“ทำตัวเองแท้ๆ” เยี่ยจิ่งหานเป่าถ้วยน้ำชาในมือโดยไม่เงยหน้าขึ้นมองและเมินเฉยต่อแววตาอันน่าสงสารของนาง
ชิงเฟิงได้แต่สวดมนต์ภาวนาขึ้นในใจ
นายท่านจะต้องอดทนยืนหยัดต่อไปให้ได้
ไม่เช่นนั้นหากปล่อยตามนิสัยของพระชายาที่ใช้เงินเกินตัวเช่นนี้ละก็ เกรงว่าทรัพย์สินที่จวนท่านอ๋องสะสมมาตลอดหลายปีจะสูญสิ้นไปในคราวเดียว
กู้ชูหน่วนเอามือเท้าคางและพูดตรงไปตรงมา “ข้าไม่มีเงิน”
“จัดการด้วยตัวเอง”
“ข้าเป็นเพียงผู้หญิงอ่อนแอคนหนึ่ง สถานการณ์เช่นนี้คนเยอะมากเกินไป ข้าไม่สามารถจัดการได้”
ครั้งนี้เยี่ยจิ่งหานแทบไม่อยากจะตอบนางกลับไปและไม่ต้องพูดถึงเรื่องแววตาที่มองดูนาง
กู้ชูหน่วนกะพริบตา
เยี่ยจิ่งหานไม่ได้จัดการง่ายเหมือนองค์หญิงตังตังและพระพันปี ท่าทีที่ไม่สะทกสะท้านของเขานั้นดูไม่เกรงกลัวเลยว่าชื่อเสียงและเกียรติของเขาจะถูกทำลายโดยผู้หญิงคนนี้
“เรียนเชิญแขกผู้มีเกียรติหมายเลขยี่สิบแปดไปที่หลังเวทีเพื่อชำระเงินและรับไข่มุก” พิธีกรพูดขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
มีคนตะโกนออกมาท่ามกลางฝูงชน “หมายเลขยี่สิบแปด เจ้ามีความกล้าในการเพิ่มราคา แต่กลับไม่มีความกล้าในการชำระเงินอย่างนั้นหรือ? หอประมูลเฟิงเซียงไม่ใช่ที่ที่เจ้าอยากจะประมูลเท่าไรก็ประมูลได้ หากเจ้าไม่สามารถชำระเงินได้ เช่นนั้นอย่างน้อยก็ควรวางมัดจำสิ่งที่อยู่ในร่างกายของเจ้าเอาไว้หนึ่งอย่าง”
“คนคนนี้ดูไม่คุ้นเอาเสียเลย เกรงว่าคงจะมาที่หอประมูลเฟิงเซียงเป็นครั้งแรกอย่างแน่นอน”
“ไม่มีเงินก็อย่ายกมือประมูล เสียเวลาของข้า”
อัครเสนาบดีกู้ ท่านเจ๋ออ๋อง องค์หญิงตังตังและคนอื่นๆ ต่างพากันถอนหายใจ ต้องการให้กู้ชูหน่วนไม่มีเงินจ่าย ้หากเป็นเช่นนี้ การประมูลก็จะได้เริ่มต้นขึ้นใหม่อีกครั้ง
เมื่อต้องเผชิญกับการบีบบังคับของทุกคน กู้ชูหน่วนชี้ไปยังเยี่ยจิ่งหาน “สามีของข้ามีเงิน เขาจะไปจ่าย”
“เช่นนั้นก็รีบจ่ายเถอะ เวลาของทุกคนต่างก็มีค่า”
“สามี เราเพิ่งจะแต่งงานกันได้ไม่กี่วัน หลังจากการแต่งงานท่านก็ยังไม่ได้มอบอะไรให้กับข้า ไข่มุกเหวินหยวนนี่คงไม่มากเกินไปใช่หรือไม่? ถึงอย่างไรเสียข้าก็ได้มอบตัวข้าเองให้กับท่านแล้ว”
หัวใจของเยี่ยจิ่งหานเต้นแรงมาก
ทำไมเขาถึงได้ตกหลุมพรางของนางเสียทุกครั้งไป ทั้งที่รู้อยู่เต็มอกว่านางแสร้งทำขึ้นมา?
