บทที่ 440
คราวนี้เหล่าผู้อาวุโสทั้งหลายของเผ่าเพลิงฟ้าไม่นิ่งเฉย และแทบอยากจะบีบคอกู้ชูหน่วนให้ตาย แต่กู้ชูหน่วนเร็วกว่าหนึ่งก้าว นางร้องไห้ฟูมฟายและสะอึกสะอื้น “พี่น้องทั้งหลาย เป็นข้าที่ทำร้ายพวกท่าน หากข้ารู้มาก่อนว่าที่นี่อันตรายมากเช่นนี้ และรู้มาก่อนว่าจะถูกบุกโจมตีจนทำให้พวกท่านต้องตายอยู่ที่นี่ ข้ายอมถูกพวกเขาทุบตี แต่จะไม่มอบระฆังวิญญาณสะบั้นออกมา เป็นข้าที่ผิดต่อพวกท่าน”
“ข้าสมควรตาย ข้าผิดต่อพวกท่าน พวกท่านฆาข้าเถอะ ชีวิตของผู้คนมากมายเช่นนี้… ข้าจะชดใช้ได้อย่างไร”
นางร้องไห้ฟูมฟาย ช่างน่าเวทนายิ่งนัก คนของเผ่าเพลิงฟ้าใจอ่อน และความโกรธของคนในเผ่าปีศาจก็คลายลงอย่างมาก
“ในเมื่อเจ้าอยากตาย เช่นนั้นข้าจะส่งเสริมเจ้า”
ในขณะที่ผู้นำกองธงกล้วยไม้กล่าว ฝ่ามือขนาดใหญ่ก็กำลังฟาดลงไปที่กลางกะโหลกศีรษะของนาง
คนของเผ่าเพลิงฟ้าเฝ้ามองอย่างเงียบ ๆ และอยากรู้ว่ากู้ชูหน่วนกำลังทำอย่างไร แต่ไม่คิดว่ากู้ชูหน่วนจะร้องไห้อยู่ตรงนั้น ไม่เคลื่อนไหวหรือตอบโต้ใด ๆ ราวกับว่านางกำลังจะตาย
เมื่อเห็นว่าฝ่ามือพิฆาตกำลังจะปะทะที่กลางกะโหลกศีรษะของนาง ผู้อาวุโสหวงไท่ซั่งก็ไม่สามารถนิ่งเฉยได้ เขาจึงยื่นเข้าไปช่วย และยับยั้งฝ่ามือนั้นแทนกู้ชูหน่วน
“เก็บนางไว้ก่อน นางยังมีประโยชน์”
“หญิงผู้นี้ไม่ได้มีเจตนาดี นางต้องการจะให้พวกเราทุกคนตายอยู่ที่นี่”
“นี่…….”
คนของเผ่าเพลิงฟ้าไม่รู้ว่าจะเชื่อใครอยู่ชั่วขณะหนึ่ง
“ใช่ ๆ ๆ ข้าต้องการให้พวกท่านทั้งหมดตายอยู่ที่นี่ และข้าก็ต้องการให้ตัวเองตายอยู่ที่นี่ด้วย”
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ออกมา ไม่ต้องพูดถึงคนของเผ่าเพลิงฟ้าเลย คนของเผ่าปีศาจก็มีแนวท่าทีว่าจะเอนเอียงไปทางกู้ชูหน่วนมากขึ้น
“ลองเชื่อใจดูนางสักครั้งเถอะ ถึงอย่างไรก็มาถึงยอดเขาแล้ว”
ผู้นำกองธงกล้วยไม้เดินออกไป สีใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ
บนยอดเขาหูหลู มีถ้ำโลหิตขนาดใหญ่ สาเหตุที่เรียกว่าถ้ำโลหิตก็เพราะว่าที่นี่เป็นทะเลโลหิตที่วกไปวนมา เหมือนเส้นเลือดที่ไขว้กันไปมา
ในถ้ำโลหิต มีศพสาวกของตันหุยกู่นอนเกลื่อนกลาดอยู่เต็มพื้น ที่นี่ไม่มีร่องรอยของการต่อสู้ แต่ดูเหมือนว่าศพของพวกเขาจะถูกเฉือนเป็นชิ้น ๆ น่าเวทนาเกินกว่าที่จะทนดูได้
บาดแผลที่ถูกเฉือนหล่านี้ ยังคงมีกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้ง และมีควันดำลอยออกมาจากศพ
พวกเขาพบเจออะไรที่นี่กันแน่ ทำไมพวกเขาถึงตายอย่างอนาถเช่นนี้?
