กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ – บทที่ 474

บทที่ 474

“ท่านอ๋องได้โปรดเมตตา ท่านอ๋องได้โปรดเมตตาด้วยพ่ะย่ะค่ะ ต่อไปบ่าวจะไม่กล้าอีกแล้ว”

“ลากตัวออกไป”

พ่อบ้านถูกลากออกไป และทุกคนก็ตื่นตระหนกมากยิ่งขึ้น

“ใครไปช่วยพระชายาหาหญิงสาวเหล่านี้?”

“กราบทูลท่านอ๋อง เป็น……เป็นผู้ดูแลสวีพ่ะย่ะค่ะ”

“ปลดเขาออกจากตำแหน่ง”

“พ่ะย่ะค่ะ”

เยี่ยจิ่งหานมองไปทางหญิงสาวที่ตัวสั่นเหล่านั้น

มีสาวงามที่ขี้ขลาดร้องออกมา “ท่านอ๋องโปรดไว้ชีวิตด้วยเจ้าค่ะ ต่อไปบ่าวไม่กล้าเข้ามาในจวนอ๋องแล้ว ท่านอ๋องโปรดไว้ชีวิตด้วย”

“ท่านอ๋องได้โปรดระงับโทสะ บ่าวจะปรนนิบัติรับใช้ท่านอ๋องเป็นอย่างดีเจ้าค่ะ”

“เจ้าเป็นใคร เจ้าคู่ควรที่จะปรนนิบัติรับใช้ข้างั้นหรือ ทหาร เอาตัวไปโบยยี่สิบไม้ และขับไล่ออกไปจากจวนอ๋อง ส่วนหญิงคนอื่น ๆ ไล่ออกไปให้หมด ต่อไปหากกล้าเข้ามาในจวนหานอ๋องอีก ข้าไม่เพียงแต่จะฆ่านาง แต่จะฆ่าทั้งครอบครัวของนางด้วย”

“เจ้าค่ะ ๆ ๆ ……”

คนเหล่านั้นหายไปในชั่วพริบตาเดียว

กู้ชูหน่วนตกตะลึง

นี่มันอะไรกัน?

หรือว่านางจะประจบสอพลอไม่ถูกจุด?

แต่วันนั้นเขาดูตำรากามสูตร และทฤษฎีการเลี้ยงบุตรไม่ใช่หรือ?

เขาไม่อยากแต่งงานและมีลูกหรือ?

เมื่อเห็นเยี่ยจิ่งหานสะบัดแขนเสื้อและเดินจากไป กู้ชูหน่วนก็รีบตามและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ท่านอ๋อง เมื่อครู่ท่านกล่าวว่าจะให้ม้วนหนังแกะโบราณแก่ข้า”

“ให้เจ้า?เหอะ……ใช่ข้าเคยกล่าวไว้ แต่ข้ายังประโยคข้างหน้าไว้ว่า หากของขวัญที่เจ้าให้นั้น ทำให้ข้าพอใจ ข้าจะไตร่ตรองที่จะให้สิ่งนั้นกับเจ้า แต่น่าเสียดายที่ข้าไม่ชอบของขวัญที่เจ้าให้ข้า”

นี่……

ผู้ชายอะไรกัน

พอโกรธกันก็เปลี่ยนอารมณ์เร็วกว่าเปลี่ยนหน้าหนังสือเสียอีก

หลังจากที่เยี่ยจิ่งหานจากไป ชิวเอ๋อร์ก็ทำหน้าตาบูดบึ้ง “คุณหนู ข้าบอกแล้วว่าทำเช่นนี้ไม่ได้ แต่ท่านก็ไม่เชื่อ มีภรรยาเอกที่ไหนหาหญิงสาวจำนวนมากเช่นนี้มาให้สามีของตนเอง”

“เจ้าจะเข้าใจอะไร”

“อย่างน้อยบ่าวก็รู้ว่าไม่สามารถปล่อยให้ผู้ชายของตนเองอยู่กับหญิงอื่นได้ แต่คุณหนูกลับยอมให้หญิงทั่วทั้งใต้หล้าอยู่กับท่านอ๋องได้”

กู้ชูหน่วนเกาหัวตัวเองด้วยความกลัดกลุ้มใจ

ผู้ชายใจแคบ ยากที่จะปรนนิบัติจริง ๆ และไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไรกันแน่

หรือ……

เป็นเพราะมอบหญิงสาวมากมายเช่นนั้นให้เขาต่อหน้าผู้คนจำนวนมากในจวน เขาหน้าบางและเขินอาย จึงพาลโกรธเอาดื้อ ๆ

กู้ชูหน่วนยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าเป็นไปได้

“ในครัวยังมีน้ำแกงหรือไม่?”

“น้ำแกง น้ำแกงอะไรเจ้าคะ?”

