ในห้องส่วนตัวบนชั้นสองหน้าตาเจ๋ออ๋องราวกับท้องผูก
วรยุมธ์ของเขาไม่ถือว่าดีนักแต่ก็เข้าสู่ขั้นที่หนึ่งสิ่งที่ขาดคือยาล้างไขกระดูกเม็ดหนึ่งที่สามารถเพิ่มพูนกำลังในกายให้สูง หญ้าจื่อเยียนนั้นเขาจะต้องได้มาให้จงได้เนื่องจากเขาต้องการอยู่เหนือเทพแห่งสงคราม
แต่ในตอนนี้……
มีคนแย่งชิงหญ้าจื่อเยียนกับเขาและฝ่ายตรงข้ามก็ยังเป็นกู้ชูหน่วนด้วย
ดวงตาริษยาคู่นั้นของเจ๋ออ๋องจับจ้องไปที่เยี่ยจิ่งหานข้างๆกู้ชูหน่วนซึ่งเต็มไปด้วยความรู้สึกโกรธ
ในห้องส่วนตัวอีกห้องหนึ่งบนชั้นสอง องค์หญิงตังตังทรงโมโหอยู่
เหตุใดถึงเป็นกู้ชูหน่วนอีก หญิงผู้นี้มีวิชาแยกร่างหรือ? ไปถึงที่ใดก็สามารถพบเห็นนางได้
เนื่องจากเปิดผ้าคลุมของนางนางนั้นถูกเสด็จอาลงโทษอย่างรุนแรง แม้แต่สำนักศึกษาวังหลวงก็ถูกขับไล่ออกมา
นางผู้เป็นองค์หญิงองค์หนึ่งแต่ถูกตะเพิดออกจากสำนักศึกษาวังหลวงซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวติศาสตร์ ขายหน้าไปทั้งใบหน้าหมดแล้ว
สาวใช้ขององค์หญิงตังตังเสี่ยวลี่ว์กล่าวว่า “องค์หญิง กู้ชูหน่วนงี่เง่าผู้นั้นก็ไม่มีวรยุทธ์ นางลงมือแย่งชิงหญ้าจื่อเยียนแสดงว่าต้องรู้ว่าพระองค์กำลังรีบเร่งเพิ่มพูนกำลังในกายให้สูง พวกเราต้องไม่ปล่อยให้นางทำได้สำเร็จ”
“เช่นนั้นไม่ใช่เรื่องไร้สาระหรือ นางรู้ว่าวรยุทธ์นั้นสู้ข้าไม่ได้ดังนั้นจึงต้องการกดข้าเอาไว้อีกครั้ง”
ขณะที่องค์หญิงตังตังกล่าวเช่นนี้นางก็รู้สึกผิดเล็กน้อย
กู้ชูหน่วนไม่มีวรยุทธ์นางก็ไม่มีวรยุทธ์ แต่เมื่อทั้งสองคนที่ไม่มีวรยุทธ์มาอยู่ด้วยกันนางก็จะถูกทุบตีอยู่เสมอ
คราวนี้ไม่ว่าอย่างไรนางก็จะต้องประมูลหญ้าจื่อเยียนให้ได้เพื่อปรุงเม็ดยาล้างไขกระดูกเปิดจุดเส้นชีพจรออกและฝึกฝนวรยุทธ์ให้ดี เพื่อต่อไปภายหน้าจะได้เอาชนะกู้ชูหน่วนและได้คลายลมหายใจอันโหดร้ายออกมาอย่างดุดัน
เสนาบดีกู้ยกป้ายเสนอราคา “หนึ่งหมื่นหกพันตำลึง”
เจ๋ออ๋องกล่าวอย่างเย็นชา “สองหมื่นตำลึง”
องค์หญิงตังตังตกพระทัย
เหตุใดเสด็จพี่เจ๋อก็มาด้วย? อีกทั้งยังเล็งหญ้าจื่อเยียนไว้อีกด้วย?
หรือว่าเขาก็ต้องการทะลวง?
องค์หญิงตังตังกำลังคิดที่จะเสนอราคา คาดไม่ถึงกู้ชูหน่วนกล่าวด้วยน้ำเสียงอันเยือกเย็นประโยคหนึ่งว่า “หนึ่งแสนตำลึง”
พรึ่บ……
ร่างองค์หญิงตังตังเกือบจะบิดเบี้ยวไปเสียแล้ว
หนึ่งแสนตำลึง?
