กู้ชูหน่วนตะลึง
มอบยาชะลอวัยให้นางทำไมกัน?
นางไม่ได้ต้องการยาชะลอวัย?
เมื่อมองดูในแววตาราวกับน้ำค้างอันเย็นยะเยือกของเยี่ยจิ่งหาน ซึ่งดูราวกับว่าจะปรากฏรอยยิ้มเล็กน้อยปะปนอยู่ด้วย
กู้ชูหน่วนเกือบจะคิดว่านางดูผิดเสียแล้ว
“มอบให้ข้า?” นางถามด้วยความงุนงง
“อืม ให้เจ้า หากเจ้าไม่ชอบก็โยนทิ้งไป”
ทุกคนในงานประมูลต่างตกตะลึงจังงังกัน
โยนทิ้งไป?
นั่นเป็นเงินหนึ่งร้อยล้านตำลึงถ้วนเลยนะ
ร้อยล้านตำลึงในใจของพวกเขาสามีภรรยาหรือว่าจะเป็นเพียงแค่หนึ่งตำลึงเท่านั้น?
เหล่าหญิงสูงศักดิ์แต่ละคนในงานประมูลปิดปากกันและมองดูพวกเขาด้วยความอิจฉา
“ดูสิว่าสามีภรรยารักใคร่กันมากเพียงใด ชายหนุ่มผู้นั้นเพื่อรอยยิ้มหนึ่งของภรรยาถึงกับทุ่มเงินหนึ่งร้อยล้านตำลึง ข้าอิจฉาแทบตายแล้ว”
“ก็มิใช่หรอกหรือ ผู้นั้นในเรือนข้าช่างตระหนี่ยิ่งนัก ไม่ต้องกล่าวถึงหนึ่งร้อยล้านตำลึงต่อให้สิบตำลึงเขาก็จะถือสากับข้า แต่งงานกันมาหลายปีเช่นนี้แล้วก็ไม่เคยมอบสิ่งใดให้แก่ข้าเลย”
“ไม่มีการเปรียบเทียบก็ไม่เกิดการทำร้าย”
“พระเจ้า หากว่าข้าเป็นหญิงผู้นั้นข้าคงจะปลื้มใจตายเป็นแน่”
“แต่ดูหญิงผู้นั้นบนใบหน้านั้นราวกับว่าไม่มีความสุขเลยแม้แต่น้อย? เป็นไปได้ไหมว่านางตื่นเต้นเกินไปดังนั้นจึงยืนโง่ไปเลยและกล่าวสิ่งใดไม่ออกเสียแล้ว?”
“ข้าว่าเป็นไปได้”
กู้ชูหน่วนยิ้มที่มุมปาก
นางก็ไม่ได้ชอบยาชะลอวัยแล้วจะมีท่าทางมีความสุขอันใดได้
เยี่ยจิ่งหานมอบเงินหนึ่งร้อยล้านตำลึงให้กับนางจะเป็นการดีกว่า
หากว่ามอบให้นางนางคงจะมีความสุขยิ่งกว่านี้
เมื่อคิดเช่นนี้กู้ชูหน่วนก็ลังเลแล้วกล่าวขึ้นว่า “มิเช่นนั้นท่านแปลงยาชะลอวัยเป็นเงินมามอบให้กับข้า”
“……”
รอยยิ้มของเยี่ยจิ่งหานแข็งทื่อไปซะแล้ว
ชิงเฟิงตกตะลึง
ทุกคนในงานประมูลก็ตกตะลึงตามกันซึ่งคิดว่าตนเองได้ยินผิดไป
เมื่อเห็นแววตาประหลาดใจเช่นนั้นของทุกๆคนกู้ชูหน่วนก็เก็บยาชะลอวัยเอาไว้ในอ้อมอกแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มเขินอาย “ขอบคุณ”
เก็บเอาไว้ก่อนถึงเวลาค่อยขายต่อในราคาอันดี
ประมูลขายในตอนนี้เยี่ยจิ่งหานจะไม่ฆ่านางเลยหรือ