ชิงเฟิงร้อนรนเล็กน้อยและกระซิบเบาๆ “นายท่าน ครั้งนี้ห้าสิบล้านตำลึง ไม่แน่ครั้งหน้าอาจจะเป็นหกสิบล้านตำลึงก็เป็นได้นะพ่ะย่ะค่ะ”
ความหมายของเขาคือ หากครั้งนี้ยอมใจอ่อน ครั้งหน้าพระชายาจะต้องทำตามอำเภอใจมากกว่าเดิมอย่างแน่นอน
กู้ชูหน่วนกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ชิงเฟิง ในฐานะที่เจ้าเป็นทหารอารักขาประจำกาย โดยปกติก็ควรคาดหวังว่านายท่านทั้งสองจะรักใคร่กลมกลืนกัน แต่เจ้ากลับยุยงให้เกิดความแตกแยก เจ้าต้องการอะไร? หรือมีใครคอยบงการให้เจ้าทำเช่นนี้?”
ชิงเฟิงรู้สึกเบื่อหน่ายไร้คำพูด
พระชายาไม่มีศิลปะการต่อสู้ไม่ใช่หรือ?
แต่ทำไมการได้ยินถึงดีมากเช่นนี้?
เขาอุตส่าห์พูดกระซิบด้วยเสียงแผ่วเบาแล้ว แต่พระชายาก็ยังได้ยิน?
“ข้าน้อยไม่ได้คิดเช่นนั้น ข้าน้อยเพียงแค่……”
“ยินดีกับหมายเลขยี่สิบแปดที่ได้ไข่มุกเหวินหยวนไปครอบครอง ปรบมือให้นางด้วย”
กู้ชูหน่วนตกตะลึง
ชิงเฟิงก็ตกตะลึงเช่นเดียวกัน
แววตาที่เย็นยะเยือกดูอันตรายส่องประกายในดวงตาของเยี่ยจิ่งหาน
องค์หญิงตังตังตะโกนขึ้นมาด้วยความโกรธ “นางยังไม่ได้ไปจ่ายเงิน พวกเจ้ามอบไข่มุกเหวินหยวนให้กับนางไปได้อย่างไรกัน?”
“ใช่ เห็นได้ชัดว่าผู้หญิงคนนี้ไม่มีเงินไปจ่าย”
เสี่ยวลู่ยิ้มขึ้นอย่างสง่างามและดูเหมือนไม่พอใจเล็กน้อยกับน้ำเสียงที่ดูถูกของพวกเขา
“หมายเลขยี่สิบแปดมีเพื่อนมีเพื่อนมากมายเต็มไปหมด ตอนนี้ได้มีคนมาจ่ายเงินแทนนางแล้ว”
“อะไรนะ นี่เป็นเงินถึงห้าสิบล้านตำลึงเลยนะ? ใครกันช่างเป็นคนมีน้ำใจและใจกว้างเช่นนี้ มอบเงินก็มอบถึงห้าสิบล้านตำลึงเลยหรือ?”
“เรื่องนี้น่ะหรือ เป็นความลับ หอประมูลเฟิงเซียงไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลของผู้ประมูลได้”
ท่านเจ๋ออ๋องขมวดคิ้ว
ผู้หญิงคนนี้ทำอะไรลงไปนะ ใครจะมอบเงินห้าสิบล้านตำลึงให้นางโดยไม่มีเหตุผลเช่นนี้ได้
กู้ชูหน่วนเคาะโต๊ะและครุ่นคิดว่าใครกันนะที่จ่ายเงินแทนนาง
ในหัวของนางคิดวกไปวนมาหลายรอบ แต่ก็นึกไม่ออกว่าเป็นใคร
เซี่ยวอวี่เซวียน?