กู้ชูหน่วนบ้าไปแล้วหรือ?
หญ้าจื่อเยียนเม็ดหนึ่งเปิดราคาอยู่ที่เงินหนึ่งแสนตำลึงซึ่งเป็นราคาสูงเสียดฟ้า?
ไม่เพียงแต่องค์หญิงตังตังเท่านั้นที่ตกใจ ทุกๆคนต่างมองไปยังกู้ชูหน่วนบนที่นั่งธรรมดาด้วยความตกใจ
“หญิงผู้นี้เป็นมาเช่นไร เหตุใดถึงได้ลงมือได้กล้าหาญชาญชัยเช่นนี้?”
“ผู้ใดจะรู้ได้ หากมิใช่ว่าในครอบครัวร่ำรวยเกินไปก็คือในสมองมีรูโบ๋ หญ้าจื่อเยียนเม็ดหนึ่งเสนอราคาถึงหนึ่งแสนตำลึง จุ๊จุ๊จุ๊ ยังไม่รู้ว่าจะสามารถปรุงยาล้างไขกระดูกออกมาได้หรือไม่ แม้ว่าจะเป็นเม็ดยาล้างไขกระดูกก็ไม่ต้องจ่ายถึงหนึ่งแสนตำลึง”
“ก็มิใช่หรือ ช่างเถอะ หญ้าจื่อเยียนนี้ราคาแพงเกินไป ข้าไม่ได้มีเงินให้ฟุมเฟือยเช่นนั้น”
เยี่ยจิ่งหานดื่มชาอย่างสง่างามโดยที่ใบหน้าไร้ความยินดีหรือเศร้าโศก ซึ่งดูไม่ออกว่าอารมณ์เช่นไร
ชิงเฟิงเตือนว่า “พระชายา พวกเราเสนอราคาเพิ่มขึ้นไม่จำเป็นต้องขึ้นมากเช่นนี้ในคราวเดียว”
“เงินมากมายหาซื้อความพึงพอใจของข้าได้ยากยิ่ง”
กู้ชูหน่วนเป่าปากพร้อมเหลือบมองไปยังคู่พ่อลูกเสนาบดีกู้รวมถึงห้องส่วนตัวหลายห้องชั้นบนด้วยรอยยิ้มตรงมุมปาก
“……”
ชิงเฟิงหุบปากอย่างชาญฉลาด
สีหน้าของกู้ชูอวิ๋นดูไม่ได้และกล่าวด้วยความรู้สึกเสียใจว่า “ท่านพ่อ……”
สีหน้าของเสนาบดีกู้ยิ่งดูไม่ได้
เขาไม่ต้องการประมูลหญ้าจื่อเยียนมาที่ใดกัน แต่ว่าเงินหนึ่งแสนตำลึงไม่เพียงแค่สามารถซื้อยาล้างไขกระดูกเม็ดหนึ่งได้ ซึ่งนี่ไม่คุ้มค่าเลยจริงๆ
เขากล่าวเบาๆว่า “นี่เพียงแค่เริ่มต้น ของดียังรออยู่ด้านหลัง ครู่หนึ่งหากว่าเข้าตาเจ้าพ่อค่อยประมูลมาให้เจ้า”
แม้ว่ากู้ชูอวิ๋นจะไม่พึงพอใจแต่ก็กล่าวสิ่งใดไม่ได้เช่นไรนางก็ไม่มีเงินส่วนตัวมากนัก ต้องการประมูลสิ่งใดก็ยังต้องให้ท่านพ่อของนางประมูลให้กับนาง
เจ๋ออ๋องยกป้ายขึ้นและต้องการเพิ่มราคา ผู้คอยปรนนิบัติตัวน้อยข้ากายกล่าวอย่างร้อนรนว่า “ท่านอ๋องเงินจำนวนหนึ่งแสนตำลึงนั้นช่างแพงเกินไปนัก ช่วงก่อนหน้านี้ในการชุมนุมวิชาการพวกเราเสียเงินให้กับพระชายาหานมากไปตอนนี้ยังอยู่ในช่วงเป็นหนี้ค้างอยู่ ไม่งั้นพวกเราไม่เอาหญ้าจื่อเยียนแล้วเม็ดยาที่สามารถเพิ่มพูนพละกำลังในกายด้านหลังต้องยังคงมีอีกเป็นแน่”