กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 465
“ไม่ต้อง หลีกไปให้หมด”
หมอหลวงท่านหนึ่งอธิบายด้วยรอยยิ้ม “ท่านอ๋อง ผู้ที่ตั้งครรภ์มีอารมณ์แปรปรวนนัก สถานการณ์ของพระชายาถือว่าปกติ กระหม่อมจะสั่งยาสงบจิตให้พระชายาเสวยสองสามสำรับก็จะดีขึ้นมาแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
ท่าทีไม่พอใจของเยี่ยจิ่งหานลดลงบางส่วน
เขาบังเกิดแววตาหนึ่งขึ้นและก็มีหมอหลวงยิ้มพูดจาประจบในทันทีว่า “พระชายาพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยจะตรวจชีพจรให้ดีจะใช้เวลาของท่านไม่นานหรอกพ่ะย่ะค่ะ ท่าน……”
จู่ๆกู้ชูหน่วนก็กุมท้องด้วยความเจ็บปวดพร้อมกับขมวดคิ้วแล้วกล่าวว่า “ท้องของข้าช่างเจ็บปวดยิ่งนัก หรือว่าอาหารที่ทานเมื่อครู่นี้ไม่สด? ข้าเจ็บปวดยิ่งนัก ข้าเจ็บปวดยิ่งนัก หลีกไปหน่อย ข้าจะไปนั่งย่อเข่าที่สวมหลุม”
กล่าวแล้วกู้ชูหน่วนก็ผลักฝูงชนออกและจากไปอย่างร้อนรน
หมองหลวงหลายสิบคนตกใจจึงได้เดินตามกู้ชูหน่วนราวกับเงาและรอให้นางออกมาจากห้องน้ำ โดยที่เกรงว่าหากเกิดเหตุไม่คาดคิดใดขึ้นกับนางเทพแห่งสงครามจะจัดการกับพวกเขาก่อน
“นายท่าน อาจเพราะช่วงไม่กี่วันมานี้พระชายานอนกลางดินกินกลางทรายจึงทำให้ปวดกระเพาะไม่น่าจะมีสิ่งใดร้ายแรง”
“ชิงเฟิง เจ้าว่าคนที่ตั้งครรภ์ได้สามเดือนกว่าจะไม่มีอาการตอบสนองบ้างเลยหรือ?”
“คือ……เป็นเพราะพระชายาผอมเกินไปหรือเปล่าพ่ะย่ะค่ะ?”
เยี่ยจิ่งหานมองไปยังหมอหลวงสองสามคนที่ยืนอยู่ข้างๆ
หมอหลวงเฉินกล่าวว่า “ตอบกลับท่านอ๋องโดยปกติแล้วผู้ที่ตั้งครรภ์ได้สามเดือนกว่าก็ดูออกแล้ว ที่ดูไม่ออกว่าพระชายากำลังตั้งครรภ์บางทีอาจเนื่องจากร่างกายอ่อนแอเกินไป”
หมอหลวงสวี่กล่าวว่า “แม้ว่าผู้ที่ตั้งครรภ์สามเดือนกว่าจะสามารถดูออกได้แต่ในขณะที่พระสนมเอกแห่งจักรพรรดิพระองค์ก่อนทรงพระครรภ์สามเดือนกว่าในปีนั้นก็ไม่ดูไม่ออกเช่นกัน ตอนนั้นยังเกิดเรื่องวุ่นวายกันไปพักหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ”
เยี่ยจิ่งหานแววตาสับสน ดวงตาคู่เยือกเย็นราวกับสระน้ำที่มองไม่เห็นก้นสระนั้นทำให้ดูไม่ออกว่าเขากำลังคิดสิ่งใดอยู่
ในห้องส้วม
กู้ชูหน่วนค้นหาในวงแหวนอวกาศเป็นเวลานาน แต่ไม่พบยาใดๆที่สามารถสร้างการตั้งครรภ์ปลอมได้
โทษที่นางประมาทไป คิดแต่ที่จะตามหาไข่มุกมังกรให้พบจึงได้ลืมเรื่องนี้ไปหมด และไม่ได้เตรียมยาเช่นนี้เอาไว้
หนังศีรษะของกู้ชูหน่วนชา
เหตุใดกลับมาก็พบเจอเรื่องเช่นนี้เข้านะ?
ตอนนี้จะทำอย่างไรดี?
ยอมรับว่าตนเองตั้งครรภ์ปลอม?
ไม่ได้ จะไม่ถูกเยี่ยจิ่งหานทุบตีจนตายไปเลยหรือ
หาข้ออ้างจัดการหมอหลวงเหล่านี้ออกไป?
ถึงแม้ว่าจะจัดการออกไปแล้ว หลีกเลี่ยงวันที่หนึ่งได้แต่ก็หนีวันที่สิบห้าไม่พ้น
ยิ่งกว่านั้น……สายตาเมื่อครู่ของเยี่ยจิ่งหานแสดงถึงความสงสัยอย่างชัดเจนแล้ว
บอกว่าลูกของเขาแท้งไปหรือ?
ก็ไม่ได้ หมอหลวงเหล่านั้นก็ไม่ใช่คนโง่ ชีพจรเช่นนี้ก็ยังคงสามารถตรวจออกมาได้อยู่ดี
“พระชายาเพคะ ท่านเรียบร้อยแล้วหรือไม่?”
“จะเสร็จแล้วจะเสร็จแล้ว อย่าได้ส่งเสียงดัง”
“พระชายาเพคะ ท่านอยู่ด้านในเป็นเวลานานมากแล้ว หรือว่ารู้สึกว่าร่างกายไม่สบายหรือเปล่า?”
“ข้าสบายดี”
น้ำเสียงของกู้ชูหน่วนไม่ดีนัก สาวใช้สองสามคนจึงไม่กล้ากล่าวอีก
เยี่ยจิ่งหานค่อยๆเดินเข้ามาแล้วถามว่า “พระชายายังไม่ออกมาอีกหรือ?”
“ตอบกลับท่านอ๋อง ใช่เพคะ พระชายาบอกให้พวกเราอย่าได้วุ่นวายเพคะ”
“ข้าจะเข้าไปเอง”
กู้ชูหน่วนที่อยู่ด้านในเมื่อได้ยินประโยคนี้ก็เกือบสะดุด “ข้าเข้าห้องน้ำอยู่ท่านก็จะเข้ามา? เกิดสิ่งใดผิดพลาดหรือเปล่า?”
“เจ้าเป็นภรรยาของข้า กับสามีของตนจะมีข้อห้ามอันใดกัน?”
เยี่ยจิ่งหานผลักประตูออกยกเท้าขึ้นก็ต้องการที่จะเข้าไปด้านใน
กู้ชูหน่วนกัดฟันและยืนขึ้นจากด้านหลังฉากกั้นก่อน
นางฝืนทนกล่าวว่า “ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าท่านอ๋องก็มีความชอบเช่นนี้”
“ความชอบของข้ารวมกันก็ไม่มากเท่ากับเศษเสี้ยวของพระชายา”
“……”
เจ้านี่หมายความว่าเช่นไร?
เสียดสีนางหรือ?
“ในเมื่อพระชายาไม่เป็นไรแล้วงั้นก็ให้หมอหลวงตรวจชีพจรเถอะ”
“ท่านก็บอกว่าข้าไม่เป็นไรแล้วยังจะตรวจชีพจรอันใดอีก ข้าง่วงแล้ว หลีกไป”
“ป่วยก็ต้องรักษาและป้องกันขณะไม่มีโรคภัย นี่คือสิ่งที่พระชายาเคยบอกข้าเมื่อก่อนนี้”
มือทั้งสองของกู้ชูหน่วนกอดอกและยิ้มเย้ย “ท่านตั้งใจที่จะไม่ให้ข้ากลับไปนอนใช่หรือไม่?
“ข้าก็หวังดีต่อพระชายา พระชายาปฏิเสธที่จะตรวจชีพจรมาโดยตลอด เป็นไปได้ไหมว่ามีแผนการณ์อยู่ในใจ?”
“ท่านสิมีเหตุการณ์อยู่ในใจ คนทั้งครอบครัวของท่านก็มีแผนการณ์อยู่ในใจ ต้องการตรวจชีพจรใช่ไหม ได้ งั้นก็ตรวจเถอะ แต่ว่าให้มันเร็วๆหน่อยอย่าได้เสียเวลานอนของข้า”
กู้ชูหน่วนหาที่ที่สะดวกสบายนั่งลงจากนั้นพับแขนเสื้อของตนขึ้นและมองทุกคนที่อยู่ตรงนั้นอย่างเฉยเมย
เมื่อครู่นางยังผลัดเรื่องแต่ตอนนี้นางเปิดกว้างเช่นนี้ทำให้เยี่ยจิ่งหานอดงุนงงมากขึ้นไม่ได้
เขาชำเลืองสายตามองไปท่านหมอก็เข้าใจในทันที แต่ละคนวางผ้าไหมลงบนมือของกู้ชูหน่วนและจับชีพจรผ่านผ้าไหม
ท่านหมอคนแรกขมวดคิ้วเข้ม
เยี่ยจิ่งหานยกใจขึ้น “เป็นอย่างไรบ้าง?”
นางคงจะไม่โกหกเขาด้วยการแกล้งตั้งครรภ์หรอกนะ?
เยี่ยจิ่งหานไม่กล้าจินตนาการว่าหากกู้ชูหน่วนแกล้งตั้งครรภ์ เขาควรทำอย่างไรกับนาง?
ท่านหมอเหงื่ออันเย็นไหล “คือว่า……ชีพจรของพระชายาค่อนข้างแปลก ข้าน้อย……ข้าน้อยตรวจไม่พบเลย”
เขารีบลุกจากที่นั่ง หลังจากที่ท่านหมอด้านหลังหลายท่านจับชีพจรแล้วก็แปรเปลี่ยนสีหน้าเช่นเดียวกัน และยังคงปาดเหงื่ออันเย็นเฉียบโดยที่ไม่สามารถกล่าวอาการที่ตรวจออกมาได้
เมื่อถึงหมอหลวงเฉิน หมอหลวงเฉินก็เป็นเช่นเดียวกัน เยี่ยจิ่งหานตบโต๊ะอย่างกระทันหันแม้ไม่ได้โมโหแต่ก็ไม่พอใจนัก
ท่านหมอทั้งหลายตกใจและต่างก็คุกเข่าบนพื้นเสียงดังตุ๊บ
“พระชายาเป็นเช่นไรกันแน่ หากไม่สามารถบอกออกมาได้ วันนี้หัวของพวกเจ้าทั้งหมดก็ทิ้งเอาไว้ซะ”
“ท่านอ๋องขออย่าได้ทรงกริ้ว ชีพจรของพระชายาช่างประหลาดนักราวกับว่าได้ถูกยาพิษ แต่ก็เหมือนจะไม่ถูกพิษ ชีพจรของนางอ่อนนัก ดูเหมือนว่าในร่างกายมีชี่แท้กำลังฉีกขาดอยู่ตลอดและกัดกร่อนชีวิตนางอยู่อย่างต่อเนื่อง ”
เยี่ยจิ่งหานได้ยินประโยคหนึ่งทุกครั้งสีหน้าก็หมองลงบางส่วน
“ชีพจรอ่อนแรง? ในร่างกายมีชี่แท้มากมายฉีกขาดอยู่? ชีวิตถูกกัดกร่อนไม่หยุดหย่อน?”
“พ่ะย่ะค่ะๆ……แต่ว่า……แต่ว่าหากตรวจชีพจรอย่างละเอียดถึงแม้ว่าชี่แท้เหล่านั้นกำลังฉีกขาดทว่ากำลังเรี่ยวแรงก็ราวกับไม่ได้สูญเสีย พระชายาราวกับว่ามีอาการป่วยแล้วก็ราวกับไม่มีอาการป่วย
ชู่ว์……
อุณหภูมิในอากาศลดลงอย่างกะทันหันซึ่งเย็นเฉียบเสียจนทำให้พวกเขาเนื้อตัวสั่นสะท้าน
เหล่าท่านหมอยิ่งหวาดกลัวมากขึ้นไปอีก ร่างกายสั่นสะท้านราวกับกระด้งไม่ไผ่
“ท่านอ๋องขออย่าได้ทรงกริ้ว ท่านอ๋องขออย่าได้ทรงกริ้วพ่ะย่ะค่ะ”
“ข้าจะถามพวกเจ้าอีกครั้ง ร่างกายพระชายาเป็นอย่างไรกันแน่?”
“พระชายา……ร่างกายพระชายาค่อนข้างอ่อนแอต้อง……ต้องบำรุงดูแลให้ดี”
“แล้วพระชายาป่วยเป็นโรคภัยหรือไม่?”
“คือว่า……คือว่า……คือว่า……เพียงแค่พระชายาดูแลบำรุงให้ดีและพักผ่อนให้มากก็ไม่เป็นไรแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
สีหน้าของเยี่ยจิ่งหานหมองลงและพุ่งประโยคหนึ่งระหว่างฟันออกมา “เป็นหมอต้มตุ๋นทั้งนั้น แล้วเด็กในท้องของพระชายาหล่ะยังแข็งแรงหรือไม่?”
“แข็งแรง แข็งแรงมากพ่ะย่ะค่ะ ท่านอ๋องวางใจได้ ท่านอ๋องจะสามารถให้กำเนิดท่านอ๋องน้อยได้อย่างปลอดภัยเป็นแน่”
พวกท่านหมอปาดเหงื่อไม่หยุด
ชีพจรของพระชายาเป็นชีพจรมงคลแต่ก็ไม่เหมือนการตั้งครรภ์ พวกเขาก็ไม่แน่ใจว่าพระชายาตั้งครรภ์หรือไม่กันแน่
แต่ว่าก่อนหน้านี้ท่านอ๋องได้เชิญท่านหมอมากมายมาตรวจดูพระชายา และในตอนนี้ก็มีท่านหมอจำนวนมากมาตรวจดูพร้อมกันซึ่งพวกเขาก็ไม่ได้บอกว่าพระชายาไม่ได้ตั้งครรภ์ คิดว่าก็คงจะมีกระมัง เพียงแต่ว่า……
เพียงแต่ว่าชีพจรมงคลนี้ก็ช่างอ่อนเกินไปกระมัง?
กู้ชูหน่วนหาวขึ้นพร้อมสีหน้าท่าทีอันเหนื่อยหล้า “ตรวจเสร็จแล้วใช่ไหม? ตรวจเสร็จแล้วข้าจะไปอาบน้ำพักผ่อนแล้ว”
“หากว่าร่างกายของพระชายาไม่สบายแม้เพียงเล็กน้อยข้าจัดการกับหัวของพวกเจ้าก่อน”
“พ่ะย่ะค่ะๆๆ……”
“ไปให้พ้น”
ท่านหมอสามสี่สิบคนรีบถอยออกไป ในห้องนอนอันโอ่อ่าเหลือเพียงกู้ชูหน่วน เยี่ยจิ่งหาน และชิงเฟิงชิวเอ๋อร์กับคนอื่นๆเท่านั้น
น้ำเสียงอันทนทุกข์ของกู้ชูหน่วน “โอ๊ย ชีวิตข้าแสนลำบากจริงๆ ไม่ง่ายเลยที่จะรอดจากความตายมาได้และเก็บชีวิตกลับมาได้อย่างร้อนรนแต่กลับถูกสามีของตนเองสงสัย”