กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 452
“ท่านพี่หน่วน เป็นท่านจริงๆนะหรือ ท่านกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ข้าคิดถึงท่านมาก”น้ำเสียงนุ่มนวลดังขึ้นทันที
ทันทีหลังจากนั้นมีเด็กผู้ชายอายุราวเจ็ดแปดขวบผู้หนึ่งได้เข้าสวมกอดที่ขาของนาง
ไม่นาน เด็กน้อยที่เล่นกับเด็กผู้ชายต่างวิ่งกรูเข้ามา ยื้อแย่งกันกอดที่ขาของนาง และกล่าวด้วยความดีใจว่า“ท่านพี่หน่วน ข้านึกว่าข้ามองผิด เหตุใดท่านถึงไปนานเช่นนี้ ท่านพ่อท่านแม่ของข้าบ่นคิดถึงท่านเป็นประจำเลย”
“ท่านพี่หน่วน ครั้งก่อนท่านกล่าวว่ากลับมาครั้งหน้าจะซื้อว่าวให้ข้า ว่าวข้าเล่า”
“ไปๆๆๆ เจ้าเด็กน้อยคนนี้ เช้ายันเย็นนึกถึงแต่ว่าวของท่านพี่หน่วน ท่านพี่หน่วนเพิ่งจะกลับมา จะต้องเหนื่อยมากเป็นแน่ ควรให้นางพักผ่อนก่อน”
กู้ชูหน่วนก้มศีรษะลง มองดูเด็กน้อยจำนวนหนึ่งที่ล้อมรอบนางอยู่ เด็กผู้ชายเด็กผู้หญิงต่างพูดจาเจื้อยแจ้ว ถูไถใกล้ชิดกับนาง ราวกับว่านางเป็นพี่สาวแท้ๆของพวกเขา
การเคลื่อนไหวการกระทำบริเวณนี้ดึงดูดชาวบ้านคนอื่น ทั้งหมู่บ้านต่างตื่นตะลึง ทั้งคนแก่เด็กผู้ใหญ่ผู้หญิงผู้ชายต่างกรูกันมา
“ไอ๋หยา พระเจ้า เป็นอาหน่วนจริงๆ ข้านึกว่าข้าจิตวิปลาสเสียแล้ว อาหน่วน พวกเรา….พวกเราคิดถึงท่านแทบบ้าแล้ว”
ป้าวัยกลางคนคนหนึ่งจับกอบกุมที่มือนางอย่างตื่นเต้นและกล่าวพูดพร้อมน้ำตาที่ไหลอาบหน้า คล้ายดั่งร่ำไห้ไม่ส่งเสียง
ด้านข้างป้าวัยกลางคน ก็มีลุงวัยกลางคนผู้หนึ่ง เขาเหมือนชาวบ้านคนอื่น ๆ เขามีดวงตาที่สดใสและตื่นเต้นมาก ในดวงตาที่เร่าร้อนคู่นั้น มีเงาของนางสะท้อนออกมา
ลุงวัยกลางคนตื่นเต้น ทำได้เพียงตวาดดุฮูหยินตนเองว่า “ไปๆๆๆ ต้องเรียกว่าหัวหน้าเผ่า แก่ก็มักจะโวยวายเรียกมั่ว ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง เรียกมั่วอย่างนี้อีกละก็ ข้าจะแจ้งต่อเหล่าผู้อาวุโส”
“อาหน่วน…..ท่านหัวหน้าเผ่า….ไม่กี่ปีมานี้ท่านไปไหนมาหรือ เหตุใดไม่ส่งข่าวคราวมาเลย พวกข้าถามกับเหล่าผู้อาวุโสหลายครั้ง ว่าท่านไปไหน แต่ผู้อาวุโสบอกเพียงว่าท่านไปทำภารกิจอยู่ตลอด ผ่านไปสักพักจะกลับมา พวกเรารออยู่ตลอด พอรอมันก็เนิ่นนานหลายปีแล้ว”
“ไข่มุกมังกรหายากใช่หรือไม่?หากว่าหาไม่เจอจริงๆ พวกเราก็ไม่ต้องหาแล้ว ถึงอย่างไรพวกเราล้วนคุ้นชินกันแล้ว ไม่ต้องเป็นเพราะพวกเราแล้วท่านต้องลำบากใจตนเองหรอกนะ ความหวังสูงสุดของคนทั้งเผ่าเรา ก็คือท่านจะมีความสุขได้ ไม่มีสิ่งที่ต้องแบกรับไปชั่วชีวิต”
คนทั้งหมู่บ้านไม่รู้ว่ามากันเท่าไหร่ มันดูคึกครื้นมาก จนกระทั่งมีคนจำนวนไม่น้อยได้ยินข่าวแล้วพากันวิ่งออกมา
