดูดเข้าไป
ใบหน้าของชิวเอ๋อร์ซีดเผือด ไม่รู้ว่าคนที่ถูกดูดเข้าไปจะยังมีชีวิตรอดอยู่หรือไม่
นางหันไปมองกู้ชูหน่วนที่กำลังหลับสนิท จากนั้นจึงหันกลับไปมองการต่อสู้ที่ดุเดือดระหว่างหงส์ฟ้ากับดอกลำโพงอีกครั้งก่อนจะขบฟันแน่น
เมื่อครู่ตอนที่กำลังวุ่นๆ นางทำผ้าคลุมหน้าสีแดงหายไป คุณหนูก็ไม่สนใจไยดีอะไรเลย ไม่รู้ว่าการที่ท่านอ๋องไม่เปิดผ้าคลุมหน้าด้วยตนเองนั้นหมายความว่าอย่างไร ดังนั้นนางจึงต้องช่วยคุณหนูหาผ้าคลุมหน้าให้พบ
เมื่อคิดได้ดังนั้นนางจึงปิดประตูห้องและจากไปอย่างกล้าหาญ
หลังจากชิวเอ๋อร์ออกไปได้ไม่นาน ไม้กระดานใต้เตียงของกู้ชูหน่วนก็ถูกงัดออก จากนั้นศีรษะของใครคนหนึ่งก็โผล่ออกมา
เซี่ยวอวี่เซวียนออกมาจากเส้นทางลับใต้เตียง เขากวาดตามองกู้ชูหน่วนที่กำลังหลับสนิท ทันใดนั้นก็รู้สึกพูดไม่ออกบอกไม่ถูก จะหัวเราะก็ไม่ใช่จะร้องไห้ก็ไม่เชิง
นางก็เหลือเกิน ข้างนอกกำลังต่อสู้กันจนท้องฟ้ามืดมัว แต่ตัวเองกลับมานอนหลับสนิทเป็นหมูตายอยู่ที่นี่