“ผู้อาวุโสหวงไท่ซั่ง ที่นี่มีทางที่สามารถปีนขึ้นไปได้”
“เดินต่อไป ทุกคนระวังตัวด้วย”
ผ่านอะไรมามากมายขนาดนั้น ทุกคนจะกล้าประมาทได้อย่างไร เดิมที่พวกเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก และในเวลานี้ก็เหมือนขอทาน ผมเผ้ากระเซอะกระเซิง เนื้อตัวเปื้อนเลือด เสื้อผ้าถูกอสุรกายและค่ายกลทำให้ขาดรุ่งริ่ง
หากเดินอยู่ข้างนอก ผู้คนคงคิดว่าคนเหล่านี้เป็นแค่ขอทาน
“เดี๋ยวก่อน เจ้าเดินไปข้างหน้า”
ผู้นำกองธงกล้วยไม้ผลักกู้ชูหน่วนไปข้างหน้า และให้นางเดินนำทางไป
เหล่าสาวกทั้งหลายล้วนแต่ตายหมดแล้ว เหลือเพียงแค่บุคคลสำคัญ ไม่มีใครกล้าเสี่ยงอีก จึงให้กู้ชูหน่วนเดินนำทางไป และพวกเขาก็ไม่มีความคิดเห็นใด ๆ
“ได้ ข้าจะเดินนำไปเอง”
ใบหน้าอันบอบบางของกู้ชูหน่วนมีรอยยิ้มที่เย็นยะเยือกจาง ๆ เพียงแต่มีความเฉยเมยอยู่เบื้องหลังรอยยิ้มที่เย็นยะเยือก
ต้องการให้นางเดินนำใช้หรือไม่ เช่นนั้นนางจะไม่ให้ทางที่ดีสำหรับพวกเขา นางไม่ได้ผิดต่อพวกเขา “การดูแลเป็นพิเศษ”
ตลอดทางที่เดินไป ที่นี่มืดมิด
ผู้คนยกคบเพลิงขึ้น เพื่อให้ปากถ้ำสว่าง
มองแวบแรกที่นี่ลึกจนมองไม่มีก้นบึ้ง และไม่รู้ว่าอีกไกลแค่ไหนกว่าจะถึงปากหูหลู ชะง่อนหินดูเรียบเนียนมาก เดินมาไกลมาแล้ว แต่ก็ยังไม่พบสถานที่อันตรายใด ๆ มีเพียงทางแยกที่มากเกินไป และแผนที่ก็ไม่สมบูรณ์ ในเวลานี้พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามาถูกทางหรือไม่
คนของเผ่าเพลิงฟ้าและเผ่าปีศาจ มีคำว่านี่มันสถานที่อะไรกันแวบเข้ามาในหัว
ทำไมถึงมีทางแยกมากมายขนาดนี้
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือกู้ชูหน่วนพาพวกเขาเดินวนไปรอบหนึ่งแล้ว เดินวนจนพวกเขาเวียนหัว และไม่รู้ว่าเป็นทิศไหน
กองไฟในในใจของผู้นำกองธงกล้วยไม้ใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ และพร้อมที่จะปะทุได้ทุกเมื่อ เขาตะโกนด้วยความโกรธ “กู้ชูหน่วน เจ้าเดินวนไปวนมา แล้วจะเดินไปที่ไหน?”
“พวกท่านต้องการให้ข้าพาพวกท่านไปหาไข่มุกมังกรที่ยอดเขาไม่ใช่หรือ ข้าก็กำลังจะหาทางไป”
ผู้นำกองธงกล้วยไม้โกรธมากจนอยากจะซัดฝ่ามือใส่นางให้ตาย
กู้ชูหน่วนกล่าวอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรมว่า “ที่นี่มีทางแยกมากมายขนาดนี้ ข้าพยายามที่จะหาทาง และทุกทางที่ข้าเดินไป พวกท่านทุกคนก็เห็นด้วย ผู้นำกองธงกล้วยไม้ ท่านจะโทษว่าข้าจงใจเดินวนไปวนมาได้อย่างไรผิดที่ฉันจะพาคุณอ้อมไปได้อย่างไร?”
ผู้นำกองธงกล้วยไม้โกรธจัด
เห็นได้ชัดว่ากู้ชูหน่วนจงใจจะกลั่นแกล้งพวกเขา แต่นางแสร้งทำเป็นมีเหตุผลและไร้เดียงสา เพื่อที่เขาจะได้ไม่พบพิรุธ
ทุกครั้งที่มาถึงทางแยก นางก็จะถามความคิดเห็นของพวกเขา แต่นางไม่ได้ให้เวลาในการดูแผนที่นานนัก ก็เดินหน้าต่อไปแล้ว
ผู้อาวุโสหวงไท่ซั่งร้อนใจ พวกเขาเดินวนไปวนมาอยู่ในถ้ำนานมากแล้ว หากยังเดินวนต่อไป พละกำลังที่เหลืออยู่ของพวกเขาก็จะหมดลง และพวกเขาต้องไปให้ถึงยอดเขาโดยเร็วที่สุด
เขาลดเสียงให้ต่ำลง และพยายามที่จะเก็บความกระวนกระวายไว้ในใจ “ต้องเดินไปอีกนานไกลแค่ไหน?”
“นี่…… ข้าหลงทางนิดหน่อย และข้าก็ไม่เข้าใจ เช่นนั้นพวกท่านบอกทางได้หรือไม่”
กู้ชูหน่วนพยายามปุ้ยปากไปทางระฆังวิญญาณสะบั้น แล้วให้คำถามที่ยากกับพวกเขา
ทุกคนต่างมองหน้ากัน
มีแผนที่เพียงครึ่งเดียวเท่านั้น และเดิมทีก็ไม่สามารถที่จะเห็นภาพโดยรวมได้ทั้งหมด อีกอย่างก็มีเครื่องหมายต่าง ๆ เต็มไปหมด ซึ่งแตกต่างไปจากแผนที่ภูมิประเทศของภูเขาหูหลูอย่างสิ้นเชิง
พวกเขาจะดูออกได้อย่างไร?
เดิมทีแล้วไม่สามารถเข้าใจเลยด้วยซ้ำ
ผู้นำกองธงกล้วยไม้ขมวดคิ้ว
“ข้าจะบอกทางเอง”
หากให้กู้ชูหน่วนนำทางต่อไป พวกเขาทั้งหมดคงต้องตายอยู่ที่นี่
“ไปทางนี้”
ผู้นำกองธงกล้วยไม้ชี้ไปทางขวา
กู้ชูหน่วนถามอย่างไม่แน่ใจ “ท่านแน่ใจหรือไม่ว่าไปทางขวา?ดูเหมือนว่าทางขวาจะไม่ใช่”
“ไปทางนี้” เสียงของผู้นำกองธงกล้วยไม้หนักแน่น และไม่สามารถต่อรองได้
“เอาเถอะ ท่านเป็นคนบอกให้ข้าไปเองนะ หากเกิดอะไรขึ้น อย่ามาโทษข้าก็แล้วกัน”
กู้ชูหน่วนยกเท้าขึ้นและเดินไปทางขวา
หลังจากที่กู้ชูหน่วนเดินไปทางขวาประมาณสองสามร้อยเมตรได้อย่างปลอดภัย
แต่เมื่อพวกเขาเดินมา จู่ ๆ ชะง่อนหินก้อนใหญ่ที่หนักอึ้งก็ร่วงหล่นลงมา
“ตูมตาม…”
ก้อนหินมีขนาดใหญ่มาก แม้ว่าพวกเขาจะยันก้อนหินหรือหลบหลีกได้ในครั้งแรก เนื่องจากผู้อาวุโสเทียนไท่ซั่งได้รับบาดเจ็บสาหัส ก้อนหินหล่นลงมาตรงกลาง และทับผู้คนในที่อยู่ตรงนั้นจนตาย
“ท่านผู้อาวุโสเทียนไท่ซั่ง……”
คนของเผ่าเพลิงฟ้าตกตะลึงและทำอะไรไม่ถูก
นั่นเป็นผู้อาวุโสที่มีชื่อเสียงของเผ่าเพลิงฟ้า และเป็นผู้อาวุโสที่มีวรยุทธสูงส่ง แต่ต้องมาจบชีวิตลงที่นี่เช่นนี้ ช่างน่าเศร้าสลดยิ่งนัก
ผู้คนโยนความผิดไปให้กู้ชูหน่วนอีกครั้ง
กู้ชูหน่วนก็ยิ่งไม่ได้รับความเป็นธรรม
“ไม่ใช่ทางที่ข้าบอก อีกอย่างข้าก็บอกแล้วว่าดูเหมือนทางขวาจะไม่ถูก แต่ผู้นำกองธงกล้วยไม้ก็บอกให้ข้าไปทางขวา ข้า……ข้าก็ไม่ทางเลือก ข้าจะรู้ได้อย่างไรว่าผู้นำกองธงกล้วยไม้คิดอะไรอยู่ในใจ เห็นได้ชัดว่ารู้อยู่แล้วว่าทางขวาไม่ถูก แต่ก็ยังบอกให้ไปทางขวา”
คนของเผ่าเพลิงฟ้าจ้องมองไปที่ผู้นำกองธงกล้วยไม้
ผู้อาวุโสจวินโกรธมากและต่อว่าผู้นำกองธงกล้วยไม้ “เจ้าจงใจใช่หรือไม่?เจ้าต้องการจะเก็บไข่มุกมังกรไว้คนเดียว ดังนั้นจึงต้องการจะฆ่าพวกเราทุกคนใช่หรือไม่?”
ผู้นำกองธงกล้วยไม้อยากจะฆ่ากู้ชูหน่วนให้ตายในฝ่ามือเดียว
“พวกท่านอย่าไปฟังนางพูดเหลวไหล หญิงผู้นี้ยุยงให้เกิดความบาดหมาง”
“ข้าจะยุยงให้เกิดความบาดหมางได้อย่างไร ข้าเป็นคนบอกให้ไปทางขวางั้นหรือ?ผู้นำกองธงกล้วยไม้ ท่านคอยกลั่นแกล้งข้าสารพัด อีกทั้งยังต้องการจะฆ่าข้า หรือว่าท่านมีแผนอะไรอยู่ในใจ?”