กู้ชูหน่วนมองคร่าวๆ ที่นี่มีคนอยู่รอบๆ อย่างน้อยหลายร้อยคน
ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทั้งชายหญิงต่างโห่ร้องดีใจ น้ำตาไหลอาบเต็มใบหน้า และพูดคุยกันเสียงเจื้อยแจ้ว
เมื่อมองไปที่ดวงตาที่คาดหวังเฝ้ารอและเป็นห่วงเป็นใยของพวกเขา รวมถึงภาพที่คุ้นเคยและไม่คุ้นเคยเหล่านี้ ศีรษะของกู้ชูหน่วนก็ปวดขึ้นทันที
ในหัวคล้ายดั่งว่ามีความทรงจำที่ประปรายน้อยๆและไม่สมบูรณ์ขาดหายไปทะยานเข้ามาในหัวของนาง
ทุกฉากก็จะมีชาวบ้านเหล่านี้ด้วย
มีชาวบ้านนำอาหารเครื่องดื่มมาให้กับนาง เย็บเสื้อผ้า และพูดคุยทุกเรื่อง
มีนางพาเด็กๆ ในหมู่บ้านไปเล่นว่าว แกะสลักกระต่าย และเล่นซ่อนหา ผู้อาวุโสสองสามคนรีบมา สุดท้ายดุเด็กน้อยเหล่านั้นอย่างรุนแรงหนึ่งรอบ
และยังมีคนในหมู่บ้านป่วยหนัก นางพยายามทุกอย่างเพื่อปรุงยามารักษาโรคให้กับพวกเขา
ซือ…….
นางปวดศีรษะขึ้นมาทันที
ภาพเหตุการณ์ประเดประดังเข้ามาอีกครั้ง
เหล่าชาวบ้านไม่รู้ไม่ทราบสาเหตุ แต่ละคนเจ็บปวดเป็นอย่างมาก มีบางคนไม่สามารถทนรับความเจ็บปวดทุกข์ระทมได้ จบชีวิตตนเอง บางคนกลายเป็นบ้า ถือยกกริชขึ้น ฟาดฟันญาติพี่น้องอย่างเมามัน
หลังจากการเข่นฆ่านองเลือดผ่านไป ภายในหมู่บ้านน่าสังเวชมาก และทุกที่จะมีผ้าใบสีขาวแขวนไว้
เลือดสีแดงสดกับหลุมฝังศพถูกสร้างขึ้นอย่างต่อเนื่อง
หยาดเหงื่อ….ไหลย้อยลงมา
กู้ชูหน่วนกดกอบกุมที่บริเวณหน้าอกของตนเอง นางเจ็บแม้แต่หายใจยังลำบาก
สีหน้าของชาวบ้านที่ล้อมรอบนางเปลี่ยนไปอย่างมาก และพวกเขากำลังพูดคุยและพูดอะไรบางอย่าง แต่ทว่านางกลับไม่ได้ยินคำพูดใด ๆ เลย เห็นเพียงดวงตาที่เป็นห่วงเป็นใยของพวกเขาเท่านั้น
นางตบที่ศีรษะของนางอย่างแรง
คล้ายดั่งว่านางลืมอะไรไปแล้ว แต่แท้ที่จริงแล้วนางลืมสิ่งใดกัน เพราะเหตุใดนางถึงนึกจำอะไรไม่ได้เลย
“อาหน่วน….”
คนมีอายุผมขาวจำนวนหนึ่งรีบเข้ามาประคองนาง กดที่จุดของนาง จากนั้นอุ้มนางกลับไปที่ห้องเพื่อรักษา
ตามด้วย นางเป็นลมไป
ช่วงระหว่างที่กำลังสะลึมสะลือ นางคล้ายดั่งได้ยินอยู่บางประโยค
“ไม่เช่นนั้น เรามาคลี่คลายพลังที่ผนึกในร่างกายของท่านหัวหน้าเผ่ากัน วันนี้ที่ผนึกของนางได้แตกสลายคลายครึ่งหนึ่ง ชี่แท้จำนวนหนึ่งก็ปะทุออกมาจากร่างของนาง และทะลวงอย่างต่อเนื่อง มันบุกรุกโจมตีอวัยวะกลวงอวัยวะตันของนาง หากเป็นอย่างนี้ต่อไป ร่างกายของนางจะไม่สามารถรับไหว ”
“ไม่ได้ ยังหาไข่มุกมังกรไม่ได้ทั้งหมด หากว่าพลังที่ผนึกคลายออก ไม่นานเผ่าเพลิงฟ้าจะรู้ฐานะของท่านหัวหน้าเผ่า พอถึงเวลานั้นเผ่าเพลิงฟ้าจะตามล่าท่านหัวหน้าเผ่า นั่น….”