“น้ำแกงอะไรก็ได้ ของบำรุงกำลัง ขนม หรือผลไม้ก็ได้”

ชิวเอ๋อร์กลัดกลุ้มใจ “คุณหนู ท่านกำลังคิดจะทำอะไรเจ้าคะ”

“เหลวไหล พูดจาอะไร ข้าเป็นคุณหนูหรือเจ้าเป็นคุณหนูกันแน่ ทำตามที่ข้าบอก”

ชิวเอ๋อร์จึงไปนำจานผลไม้มาด้วยความกังวลใจ “คุณหนู นี่ล้วนแต่เป็นผลไม้ที่ท่านชอบที่สุด ท่านอยากกินอะไรอีกหรือไม่ ชิวเอ๋อร์จะไปเอามาให้”

“ไม่ต้อง แค่นี้ก็พอแล้ว”

กู้ชูหน่วนหยิบองุ่นแล้วโยนเข้าไปในปากแล้วกิน นางค่อย ๆ เดินไปที่ห้องตำราทีละก้าว

นางยื่นมือออกไปและกำลังจะผลักประตูห้องตำรา ชิวเอ๋อร์กล่าวอย่างกังวล “คุณหนู ท่านอ๋องยังโกรธอยู่ อย่างน้อยก็ควรรอให้ท่านอ๋องคลายความโกรธเสียก่อน แล้วค่อยเข้าไปนะเจ้าคะ”

“เจ้าจะรู้อะไร โกรธมากไปจะทำร้ายร่างกาย หากท่านอ๋องเป็นอะไรไปจะทำอย่างไร ข้าครุ่นคิดต้องคิดแทนเขา”

ในห้องตำรา เยี่ยจิ่งหานโกรธมากจนทำอะไรไม่ถูก

เขาอยากจะผ่าสมองของกู้ชูหน่วนออกมาดูว่ามีอะไรอยู่ข้างใน

“ก๊อก ๆ ……” เสียงเคาะประตูดังขึ้น

เยี่ยจิ่งหานจัดเสื้อผ้าของตนเอง และแสร้งทำเป็นไม่พอใจ “เข้ามา”

“ท่านอ๋อง ว่ากันว่าให้กินผลไม้หลังอาหาร เพื่อช่วยย่อยอาหาร ข้าจึงนำผลไม้มาให้ท่านกิน สดมากเจ้าค่ะ ท่านลองชิมดู”

“เจ้าบอกข้ามาก่อนว่าเจ้ากำลังคิดอะไรอยู่”

“คำพูดนี้ ดูเหมือนว่าทุกครั้งที่ข้านำของกินมาให้ท่าน จะต้องมีจุดประสงค์อะไร”

“หรือว่าไม่ใช่?” เยี่ยจิ่งหานต่อว่าอย่างไม่พอใจ

กู้ชูหน่วนลูบคางราวกับว่ามันก็เป็นเรื่องจริง

นางยิ้มอย่างเขินอาย “ท่านอ๋อง ท่านไม่เพียงแต่จะเป็นสุภาพบุรุษ แต่ท่านยังเป็นท่านอ๋องของราษฎรชาวรัฐเยี่ย เป็นเทพแห่งสงครามผู้คอยปกป้องราษฎรชาวรัฐเยี่ย ท่านจะใจแคบเช่นนี้ได้อย่างไร ข้าตั้งใจจะนำผลไม้มาให้ท่าน ท่านไม่ซาบซึ้งใจก็ไม่เป็นไร แต่ทำไมท่านต้องกล่าวหาข้าด้วย ผลไม้เหล่านี้ ข้าเลือกและล้างด้วยตนเองทุกลูก เพื่อนำมาให้ท่าน ดูสิ มือของข้ามีรอยเต็มไปหมด”

สายตาที่เยี่ยจิ่งหานอ่านตำรา หลุดลอยไปอย่างไม่ได้ตั้งใจ

แต่มือของกู้ชูหน่วนนั้นเรียบและไม่มีรอยใด ๆ

หรือเป็นเขาที่มองอย่างรวดเร็วเกินไป จึงมองไม่ชัดเจน?

“ท่านอ๋อง ท่านเห็นแก่ที่ข้าล้างผลไม้มาให้ท่านอย่างยากลำบาก ท่านลองชิมสักลูกเถิด มา ท่านลองชิมองุ่นดู หวานมาก”

เยี่ยจิ่งหานยังไม่ทันจะตอบ กู้ชูหน่วนก็ยัดองุ่นเข้าไปในปากของเขาหนึ่งลูก แล้วหยิบขึ้นมากินเองอีกหลายลูก นางโยนขึ้นไปในอากาศ แล้วอ้าปากรับ

“เป็นอย่างไรบ้าง ทวานใช่หรือไม่”

รสชาติหวานใช้ได้เลย

แต่ความหวานเหล่านี้ ไม่อาจระงับไฟในใจของเขาได้

“มา กินอีกสักลูก”

“กู้ชูหน่วน ข้าอนุญาตให้เจ้าป้อนแล้วหรือ?”

“ที่นี่ไม่มีคนนอก จะแสร้งทำเป็นสำรวมทำไมกัน”

“เจ้า……”

ทันใดนั้นกู้ชูหน่วนก็เอานิ้วมือทั้งสิบมาปิดใบหน้าไว้ และกล่าวอย่างยอมรับผิด “ข้าผิดไปแล้ว ท่านอ๋อง ต่อไปหากไม่มีคำสั่งจากท่าน ข้าจะไม่ป้อนองุ่นเข้าไปในปากของท่านอีก ท่านให้อภัยข้าสักครั้งเถิด ข้าเพียงแค่เจตนาดี และอยากจะแบ่งปันองุ่นที่หวานที่สุดให้กับท่าน”

แม้จะรู้ว่านางเสแสร้ง แต่เยี่ยจิ่งหานก็ไม่สามารถมองทนเห็นสายตาที่ไม่ได้รับความเป็นของนางได้

โดยเฉพาะประโยคของนาง นางต้องการแบ่งปันองุ่นที่หวานที่สุดให้กับเขา

เยี่ยจิ่งหานหยิบองุ่นด้วยตัวเองหนึ่งลูกและค่อย ๆ กิน

เมื่อเห็นเช่นนี้ กู้ชูหน่วนจึงถือโอกาสเข้าไปใกล้เขา และกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ท่านอ๋อง เมื่อครู่เป็นข้าที่หุนหันพลันแล่นมากเกินไป ข้าไม่ควรหาหญิงสาวมากมายเช่นนั้นมาให้ท่าน ข้าสัญญาว่าต่อไปจะไม่ทำอีก ท่านใจเย็น ๆ ”

“สำนึกผิดแล้วหรือ?”

“สำนึกแล้วเจ้าค่ะ เป็นข้าที่ทำมากเกินไป”

“เจ้าผิดตรงไหน?” สีหน้าของเยี่ยจิ่งหานดีขึ้นเล็กน้อย

“ผิดที่ไม่ควรยัดเยียดสาวงามให้ท่านต่อหน้าผู้คนจำนวนมาก”

“แล้วอย่างไรอีก” เยี่ยจิ่งหานขมวดคิ้ว ทันใดนั้นองุ่นในปากของเขาก็กลับไม่หวานแล้ว

“แล้วอีกอย่าง ต่อไปข้าจะยัดเยียดสาวงามให้ท่านอย่างเงียบ ๆ และรับรองว่าจะไม่มีใครรู้เรื่องนี้โดยเด็ดขาด”

“ปัง…..” เยี่ยจิ่งหานตบโต๊ะและเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง

กู้ชูหน่วนสะดุ้งตกใจอย่างบอกไม่ถูก และโกรธขึ้นมาในทันที

“เยี่ยจิ่งหาน ท่านเป็นอะไรไป?หากป่วยก็รีบไปรักษา”

“หากเจ้าไม่ทำให้ข้าโกรธ เจ้าก็จะไม่หยุดใช่หรือไม่?” เหลวไหล หรือว่านางดูไม่ออกว่าเขาสนใจนางเพียงผู้เดียว?

“ตอนนี้เป็นท่านที่โกรธข้า เห็นได้ชัดว่าข้าหาสาวงามมาให้ท่าน แต่ท่านก็ไม่เอา นำผลไม้มาให้ท่าน ท่านก็โกรธ แล้วท่านต้องการอะไร?สวรรค์หรือ?”

“ข้าต้องการเพียงเจ้าเท่านั้น”

จากนั้นเยี่ยจิ่งหานก็ออกแรงที่เอวของเขา จนทำให้กู้ชูหน่วนล้มลง และจูบปากของนาง

โครม……

กู้ชูหน่วนตกตะลึง

เยี่ยจิ่งหานก็ตกตะลึงเช่นกัน

พวกเขาไม่คิดว่าจะมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกันอีกครั้งในเวลาเช่นนี้

กู้ชูหน่วนกะพริบตา และกล่าวอย่างคลุมเครือว่า “ท่านอ๋อง ท่านต้องการมีความสัมพันธ์กับข้า แล้วท่านจะให้ม้วนหนังแกะโบราณกับข้าใช่หรือไม่?”

ขนตาที่เหมือนปีกผีเสื้อของเยี่ยจิ่งหานกะพริบ และจนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่รู้ว่าเขาจูบกับกู้ชูหน่วนได้อย่างไร

กู้ชูหน่วนคิดว่าเขายอมรับ

นางกัดฟัน

ก็แค่นี้เอง

ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่มีอะไรกับเขา

และอีกอย่างชายผู้ก็รูปร่างหน้าตาดี ไม่มีอะไรเสียหาย

กู้ชูหน่วนเปลี่ยนจากรับเป็นรุก นางกอดเยี่ยจิ่งหานไปพลาง เร้าอารมณ์เพิ่มไปพลาง

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท