กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ – บทที่ 434

บทที่ 434

บทที่ 434
คนที่อยู่ข้าง ๆ ไม่ตอบ กู้ชูหน่วนจึงหันหน้าไปด้วยความสงสัย

ไม่รู้ว่าอี้เฉินเฟยสลบไปตั้งแต่เมื่อไร สีหน้าของเขาซีดเผือดจนน่าน่ากลัว

กู้ชูหน่วนจับชีพจรของเขา และพบว่าชีพจรของเขาอ่อนแรงมากจนเกือบจะไม่มี

สิ่งที่ทำให้นางตกใจยิ่งกว่านั้นก็คือ ดูเหมือนว่าพลังชีวิตของเขาจะค่อย ๆ หายไป ในร่างกายของเขายังคงมีลมปราณที่ขุ่นมัวแทรกซึมเข้าสู่กระแสเลือดจนไปถึงไขกระดูก ทำให้สมดุลในร่างกายของเขาถูกทำลาย

นี่เป็นอาการบาดเจ็บที่สาหัสมาก หากเป็นเช่นนี้ต่อไป อี้เฉินเฟยจะต้องตายอย่างแน่นอน

และนี่มันโรคอะไรกัน นางเป็นหมอมาหลายปี แต่ไม่เคยพบมาก่อน และไม่รู้ว่าจะรักษาอย่างไร

เมื่อเห็นว่าเลือดของเขายังคงไหลออกมา และบริเวณที่ไหม้เกรียมก็ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ กู้ชูหน่วนจึงรีบเอาไข่มุกเหวินหยวนออกมา กระตุ้นกำลังภายในของเขา และใช้ไข่มุกเหวินหยวนรักษาเขา จากนั้นเขาก็เริ่มพันผ้าพันแผลให้เขา

“ฟ่อ ๆ……”

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เอาหัวขนาดใหญ่มาถูกับอี้เฉินเฟย และคลอเคลียอยู่บนตัวเขา ราวกับว่าเป็นสงสารและเป็นห่วง

กู้ชูหน่วนเลิกคิ้ว “เจ้ารู้จักอี้เฉินเฟย”

“ฟ่อ ๆ ๆ ……”

เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์เลียนแบบท่าทางของนางและกลอกตา

เขาเป็นเจ้านายที่สนิทมากที่สุด และเป็นพี่ชายที่ไว้ใจมากที่สุด จะไม่รู้จักเขาได้อย่างไร

ที่สำคัญไม่เพียงแต่วรยุทธจะแย่ลง แต่อาการหลงลืมของเขาก็แย่ลงด้วย

“งูใหญ่เช่นเจ้า จะต้องมีเรื่องราวอย่างแน่นอน”

กู้ชูหน่วนกล้ารับรองว่าเจ้าของร่างเดิมกับอี้เฉินเฟยต้องมีความสัมพันธ์ที่คลุมเครืออย่างแน่นอน

จะใช่คู่กันหรือไม่?

กู้ชูหน่วนสะดุ้งตกใจกับความคิดของตัวเอง นางสะบัดตัวและรู้สึกขนลุก จากนั้นก็รีบช่วยทำแผลให้อี้เฉินเฟยต่อ

“ไม่ใช่ว่าเจ้ากำลังช่วยถอนพิษให้เยี่ยจิ่งหานหรือ?ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้?การถอนพิษของเยี่ยจิ่งหานเป็นอย่างไรบ้าง”

หัวขนาดใหญ่ของเสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ค่อย ๆ หดลงและเลื้อยหนีออกไป ราวกับว่าไม่อยากตอบคำถามของกู้ชูหน่วน

“เจ้างูโง่ เจ้ากลับมาเดี๋ยวนี้นะ”

“ฟ่อ ๆ ……” เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ขู่อย่างไม่พอใจ

“เยี่ยจิ่งหานล่ะ?”

“ฟ่อ ๆ ……”

พิษน่าจะคลี่คลายไปได้มากแล้ว ในตอนนั้นนายท่านกำลังตกอยู่ในอันตราย มึนจึงเลื้อยออกไป และไม่ได้สนใจเยี่ยจิ่งหาน

หากนายท่านไม่เป็นอะไร มันจะได้กินหมูห้าสิบตัว

แต่หากนายท่านเป็นอะไรไป ต่อจากนี้ไปมันก็จะไม่ได้กินหมูแม้แต่ตัวเดียว

เมื่อเปรียบเทียบกันแล้ว การช่วยชีวิตนายท่านจึงเหมาะสมกว่า

กู้ชูหน่วนโกรธและทำอะไรไม่ถูก

นางรู้อยู่แล้วว่าเจ้างูโง่ตัวนี้จะต้องทิ้งเยี่ยจิ่งหานอย่างไม่สนใจไยดี

นางปัดทะเลเมฆอันกว้างใหญ่ด้านล่างหน้าผา เหวินเส่าอี๋ยังคงอยู่ด้านล่าง จากสถานการณ์ในเวลานี้ของเขา หากไม่มีใครช่วย เขาจะต้องขึ้นมาอย่างแน่นอน

