บทที่ 403
ทะเลโลหิต?
เหอะ….
คนโบราณเรีบกยกหินหนืดว่าทะเลโลหิต แต่มันกลับน่ากลัวยิ่งกว่า
“แบกลงไปในถัง”
กู้ชูหน่วนกำลังทำวัตถุดิบสมุนไพรไปพลาง กล่าวไปพลาง
ที่นี่สำหรับคนอื่น มันร้อนระอุมาก แต่สำหรับเยี่ยจิ่งหาน กลับไม่รู้สึกถึงอุณหภูมิที่ร้อนระอุ
หลังจากที่เยี่ยจิ่งหานเข้าไปในถัง อุณหภูมิในถังก็พลันเย็นยะเยือก
กู้ชูหน่วนโรยสมุนไพรจำนวนมากอยู่ในถัง นางตีเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ที่กำลังพัวพันอยู่บนข้อมือของนางเบา ๆ
เยี่ยจิ่งหานเบิกตากว้างมองกู้ชูหน่วนอย่างระแวดระวัง
“เจ้าคิดจะทำสิ่งใด?”
กู้ชูหน่วนกลอกตาไปมารอบหนึ่ง “เจ้าคิดว่าข้าจะทำสิ่งใดล่ะ?”
ที่นี่ร้อนระอุจนแทบจะคร่าชีวิต ไฉนเลยจะหางู มดหรือแมลงมีพิษมาทำน้ำยาแช่ให้เขาได้?
“เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ ไป เอาทะเลโลหิตลงถัง”
ทุกคนพากันตื่นตระหนก
นั่นมันหินหนืดแห่งทะเลโลหิต
หินหนืดของทะเลโลหิตที่มีอุณหภูมิสูงขึ้นขั้นคร่าชีวิตได้ แม้แต่เหล็กและหินก็ล้วนหลอมละลายได้
หากดูเอาน้ำจากทะเลโลหิตลงถัง ไม่เป็นการลวกร่างของผู้เป็นนายจนตายเลยหรือ?
“พระชายา ท่านคงไม่ได้ล้อเล่นกระมัง?”
“เจ้าเห็นข้า ดูเหมือนล้อเล่นอย่างนั้นหรือ?” กู้ชูหน่วยกล่าวอย่างเคร่งขรึม
แววตาของนางดูจริงจัง ไม่มีความรู้สึกของการล้อเล่นเลยแม้แต่น้อย
“แต่…นั่นคือหินหนืดทะเลโลหิต ขนาดอยู่ด้านข้างก็ร้อนจะตายอยู่แล้ว นับประสาอะไรกับ…”
“ร่างกายของเขาพิเศษ ไม่กลัวร้อน หากจะระงับพิษเหมันต์และพิษร้ายจากใบไม้โลหิตในร่างกาย ทำได้แค่ต้องใช้น้ำทะเลโลหิตที่ร้อนระอุที่สุด ก่อนหน้านั้นข้าเคยพูดกับเจ้าไปแล้ว ขั้นตอนการรักษานั้นเจ็บปวดมาก และมีอัตราการล้มเหลวไม่น้อย เสียใจตอนนี้ยังทันนะ”
“เจ้าลงมือเถอะ ข้าเชื่อว่าเจ้ามีการยับยั้งได้มากพอ” เยี่ยจิ่งหานกวาดตามองทะเลโลหิตที่กำลังเดือนปุด ๆ ด้วยไม่แน่ใจอย่างมากในใจ แต่เขาก็ยังเลือกที่จะเชื่อใจกู้ชูหน่วน เลือกที่จะฝากชีวิตของตัวเองไว้กับนาง
“นายท่าน…”
หลีลั่วร้อนใจ
นายท่านเชื่อใจพระชายา นั่นก็พิสูจน์แล้วว่าพระชายามีความมั่นใจ มีความสามารถ แต่จะว่าไปความเสี่ยงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ก็สูงเกินไป หาก…
