มือที่กำลังถือถ้วยชาของซั่งกวนฉู่สั่นเล็กน้อย มีแววแห่งความประหลาดใจฉายวาบอยู่ในดวงตาคู่นั้น ทว่าเพียงครู่เดียวก็หายวับไปอย่างไร้ร่องรอย
อี้เฉินเฟยเกือบจะพ่นน้ำออกจากปาก
แม่สาวน้อยผู้นี้ ถึงแม้ตำรากลั่นยาจะมีความสำคัญมาก แต่มันคุ้มแล้วหรือที่จะเสียเงินถึงหนึ่งร้อยห้าสิบล้านตำลึงเพื่อแย่งชิงมา
หรือนางรู้ว่าเขาจะจ่ายเงินแทน นางจึงเสนอราคาไปเรื่อยเช่นนี้
“คุณชายอี้ พวกเรา… ยังต้องจ่ายเงินแทนนางหรือไม่ขอรับ” ผู้คอยปรนนิบัติข้างกายอี้เฉินเฟยตัวสั่นไม่หยุด ขนาดตอนที่พูดฟันก็ยังสั่นกึกๆ
อี้เฉินเฟยใช้นิ้วที่เรียวยาวเคาะลงบนโต๊ะ แววตาที่อ่อนโยนและอบอุ่นของเขาแฝงไปด้วยความลุ่มลึกบางอย่าง ลึกเหมือนหลุมที่ถมไม่เต็ม ไม่ว่าใครก็ดูไม่ออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
“จ่าย ตราบใดที่เป็นความต้องการของนาง ไม่ว่าเท่าไรก็จ่าย”
“แต่ว่าหนึ่งร้อยห้าสิบล้านตำลึงนั้นมากเกินไป ถ้าการประมูลรอบต่อไปนางยังประมูลอยู่อีก พวกเรา…”
“ต่อให้ต้องสิ้นเนื้อประดาตัวก็ไม่เป็นไรถ้านางพอใจ”
“ขอรับ…”
ในห้องโถงของการประมูล ดวงตาที่เปล่งประกายของเสี่ยวลู่เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่มีมนต์ขลัง
“หมายเลขยี่สิบแปดเสนอราคาหนึ่งร้อยห้าสิบล้านตำลึง มีใครจะเสนอราคาต่อไปหรือไม่ ถ้าไม่ ตำรากลั่นยาอายุวัฒนะจะกลายเป็นของแขกผู้มีเกียรติหมายเลขยี่สิบแปดทันที”
พูดอะไรตลกๆ
ยังจะมีใครกล้าเสนอราคาอีก
ตำรากลั่นยาอายุวัฒนะเป็นม้วนตำราที่ยังไม่สมบูรณ์ นอกจากนี้ยังมีอายุมากกว่าสองพันปี ไม่ว่าตำรากลั่นยาเล่มนี้จะเยี่ยมยอดเพียงใด แต่หลังจากผ่านกาลเวลามาเนิ่นนาน บางทีสมุนไพรหลายๆ อย่างอาจจะสูญพันธุ์ไปแล้วก็ได้
อีกอย่าง ใครยืนยันได้บ้างว่าตำรากลั่นยาเล่มนี้จะดีสมคำร่ำลือ
ปรมาจารย์เฟิงอยากจะเสนอราคาเพิ่ม แต่เงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านตำลึงทำให้เขาลังเลมาก
เขามองกู้ชูหน่วนที่ตะโกนเสนอเงินจำนวนหนึ่งร้อยห้าสิบล้านตำลึง สีหน้าของนางมั่นคง สงบนิ่งและเยือกเย็น อีกทั้งนัยน์ตายังแฝงไปด้วยความเจ้าเล่ห์เหลี่ยมจัด
หากรับคนเช่นนี้มาเป็นศิษย์และถ่ายทอดวิชาการกลั่นยาให้ บางทีในภายภาคหน้านางอาจจะเก่งกาจยิ่งกว่าเขาผู้เป็นอาจารย์เสียอีก
เพื่อประโยชน์สูงสุด ปรมาจารย์เฟิงจึงยอมแพ้ “แม่นางอายุยังน้อยแต่กลับเด็ดเดี่ยวกล้าหาญเช่นนี้ ช่างน่าเลื่อมใสยิ่งนัก ตำรากลั่นยาอายุวัฒนะเล่มนี้ข้าขอไม่แย่งชิงกับแม่นางอีกแล้ว”
“ท่านผู้เฒ่า บางครั้งคนเราต้องมองให้ไกลขึ้นอีกหน่อย การยึดติดอยู่กับปัจจุบันมีแต่จะหยุดยั้งตัวเองไม่ให้ก้าวไปข้างหน้า”
ทุกคนฟังแล้วรู้สึกแปลกๆ
ทว่าปรมาจารย์เฟิงกลับชะงักเล็กน้อย
หรือว่าแม่นางน้อยผู้นี้ต้องการจะสื่ออะไรบางอย่าง
ทักษะการกลั่นยาของเขาหยุดนิ่งอยู่ที่ขั้นสูงสุดระดับสองมานานหลายปีและหาทางพัฒนาให้พ้นไปจากนี้ไม่ได้ เป็นไปได้หรือไม่ว่าเขาจะยึดติดอยู่กับปัจจุบันมากไป สายตาของเขาจึงไม่กว้างไกลพอ
ปรมาจารย์เฟิงหันไปพยักหน้าให้นางเล็กน้อยพร้อมกับรอยยิ้มที่มุมปาก “ข้าได้รับการสั่งสอนแล้ว ขอบคุณแม่นางน้อยที่ชี้แนะ”
ทุกคนพากันงุนงงอีกครั้ง
สั่งสอนอะไร?