กู้ชูหน่วนกำลังจะให้เสี่ยวจิ่วเอ๋อร์ไปพาเขาขึ้นมา และอี้เฉินเฟยก็ตื่นขึ้นมาพอดี

“เจ้าจะช่วยเขาไม่ได้ แค่ก ๆ……”

“ได้ ข้าจะไม่ไปช่วยเขา ท่านได้รับบาดเจ็บสาหัส อย่าโมโห ข้าจะฝังเข็มรักษาอาการบาดเจ็บให้ท่านก่อน”

“ไม่ต้อง” ไม่ง่ายเลยที่เขาจะสามารถยับยั้งคำสาปโลหิตต่อไปได้ เพราะเขาเอาเลือดในร่างกายให้นางดื่ม อาการบาดเจ็บจึงไม่สามารถหายได้ในพริบตา เขาพยายามจะยั้บยั้งมันไว้ แต่ก็ไม่สามารถยับยั้งได้อีกต่อไป

อี้เฉินเฟยพยายามจะลุกขึ้นนั่ง เขากำหัวใจของตัวเองไว้ด้วยความเจ็บปวด เส้นเลือดบนใบหน้าอันอบอุ่นของเขาปูดขึ้นมาด้วยความเจ็บปวด และยังคงตัวสั่นไม่หยุด ราวกับว่าเขาต้องทนทุกข์ทรมานอย่างแสนสาหัส

“ท่านป่วยเป็นอะไรหรือไม่?”

“เยี่ย……เยี่ยจิ่งหานยังคง……รอเจ้าอยู่ เจ้ารีบ……กลับไปหาเขา ไม่……ไม่ต้องสนใจข้า”

อี้เฉินเฟยเบือนหน้าหนี เขาไม่ต้องการให้กู้ชูหน่วนเห็นสีหน้าท่าทางที่ทุกข์ทรมานของเขา เขาไม่รู้ว่ามันเจ็บปวดทรมานเกินไปหรือไม่ นิ้วทั้งสิบของเขาฝังลึกลงไปบนเขาหิน เล็บทั้งหมดของเขาหักและเลือดออกไม่รู้ตัว

เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางของเขา กู้ชูหน่วนก็ยิ่งแน่ใจมากยิ่งขึ้น

อี้เฉินเฟยป่วย และอาการป่วยก็สาหัสมาก ไม่รู้ว่าจะก่อนหน้านี้เขามีวิธีการยับยั้งอย่างไร และภายนอกก็ไม่ได้แสดงออกอะไรเลย

แต่ตอนนี้อาการกำเริบ ดังนั้นพลังชีวิตในร่างกายของเขาจึงหายไปอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งอวัยวะภายในร่างกายที่แห้งเหือดอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าอวัยวะภายในเน่าเปื่อยจากภายในสู่ภายนอก

กู้ชูหน่วนกอดเขาในทันที “พี่เฉินเฟย ไม่ว่าท่านจะเป็นโรคอะไร ข้าจะต้องรักษาท่านให้หาย”

เขาได้กลิ่นกายของผู้หญิงที่คุ้นเคย นัยน์ตาของอี้เฉินเฟยเป็นประกายด้วยความเจ็บปวด เขาดิ้นและพยายามที่จะออกห่างจากกู้ชูหน่วน แต่กู้ชูหน่วนกลับกอดเขาแน่นขึ้น และไม่ยอมที่จะปล่อยเขา

รู้สึกได้ถึงไอสังหารในร่างกายของเขา อี้เฉินเฟยรู้ว่าคำสาปโลหิตของเขากำเริบขึ้นอีกครั้ง

ไม่เพียงแต่ร่างกายของเขาจะเน่าเปื่อยจากภายในสู่ภายนอกอย่างรวดเร็ว แต่ทำให้เขาทุกข์ทรมานเสียยิ่งกว่าตาย ไอสังหารของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และพร้อมที่จะทำลายล้างมนุษยชาติได้ตลอดเวลา รวมทั้งทำร้ายกู้ชูหน่วนด้วย

อี้เฉินเฟยตัวสั่นสะท้าน

เขาไม่ลืมว่าเพราะคนในตระกูลของเขาทนทุกข์ทรมานไม่ไหว จนบ้าคลั่งไคล้ และฆ่าได้แม้แต่ภรรยาและลูกแท้ ๆ ของตัวเอง

