บทที่ 411
วรยุทธของเยี่ยเฟิงไม่สูงมากนัก แม้แต่ตัวเองก็ยากที่จะปกป้อง แต่เขาก็ยังคงสละพลังปราณที่แท้จริงให้กับอัครมเหสีฉู่
เมื่อเห็นว่าอัครมเหสีฉู่ทนไม่ไหว เยี่ยเฟิงก็ตื่นตระหนก เขาคุกเข่าลงและอ้อนวอน “ท่านผู้นำ ข้าขอร้อง ได้โปรดส่งอัครมเหสีฉู่ลงไปจากเขาก่อนเถิด นางเป็นเพียงสตรีคนหนึ่งที่อ่อนแอ ที่นี่อากาศร้อนมากเกินไป ร่างกายของนางทนไม่ไหว”
“ตุ้บ……”
ผู้นำกองธงกล้วยไม้เหยียบใบหน้าของเขาด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม และก็กล่าวด้วยน้ำเสียงที่โกรธเคือง “ปล่อยนางไปงั้นหรือ?เจ้ากับนางมีความสัมพันธ์อะไรกัน?เจ้าถึงยอมคุกเข่าขอร้องข้าเพื่อนาง ไม่ลังเลที่จะส่งนางออกไป และไม่ลังเลที่จะสละชีวิตของตัวเอง ?กู้ชูหน่วนเป็นหญิงสาวที่รูปโฉมงดงาม แต่อัครมเหสีฉู่เป็นเพียงหญิงชราคนหนึ่ง เจ้าชอบอะไรในตัวนาง?”
เยี่ยเฟิงปล่อยให้เขาเหยียบใบหน้าของเขา นัยน์ตาที่แข็งกร้าวมองไปที่ผู้นำกองธงกล้วยไม้อย่างอ้อนวอน ราวกับว่าเขายอมทำทุกอย่าง ขอเพียงแค่ผู้นำกองธงกล้วยไม้ปล่อยอัครมเหสีฉู่ไป
“ปล่อย……ปล่อยเขา……”
อัครมเหสีฉู่กล่าวอย่างแผ่วเบา นางต้องการจะลุกขึ้น แต่ดูเหมือนว่าร่างกายของนางจะหนักอึ้ง และไม่สามารถขยับได้
“เขาเป็นผู้ปรนนิบัติของข้า ข้าจะทำอะไรกับเขาก็ได้ ทำไม หรือว่าอัครมเหสีฉู่ทรงรู้สึกโดดเดี่ยว จึงชอบใบหน้าขาว ๆ ของเขา?”
ในขณะที่ผู้นำกองธงกล้วยไม้กล่าว เขาก็ออกแรงที่เท้ามากขึ้น
คราวนี้เขาเหยียบหน้าอกของเยี่ยเฟิง และออกแรงเหยียบจนเยี่ยเฟิงหายใจไม่ออก
ผู้นำกองธงโบตั๋นแต่งกายด้วยชุดที่สง่างาม เขาเฝ้ามองอยู่ข้าง ๆ อย่างด้วยสายตาที่เยือกเย็น และความดุร้ายก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา
สายตาที่มุ่งร้ายของเขาจ้องมองไปที่เยี่ยเฟิง ราวกับว่าเขาจะสนใจเยี่ยเฟิงเป็นอย่างมาก
กู้ชูหน่วนตะโกนเรียก “ฝูกวง”
“นายท่าน ผู้น้อยอยู่นี่ขอรับ”
นางเพียงแค่ลองเรียกดูเท่านั้น และเดิมทีก็ไม่ได้หวังว่าฝูกวงจะอยู่ที่นี่ แต่ไม่คิดว่าเขาจะอยู่ที่นี่จริง ๆ
ใบหน้าของฝูกวงซีดเผือดและหายใจรวยริน กู้ชูหน่วนดูออกในทันทีว่าเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส
หลังจากได้รับบาดเจ็บสาหัส เขาก็เดินทางมาที่นี่ และอาการบาดเจ็บก็มากยิ่งขึ้น
กู้ชูหน่วนไม่พูดอะไรสักคำ นางรีบหยิบแกนผลึกหิมะออกมาให้เขาหนึ่งเม็ด “รับไปสิ มันสามารถต้านความร้อนได้ เจ้ากินยาเม็ดนี้แล้ว อาการการบาดเจ็บของเจ้าจะดีขึ้น”
“ขอบคุณนายท่านขอรับ”
แกนผลึกหิมะ เป็นแกนผลึกหิมะจริง ๆ อีกทั้งยังเป็นแกนผลึกหิมะหมื่นปี นี่เป็นยาชั้นยอด
เมื่อมีแกนผลึกหิมะอยู่ในมือ สีหน้าของฟูกวงก็ดีขึ้นเล็กน้อย
“เกิดอะไรขึ้น?เยี่ยเฟิงไม่ได้ไปที่เผ่านิกายเทพอสูรใช่หรือไม่?ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ หรือว่าถูกผู้นำกองธงกล้วยไม้จับตัวมา?”
“นายท่าน จู่ ๆ จอมมารก็ปรากฏตัว เขาบุกเข้าไปในตำหนักของอัครมเหสีฉู่ และจับตัวอัครมเหสีฉู่ไป เทพแห่งสงครามไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาส่งคนจำนวนมากไปอารักขาอัครมเหสีฉู่ และจับตามองอัครมเหสีฉู่ ”
“แต่คนของเยี่ยจิ่งหาน สู้จอมมารไม่ได้ อัครมเหสีฉู่จึงถูกจับตัวไป”
“จอมมารถามอัครมเหสีฉู่เกี่ยวกับข่าวคราวของท่าน แต่อัครมเหสีฉู่ไม่รู้ จอมมารจึงทิ้งนางไว้กลางทาง ด้วยเหตุนี้ ผู้นำกองธงกล้วยไม้จึงพบอัครมเหสีฉู่ และจับตัวนางไป”
“เมื่อเยี่ยเฟิงที่กำลังไปที่เผ่านิกายอสูร เห็นว่าอัครมเหสีฉู่ถูกจับตัวไป เขาก็พยายามที่จะช่วย แต่ก็ถูกผู้นำกองธงกล้วยไม้ทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และเพื่อที่จะช่วยเยี่ยเฟิง ข้าก็ถูกผู้นำกองธงกล้วยไม้และผู้นำกองธงโบตั๋นทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นกัน”
“หลังจากนั้น เยี่ยเฟิงและอัครมเหสีฉู่ก็ถูกพาตัวมาที่นี่ เดิมทีผู้น้อยคิดจะหาโอกาสไปช่วยพวกเขา แต่ไม่คิดว่าจะได้พบนายท่านที่นี่”
ฝูกวงพูดยาวในลมหายใจเดียว เขาอธิบายสาเหตุและผลที่ตามมาของเหตุการณ์ทั้งหมด
กู้ชูหน่วนยิ่งฟังก็ยิ่งขมวดคิ้วแน่นมากขึ้นเรื่อย ๆ
เยี่ยเฟิง ไอ้สวะ ทุกครั้งที่เจอเขาก็ต้องเจอผู้นำกองธงกล้วยไม้
เขาช่างเป็นคนที่โง่เขลาเสียจริง ๆ เขาไม่คิดจะหาวิธีอื่นไปช่วยอัครมเหสีฉู่เลยหรือ?ถึงต้องเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง