บทที่ 398
“ถ้าไม่มีข้าสักคน อย่าว่าแต่ขาทั้งสองข้างเลย แค่จะลุกขึ้นยืนท่านก็ทำไม่ได้”
นี่ไม่ใช่คำพูดที่รุนแรง แต่เป็นคำพูดที่หยามหน้าเขามาก
อุณหภูมิบนร่างกายของเยี่ยจิ่งหานลดฮวบ
เขากัดฟันและพูดว่า “เจ้าอยากจะลองดูอีกไหมล่ะ”
กู้ชูหน่วนหดคอหนี นางขยับถอยหลังเพื่อรักษาระยะห่างจากเขา
เยี่ยจิ่งหานยื่นแขนที่ยาวเหยียดไปรั้งนางเข้ามาไว้ในอ้อมกอด กู้ชูหน่วนดิ้นเหมือนปลาไหลเพื่อให้หลุดออกมาจากจุดนั้น
ทว่ามือของเยี่ยจิ่งหานดูเหมือนจะมีตา ไม่ว่านางจะหลบอย่างไรก็ยังถูกเขารั้งเอาไว้ในอ้อมแขน ดิ้นอย่างไรก็ดิ้นไม่หลุด
นี่คือช่องว่างของความแข็งแกร่ง
แม้ว่าเยี่ยจิ่งหานจะสูญเสียกำลังภายในไปเกือบทั้งหมด แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่ผู้มีทักษะการต่อสู้อยู่ในระดับสี่อย่างนางจะรับมือได้
ลมหายใจของเขาเป่ารดอยู่บนใบหน้าของนาง
ตรงหน้าของนางคือใบหน้าที่หล่อเหลางดงามไร้ที่ติของเยี่ยจิ่งหาน
กู้ชูหน่วนรู้สึกถึงลมหายใจที่กระชั้นถี่ขึ้นของเขา รู้สึกถึงหัวใจที่เต้นรัว มองดูนางด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน
ราวกับจะทำอะไรนาง ถ้านางเริ่มดิ้นรนอีกครั้ง
ดังนั้นกู้ชูหน่วนจึงผ่อนคลายอารมณ์และเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “ท่านอ๋อง ท่านหน้าแดงแล้ว”
เยี่ยจิ่งหานชักสีหน้า
ขณะที่กำลังจะขยับตัว กู้ชูหน่วนก็ชิงตัดหน้า ประทับจูบลงไปบนริมฝีปากบางของเขา
บึ้ม
เยี่ยจิ่งหานชะงักงันและรู้สึกว่าร่างกายแทบจะหยุดทำงาน มีความรู้สึกเหมือนถูกไฟดูดไปทั่วทั้งร่าง
เมื่อมองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าก็เห็นว่านางกำลังมองเขาอย่างหยอกเย้า
จะว่าเยี่ยจิ่งหานโกรธก็ไม่ใช่ ชอบก็ไม่เชิง โมโหหรือก็เปล่า เขาทำได้เพียงจ้องมองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าอย่างเหม่อลอย
กู้ชูหน่วนยิ้มและกล่าวว่า “ท่านอ๋อง อยู่รถบนม้าอย่างนี้ไม่สะดวกเลย เราหาที่ที่สบายกว่านี้ใช้เวลาด้วยกันดีไหมเพคะ เรื่องแบบนี้ต้องสร้างบรรยากาศกันหน่อย”
“…..”
คำพูดเหล่านี้ถ้าเป็นผู้ชายพูดคงไม่มีอะไรแปลก
แต่นางเป็นผู้หญิง
ตอนที่พูดประโยคเหล่านั้น ใบหน้าของนางไม่แดงและไม่มีการหายใจติดขัดเลยแม้แต่น้อย เยี่ยจิ่งหานอดสงสัยไม่ได้ว่านางเป็นผู้หญิงจริงๆ หรือเปล่า
“เจ้าต้องการรับผิดชอบในฐานะภรรยางั้นหรือ”
“ความรับผิดชอบของภรรยาอะไรกัน อย่างมากก็แค่คนรัก ท่านลืมไปแล้วหรือว่าเราเป็นสามีภรรยากันเพียงในนาม”
“เราเป็นทั้งในนามและเป็นตามพฤตินัย และตอนนี้ในครรภ์ของเจ้าก็มีเลือดเนื้อเชื้อไขของข้าอยู่”
กู้ชูหน่วนเกือบลืมไปแล้วว่าเยี่ยจิ่งหานยังไม่รู้เรื่องการตั้งครรภ์ปลอม ดูเหมือนนางจะต้องหาวิธี ‘แท้งลูก’ เสียแล้ว ไม่อย่างนั้นต่อไปคงมีปัญหาแน่
“เจ้าคิดจะเอาเด็กออก?” เยี่ยจิ่งหานไม่ได้ถาม แต่เขาแน่ใจ ดวงตาที่ลุ่มลึกคู่นั้นมองมาที่นางอย่างพินิจพิเคราะห์ ราวกับว่ามองความคิดของนางได้อย่างทะลุปรุโปร่ง
กู้ชูหน่วนปฏิเสธโดยไม่ต้องคิดเลยว่า “จะเป็นไปได้อย่างไร ท่านละก็คิดเป็นตุเป็นตะไปเรื่อย”
“งั้นหรือ”
แววตาของเขาคมกริบ กู้ชูหน่วนรู้สึกเหมือนถูกเขามองออกอย่างทะลุปรุโปร่งไปจนถึงจิตวิญญาณข้างใน
“กู้ชูหน่วน หรือว่าเจ้ายังคิดถึงซือม่อเฟย เยี่ยเฟิง อี้เฉินเฟย รวมถึงเซี่ยวอวี่เซวียนอยู่อีก”
กู้ชูหน่วนชะงัก “เรื่องนี้เกี่ยวอะไรกับพวกเขา”
คราวก่อนก็อธิบายไปชัดเจนแล้วไม่ใช่เหรอ
แล้วนี่จะมาหึงอะไรกันอีก
“เจ้าเป็นภรรยาของข้า” เยี่ยจิ่งหานเตือน
“ข้ารู้น่า หลังจากแก้พิษของท่านได้แล้ว เราจะยุติความสัมพันธ์กัน หรือไม่ก็คงเป็นสามีภรรยาในนามไปตลอดกาล”
“…..”
ทุกครั้งที่กู้ชูหน่วนพูดแบบนี้ ใบหน้าของเยี่ยจิ่งหานจะมืดมนลงทันที
ผู้หญิงคนนี้…
นางเห็นเขาเป็นอะไร
แล้วคิดว่าตัวเองเป็นอะไร
พรหมจรรย์ของผู้หญิงสำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด แต่นางกลับไม่ไยดีเลยสักนิด ราวกับว่าขอแค่นางมีความสุข นางจะอยู่กับใครก็ได้ทั้งนั้น