ผู้หญิงคนนั้นอายุเพียงสิบเจ็ดสิบแปดปีเท่านั้น นางจะสอนอะไรปรมาจารย์เฟิงได้
“หนึ่งร้อยห้าสิบล้านตำลึงครั้งที่หนึ่ง หนึ่งร้อยห้าสิบล้านตำลึงครั้งที่สอง หนึ่งร้อยห้าสิบล้านตำลึงครั้งที่สาม ขอแสดงความยินดีกับหมายเลขยี่สิบแปดอีกครั้งที่ได้รับตำรากลั่นยาอายุวัฒนะในรอบนี้”
องค์หญิงตังตังเอ่ยอย่างดุดัน “ฮึ เจ้าคิดว่าเจ้าประมูลตำรากลั่นยาได้ ตำรากลั่นยาก็จะกลายเป็นของเจ้าเลยอย่างนั้นรึ ดูสิว่าเจ้าจะเอาเงินจากไหนมาจ่าย”
เสียงขององค์หญิงตังตังจะว่าดังก็ไม่ดัง จะว่าเบาก็ไม่เบา ทว่าทุกคนในหอประมูลต่างได้ยินกันหมด
“ข้าชอบตำรากลั่นยาเล่มนี้มาก และจะรู้สึกถึงความสำเร็จถ้าได้จ่ายเงินด้วยตัวเอง สำหรับคำถามจากแขกผู้มีเกียรติที่อยู่ชั้นบน ตอนนี้ข้าอารมณ์ดี ดังนั้นจึงจะตอบคำถามให้ เงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านตำลึงเป็นเงินที่ข้าได้รับจากการชนะมาก่อนหน้านี้ เพียงแค่คนเดียวข้าก็ชนะได้เงินมามากกว่าหนึ่งร้อยล้านตำลึง นอกจากนี้บุตรสาวของนางยังพ่ายแพ้ให้ข้าอีกนิดหน่อย พอสำหรับหนึ่งร้อยห้าสิบล้านตำลึงพอดี ถึงอย่างไรเงินก้อนนี้ก็เป็นเงินที่ข้าชนะมา
ประโยคเหล่านี้ทำให้องค์หญิงตังตังโกรธเกรี้ยวอย่างไม่ต้องสงสัย
เงินนี่คือเงินที่ได้มาจากนางกับเสด็จแม่ของนาง
กู้ชูหน่วนไม่เสียดาย แต่นางเสียดาย
“จ่ายเงิน”
กู้ชูหน่วนเปิดวงแหวนอวกาศ และเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านตำลึงก็ปรากฏขึ้นมาต่อหน้าทุกคน
คนที่กำลังรอดูความตื่นเต้นอ้าปากค้างทันที พวกเขาจ้องมองตั๋วเงินสีดำปึกใหญ่อย่างไม่เชื่อสายตา
นะๆๆๆ นี่มัน…
นางชนะและได้เงินจำนวนมากขนาดนี้มาจากใคร
เหตุใดจึงมีมากอย่างนี้
พระเจ้า นางอายุเท่าไรกันเชียว มันจะร่ำรวยเกินไปแล้ว
ชิงเฟิงปาดเหงื่อ
ยังดี…
โชคดีที่พระชายาไม่คิดจะขอเงินจากนายท่านอีก ไม่อย่างนั้นเงินหนึ่งร้อยห้าสิบล้านตำลึงนี่ ต่อให้เป็นนายท่านก็คงจะเข้าเนื้อเหมือนกัน