แม้ว่าต้องการแลกเป็นเงินแต่กู้ชูหน่วนก็ปลาบปลื้มใจอยู่บ้าง
ไม่ว่าเยี่ยจิ่งหานจะมอบจู้เยี่ยนให้กับนางด้วยเหตุผลใดก็เป็นน้ำใจจากเขา
กู้ชูหน่วนกำเอาไว้ในมือแน่นเป็นก้อนกลม
ความอิจฉาริษยาต่อกู้ชูหน่วนก็ได้เพิ่มขึ้นไปอีก
เสี่ยวลู่ยิ้มอย่างมีเสน่ห์ “แขกผู้มีเกียรติหมายเลขยี่สิบแปดได้แต่งงานกับสามีผู้แสนดีจริงๆ ทำให้ข้านั้นรู้สึกอิจฉายิ่งนัก”
กู้ชูหน่วนยิ้มอย่างเขินอายจากนั้นยกไปหัวข้อหนึ่ง “สิ่งของประมูลชิ้นต่อไปไม่รู้ว่าคือสิ่งใด”
“ของชิ้นต่อไปคือแผนที่ สถานที่ที่อยู่ในแผนที่นี้ไม่ได้ตั้งอยู่ในรัฐเยี่ยและไม่ได้อยู่ในบ้านเมืองใดในใต้หล้า มันเป็นแผนที่โบราณหรือบางทีสถานที่ในแผนที่อาจจะหายไปจากผืนฟ้านี้ไปแล้ว”
“เพียงแต่ว่า….อาจเนื่องจากพวกเราหอประมูลเฟิงเซียงมีความรู้แค่งูๆปลาๆหรือว่าไม่ได้ค้นหาได้อย่างราบรื่นจึงหาสถานที่ในแผนที่ไม่พบ แผนที่เป็นม้วนตำราหนังแกะโบราณที่มีอายุหลายพันปี ด้านในม้วนไว้หลายชั้นนักซึ่งดูออกว่าเมื่อหลายพันปีก่อนหน้านี้ต้องเป็นสมบัติอันล้ำค่าเป็นแน่ เจ้าของของมันก็ยิ่งเห็นมันเป็นสิ่งของล้ำค่า สำหรับม้วนหนังแกะโบราณนั้นผ่านลมพายุฝนมาหลายพันปีก็ยังสมบูรณ์ไม่ถูกทำลาย”
ด้านหนึ่งเสี่ยวลู่กำลังกล่าวอยู่ อีกด้านหนึ่งก็มีคนนำม้วนหนังแกะโบราณออกมาแสดง
กู้ชูหน่วนแรกเห็นม้วนหนังแกะโบราณก็ถูกดึงดูดเสียแล้ว รวมทั้งชิ้นส่วนเล็กน้อยของแผนที่ที่เผยออกให้เห็นในม้วนโบราณ
เครื่องหมายบนแผนที่นี้กลับเป็นตัวอักษรภาษาอังกฤษ
หลายพันปีที่แล้วมีภาษาอังกฤษหรือ?
เมื่อมองดูยังหนังแกะนั่นอีก อายุเก่าแก่กว่าตำรากลั่นยาที่นางประมูลไว้เสียอีก วัสดุก็ยังดีกว่าด้วย
สัญชาตญาณแรกบอกนางว่าแผนที่นี้ไม่ได้ง่ายดายเช่นนั้น บางทีสามารถประมูลมาเพื่อลองศึกษาดูได้
กู้ชูหน่วนรู้สึกสนใจแต่ทุกคนกลับไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย
ม้วนหนังแกะโบราณแผ่นหนึ่งที่ไม่รู้ว่าคือสิ่งใด แม้ว่าจะเป็นสิ่งของล้ำเลิศในสมัยโบราณ นี่ผ่านไปเป็นเวลานานกี่ปีแล้ว ไม่ว่าสิ่งของจะล้ำเลิศมากเพียงใดจะยังคงเหลือสิ่งใดไว้อยู่อีกหรือ?