“เผ่าเพลิงฟ้ามีอะไรที่น่ากลัว หากพวกเขากล้าที่จะทุ่มเทพลังทั้งเผ่ามาตามล่าท่านหัวหน้าเผ่าเรา เช่นนั้นพวกเราก็ใช้พละกำลังทั้งหมดของเผ่าจัดการพวกเขา”
“เจ้ารู้แต่การสู้รบฆ่าฟัน พละกำลังความแข็งแกร่งของเผ่าเพลิงฟ้ามหาศาล เจ้าสามารถสังหารเสร็จเรียบร้อยหรือไม่?หากพวกเขาอยู่เบื้องหลังขัดขวางพวกเราหาไข่มุกมังกรไม่เจอล่ะ?”
“อย่างมากก็ไม่หาไข่มุกมังกรแล้ว ช่วงปีที่ผ่านมาท่านหัวหน้าทุกข์ทรมานอย่างนี้ ข้ารับมันมากพอแล้ว อย่างมากทุกคนก็แค่ตายด้วยกัน”
“กล่าวเลอะเทอะอะไรกัน พวกเราแก่ๆไม่กี่คนตายก็คือตาย แต่เผ่าหยกยังมีชาวเผ่าอีกมากมาย เจ้ามีสิทธิอะไรไปแย่งเอาชีวิตของพวกเขา ?รีบช่วยท่านหัวหน้าเผ่า พละกำลังที่ผนึกของนางหากไม่ผนึกให้ดี ร่างกายของนางจะรับชี่แท้ที่ยิ่งใหญ่นี้ไม่ไหว จากนั้นจะปะทุแล้วดับสิ้นไป”
รอตอนที่นางตื่นมาอีกครั้ง คือถูกทำให้ตกใจตื่น
นางฝันเห็นชาวบ้านมากมายล้วนรอให้นางทำการรักษา แต่ทักษะทางการแพทย์ของนางไม่ดีพอ รักษาพวกเขาได้ไม่ดี ทำได้เพียงมองพวกเขาทรมานและตายจาก
กู้ชูหน่วนลุกขึ้นนั่งทันที พร้อมกับหายใจฮึดฮัด
“อาหน่วน รู้สึกเป็นอย่างไรบ้าง ยังมีตรงไหนที่เจ็บหรือไม่?”
กู้ชูหน่วนเลยส่ายหน้า
นอกเหนือจากท่านผู้เฒ่าไป๋เฉ่าแล้ว ที่นี่ยังมีคนสองคนในวัยห้าสิบกว่าด้วย แต่ละคนมีเคราสีขาวและผมสีขาวเหมือนกัน ดุจดั่งคนชรา
พอเห็นสถานการณ์ ผู้เฒ่าไป๋เฉ่าทอดถอนหายใจออกมายาวเหยียด
คนอื่นอีกสองคนจึงได้ทอดถอนหายใจอย่างโล่งอกเช่นกัน จิตใจที่บีบรัดแน่นนั้นได้คลายออกมาทันใด
ผู้อาวุโสเจ็ดกำยำล่ำสัน สูงสง่า น้ำเสียงของเขาดัง พอกล่าวพูดขึ้นได้ยินกันครึ่งค่อนหมู่บ้านได้
เขากล่าวด้วยน้ำเสียงคุ้นเคยว่า“เด็กคนนี้นี่นะ พลังที่ผนึกจะแตกสลายสองครั้งแล้ว อีกนิดแทบจะทำข้าใจวาย ท่านพูดสิหากท่านไม่อยากปิดผนึกจริงๆ….”
“แค้กๆ….”
ผู้อาวุโสห้าไอกระแอมขึ้น แสดงออกว่าให้เขาหุบปากได้แล้ว
ผู้อาวุโสเจ็ดยังอยากจะกล่าวอะไรบางอย่าง พอเห็นการกระทำสายตาของผู้อาวุโสห้าเขาเลยทำได้เพียงเงียบ
น้ำเสียงของผู้อาวุโสเจ็ดอ่อนโยน กล่าวขึ้นด้วยความรักใคร่เมตตาว่า“ท่านหัวหน้าเผ่า ร่างกายท่านอ่อนแอ ข้าได้บอกพวกเขาว่าอย่ามารบกวนแล้ว ช่วงนี้ท่านพักที่นี่เถิด สิ่งใดก็ไม่ได้สำคัญเท่ากับสุขภาพของท่าน”
กู้ชูหน่วนกล่าวทีละคำว่า“สรุปร่างกายของข้าผนึกสิ่งใดหรือ?”
นางไม่ใช่คนโง่นะ
สรุปอันไหนถึงเป็นร่างกายที่แท้จริงฐานะที่แท้จริง
บท