กู้ชูหน่วนแย้มริมฝีปากยิ้ม ซึ่งเป็นรอยยิ้มที่ดูแวววาวสดใส ท่าทางเด็ดเดี่ยว “วางใจเถอะ ข้าจะทำให้ดีที่สุด”
“ดี”
“เจ้าองครักษ์ ถ้าการกำจัดพิษเริ่มต้นขึ้น เยี่ยจิ่งหานจะสูญสิ้นวรยุทธ์ไปแน่ ระหว่างกำจัดพิษ ห้ามรบกวน ไม่อย่างนั้นสิ่งที่ทำมาก่อนหน้านั้นก็เท่ากับสูญเปล่า”
หลีลั่วกล่าวอย่างจริงจัง “ข้าน้อยเข้าใจแล้วขอรับ ข้าน้อยจะไม่ให้ผู้ใดเข้าใกล้ที่นี่โดยเด็ดขาด”
กู้ชูหน่วยพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนจะสบตาและยิ้มให้กับเยี่ยจิ่งหาน
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ส่งเสียงขู่ฟ่อด้วยความไม่พอใจ หางงูของมันตวัดเขียนสองตัวอักษรลงบนฝ่ามือของกู้ชูหน่วน
ห้าสิบ
กู้ชูหน่วนดึงมันออก แล้วโยนทิ้งในทะเลโลหิตโดยตรง เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ตื่นตกใจ กระทั่งเปลี่ยนทิศทางอย่างฉับพลัน มันเลื่อยไปข้างถังของเยี่ยจิ่งหาน แล้วส่งเสียงขู่ฟ่ออย่างน้อยเนื้อต่ำใจ
กู้ชูหน่วนหมดความอดทน “เลี้ยงงูเป็นพัน ๆ วัน ได้ใช้งูเป็นครั้งคราว เจ้ากินเนื้อในจวนหานอ๋องไปตั้งเท่าไหร่? เจ้านับดูสิ ยังต่อรองได้นะ หัวหมูห้าสิบหัว เหตุใดเจ้าไม่ไปช่วงชิงในเล้าหมูซะเลยล่ะ”
หลีลั่วและทหารอารักขาอีกคนกำลังงุนงง
พระชายาคุยจอแจอะไรกับเจ้างูน้อย?
อะไรคือหัวหมูห้าสิบหัว?
เยี่ยจิ่งหานลืมตาขึ้น “ทำตามที่นางสั่ง แล้วจะจัดหัวหมูหนึ่งร้อยหัวให้เจ้า”
ดวงตาของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เป็นประกาย และมองไปยังเยี่ยจิ่งหานอย่างรู้สึกดีอย่างมาก
มันส่งเสียงขู่ฟ่อ ราวกับกำลังยอมรับ
เยี่ยจิ่งหานกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “เมื่อข้าลั่นวาจาออกไปแล้ว แม้รถเทียมม้าสี่ตัวก็ยากที่จะตามทัน แต่ หากเจ้าพลาด ข้าก็คงจะคิดคำนึงถึงงูเก้าหัวสีแดงเพลิงนมนานเชียวละ”
“ฟ่อ ฟ่อ ฟ่อ …”
เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ส่ายหัว แสดงสีหน้าอย่างผู้ชนะ
ก่อนที่ร่างกายของมันจะขยายใหญ่ขึ้น
ในที่สุดหนึ่งเมตร ห้าเมตร สิบเมตร สามสิบเมตร ห้าสิบเมตร หนึ่งร้อยเมตร….. หนึ่งร้อยสามสิบกว่าเมตร ……. ค่อยๆ ใหญ่ขึ้นและหนาขึ้นเรื่อย ๆ
หลีลั่วและคนอื่นๆ พากันตกตะลึง
นี่คืองูที่ขนาดเท่าตะเกียบจริงหรือ?
เหตุใดมันใหญ่เร็วขึ้นเพียงนี้?
งูตัวนี้ใหญ่กว่าอ่างล้างหน้าอีกกระมัง?