นอกจากนี้เมื่อคำสาปโลหิตกำเริบ เขาจะขาดสติและกลายเป็นเครื่องมือในการสังหาร จนไม่รู้ว่าฆ่าญาติที่สนิทสนมไปกี่คนแล้ว และสุดท้ายก็ต้องมาเสียใจภายหลัง ตายไปเสียยังจะดีกว่ามีชีวิตอยู่

“ปล่อย”

อี้เฉินเฟยไม่อยากจะคิดเลยว่าหากเขาพลั้งมือทำร้ายกู้ชูหน่วน เขาสะบัดนางออกไปอย่างแรง และเดินเซไปข้างหน้า

มีเลือดไหลรินลงมา อี้เฉินเฟยยืนไม่อยู่และล้มลงหลายครั้ง เขาพยายามดิ้นรนที่จะลุกขึ้นมาอีกครั้ง

“พี่เฉินเฟย”

กู้ชูหน่วนเดินตามเขาไปและกอดเขาไว้ ไม่ว่าเขาจะสะบัดอย่างไร นางก็ไม่ปล่อย และในที่สุดก็เอนกายลงบนตัวเขา “เว้นแต่ท่านจะฆ่าข้าเสีย มิเช่นนั้นท่านก็จะสะบัดข้าไม่หลุด ท่านช่วยชีวิตข้าไว้หลายครั้งหลายครา ข้าจะละทิ้งท่านในเมื่อตอนที่ท่านลำบากที่สุดได้อย่างไร”

“ปล่อย”

“ไม่ปล่อย กินไข่มุกเหวินหยวนซะ ข้าศึกษามาแล้ว หากกินไข่มุกเหวินหยวน จะเป็นผลดีต่อร่างกายและไม่เป็นอันตราย”

“อาหน่วน เจ้า……เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่ากำลังทำอะไร?”

อี้เฉินเฟยเบือนหน้าหนี และไม่ต้องการจะกินไข่มุกเหวินหยวน นี่เป็นของศักดิ์สิทธิ์ล้ำค่า และในใต้หล้าก็มีเพียงไข่มุกเหวินหยวนเพียงสองเม็ดเท่านั้น

ใครจะคิดว่ากู้ชูหน่วนจะเอาไข่มุกเหวินหยวนใส่เข้าปาก และใช้ปากป้อนให้เขา

อี้เฉินเฟยไม่กล้าแตะต้องกู้ชูหน่วน เขาจึงหันหน้าหนี และคิดไม่ถึงว่าจะเป็นเพียงกลอุบายของกู้ชูหน่วนเท่านั้น เดิมทีแล้วนางไม่ได้ใส่ไข่มุกเหวินหยวนเข้าไปในปาก แต่อยู่ในมือของนาง

เขาไม่ทันได้ระวัง และถูกกู้ชูหน่วนบังคับให้กินเข้าไป

อี้เฉินเฟยอยากจะคายออกมา แต่ก็คายไม่ออก

ไข่มุกเหวินหยวนมีสรรพคุณในการรักษาที่ยอดเยี่ยม

คนธรรมดาไม่ว่าจะได้รับบาดเจ็บสาหัสแค่ไหน เพียงแค่มีไข่มุกเหวินหยวนอยู่ในมือก็สามารถรักษาให้หายได้

แต่เขาถูกคำสาปโลหิต เดิมทีไข่มุกเหวินหยวนนั้นไร้ประโยชน์ แต่มันก็ไม่สูญเปล่า

“ท่านอย่าไป ข้าจะฝังเข็มบรรเทาอาการปวดให้ท่าน”

อี้เฉินเฟยยังไม่ทันได้ตกลง กู้ชูหน่วนก็เริ่มฝังเข็มแล้ว

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะวิชาแพทย์ของนางยอดเยี่ยม หรือเป็นเพราะไข่มุกเหวินหยวน ความเจ็บปวดของอี้เฉินเฟยบรรเทาลงมาก และไอสังหารก็สงบลงมากเช่นกัน เพียงแต่ร่างกายภายในของเขายังคงเน่าเปื่อย

“รู้สึกดีขึ้นดีแล้วหรือไม่?”

เมื่อเวลาผ่านไป กู้ชูหน่วนก็ปาดเหงื่อและถอนหายใจยาว

แม้ว่าจะไม่มีทางรักษาโรคของเขาให้หายได้ แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้เขาบรรเทาความเจ็บปวดลงได้

ในทันทีที่เงยหน้าขึ้น กู้ชูหน่วนก็หรี่ตาลง สีหน้าของนางซีดเผือด

เขา……

ผมสีดำของเขากลายเป็นผมหงอกขาวในชั่วข้ามคืน……

บทที่ 433

บทที่ 435

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท