กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ – บทที่ 541

บทที่ 541

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 541
ยังไม่ทันที่ผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลานพูดจบ เยี่ยจิ่งหานก็พูดแทรกขึ้นมาโดยไม่ให้เกียรติแก่ผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลานเลยแม้แต่นิดเดียว

ผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลานกวาดสายตามองไปยังเยี่ยจิ่งหานอย่างเย็นชาและหันไปพูดกับจอมมาร “นอกจากคนแรกทางขวามือแล้ว ก็จะเหลือเพียงคนที่สองทางซ้ายมือแล้ว จอมมาร เชิญท่านตามสบายเลย งานชุมนุมแบ่งปันยาอายุวัฒนะได้เริ่มขึ้นแล้ว ทุกคนก็อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตากันแล้ว คงไม่ต้องให้ทุกคนรอท่านเพียงคนเดียวหรอกกระมัง”

จอมมารยกมือขึ้น “ฉะนั้น นี่เป็นวิธีการปฏิบัติต่อแขกของชาวหุบเขาตันหุยหรือ? เช่นนั้นข้าก็ขอพูดเอาไว้ตรงนี้เลยว่า วันนี้หากชาวหุบเขาตันหุยไม่จัดเตรียมที่นั่งที่ดีให้กับข้า เช่นนั้นก็ไม่จำเป็นต้องจัดงานชุมนุมแบ่งปันยาอายุวัฒนะนี้อีกต่อไปแล้ว”

ซี๊ด……

ทุกคนต่างพากันตื่นตระหนกตกใจ

ตามความหมายของจอมมารแล้วนั้น หากหุบเขาตันหุยไม่สามารถจัดที่นั่งที่ดีให้กับเขาได้ เช่นนั้นแล้วเขาก็จะทำสงครามกับทุกคนบนโลกใบนี้?

จอมมารช่างอันธพาลและเย่อหยิ่งอย่างมากเลยทีเดียว

ต่อให้กองกำลังของเผ่าปีศาจจะยิ่งใหญ่และแข็งแกร่งมากเพียงใด แต่หากต้องสู้รบกับทุกฝ่ายแล้วละก็ เช่นนั้นก็คงไม่เป็นการดีหรอก

อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นรัศมีของจอมมารที่มุ่งมั่นจะทำการต่อสู้กับทุกคนและจ้องมองทุกคนอย่างดูถูกเหยียดหยาม เขาพูดคำพูดที่โอหังโอ้อวดออกมา

“หากใครคิดช่วยหุบเขาตันหุยละก็ เช่นนั้นก็เท่ากับเป็นศัตรูของเผ่าปีศาจของข้า หากพวกเจ้าทุกคนให้ความช่วยเหลือหุบเขาตันหุย เช่นนั้นข้าก็จะทำให้พวกเจ้าทุกคนต้องจบชีวิตไปให้หมดสิ้น”

ร้ายกาจ……

ช่างคลุ้มคลั่งเหลือเกิน

แม้ว่ากองกำลังขนาดเล็กจะรู้สึกไม่พอใจ แต่กลับไม่มีใครกล้าพูดออกมาและทำได้เพียงเก็บไว้ในใจ

ฮวาฉี่หลัวทำปากบูดบึ้งและดึงกระโปรงของไป๋จิ่นพูดออกมาด้วยความไม่พอใจ “ท่านพี่ไป๋ ท่านดูสิ เขาอันธพาลและผยองมากเกินไปแล้ว”

“หยุดพูดจาเหลวไหล อย่าลืมจุดประสงค์ของการมายังหุบเขาตันหุยของเราสิ”

ยิ่งไปกว่านั้น หากกู้ชูหน่วนเป็นผู้ส่งสารศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาจริง เช่นนั้นแล้วจอมมารก็ถือเป็นเพื่อนของผู้ส่งสารศักดิ์สิทธิ์

หากจอมมารคิดเป็นศัตรูกับทุกคน เช่นนั้นแล้วเผ่าน้ำแข็งของพวกเขาก็ไม่เกรงกลัวที่จะเป็นศัตรูกับทุกคนเช่นกัน

น่าหลานหลิงลั่วกำหมัดแน่น ระงับความโกรธไว้ในใจ

ผู้นำแห่งหุบเขาน่าหลานรู้นิสัยของเขาดีและพูดด้วยเสียงแผ่วเบา “หลิงลั่ว ที่นี่มีพ่อบุญธรรมอยู่ เจ้าไปจัดการเรื่องนักปรุงยาเสียเถอะ”

น่าหลานหลิงลั่วพูดเสียงดัง “การชุมนุมแบ่งปันยาอายุวัฒนะได้เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว”

เมื่อคำนี้พูดออกไป เท่ากับว่าไม่ได้ให้เกียรติจอมมารเลยแม้แต่นิดเดียว

นักปรุงยาเดินออกไปตามลำดับ กู้ชูหน่วนได้สมัครเข้าร่วมการแข่งขันปรุงยาด้วย จึงทำให้มีรายชื่ออยู่ในนั้น

นางเดินออกไปท่ามกลางนักปรุงยาคนอื่นๆ

ถึงแม้ว่านางจะโพกผ้าคลุมปิดบังใบหน้าเอาไว้และเปลี่ยนเป็นชุดของนักปรุงยา แต่นางก็ถูกเหวินเส่าอี๋ เยี่ยจิ่งหาน จอมมารและรวมไปถึงน่าหลานหลิงลั่วรู้ได้

จอมมารที่กำลังเดือดจัดเมื่อเห็นกู้ชูหน่วนเข้าก็ทำให้ความสนใจของเขาเปลี่ยนไปทันที

“ท่านพี่หญิง……”

จอมมารดีใจและตะโกนออกมา เขากำลังคิดจะวิ่งไปหากู้ชูหน่วน

แต่กู้ชูหน่วนกลับถูกเยี่ยจิ่งหานดึงไปตรงที่นั่งของเขา

“พระชายา เจ้าปล่อยให้ข้าตามหาเสียนานเลย”

จอมมารพูดขึ้นอย่างโกรธเคือง “เยี่ยจิ่งหาน ปล่องนางเดี๋ยวนี้ นางเป็นผู้หญิงของข้า”

น่าหลานหลิงลั่วเก็บกดความโมโหเอาไว้ในใจ

เขาจะไม่คิดเล็กคิดน้อยกับคนไร้สติปัญญาเช่นนี้ ถึงอย่างไรเสียอาหน่วนก็ไม่มีทางชอบพวกเขา

“โอ้……ข้าไม่เคยรู้เลยว่า พระชายาไปเป็นผู้หญิงของจอมมารตั้งแต่เมื่อไร ไม่เช่นนั้นเจ้าเล่าให้ข้าฟังอย่างละเอียดได้หรือไม่ หากเจ้าชอบในตัวจอมมารจริงละก็ ไม่แน่ข้าก็อาจยอมหย่าร้างกับเจ้าก็ได้”

เยี่ยจิ่งหานกำลังหัวเราะ แต่เสียงหัวเราะและรอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยความตักเตือน

กู้ชูหน่วนอยู่ข้างกายของเขา นางก็สามารถรับรู้ได้ถึงรังสีอำมหิตที่แผ่ซ่านในตัวของเขา

หากเพียงนางกล้าพูดว่าใช่ นางเชื่อเลยว่าเยี่ยจิ่งหานจะต้องสับนางให้ละเอียดเป็นชิ้นๆ อย่างแน่นอน

“ท่านพี่หญิง เจ้ารีบบอกเขาสิว่าท่านตอบตกลงจะแต่งงานกับข้าแล้ว”

กู้ชูหน่วนจ้องมองเขาและเบะปากพูดออกมา “เจ้าหุบปากไปเสียเถอะ ข้าไปตอบตกลงเจ้าตั้งแต่เมื่อไรว่าข้าจะแต่งงานกับเจ้า เจ้าช่างไร้ยางอายเสียเหลือเกินเจ้าหมาน้อย”

ซี๊ด……

ทุกคนต่างพากันเสียววาบอ้าปากค้าง

พระ…..พระชายาเยี่ยตะโกนใส่จอมมารว่าอะไรนะ?

เจ้าหมาน้อย?

พวกเขาได้ยินผิดไปหรือเปล่า?

นางช่างกล้าหาญเหลือเกินที่กล้าเรียกจอมมารว่าเจ้าหมาน้อย ด่าได้เจ็บแสบเหลือเกิน

ทุกคนคิดว่าจอมมารจะโกรธจัด แต่กลับคาดไม่ถึงว่าจอมมารจะยิ้มและดูราวกับเป็นเด็กน้อยที่ขี้อ้อน “ไม่เช่นนั้น ข้าแต่งงานกับท่านก็ได้ แล้วท่านก็เลี้ยงดูข้าสิ”

“ไสหัวไปไกลๆ ข้ายังเลี้ยงตัวเองไม่รอดเลย”

นี่ นี่ นี่……

นางกลับกล้าสั่งให้จอมมารไสหัวไป……

ผู้หญิงคนนี้ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วหรือ?

และสิ่งที่ยิ่งทำให้พวกเขาตกตะลึงมากไปกว่านั้นคือ จอมมารกลับไม่สนใจและขยับตัวเข้าไปใกล้ “เช่นนั้นท่านก็แต่งงานกับข้า ข้าจะเลี้ยงดูท่านเอง”

“……”

กู้ชูหน่วนอดไม่ได้และอยากจะดีดกะโหลกของเขาสักที

เจ้าหมาน้อยตัวนี้ เขาตาบอดหรืออย่างไรกัน?

เขาไม่เห็นสีหน้าอันเคร่งขรึมดุดันของเยี่ยจิ่งหานหรือยังไง นางยังต้องการมีชีวิตต่อไปอีกนะ

ตอนนี้เยี่ยจิ่งหานกำลังจ้องมองนางอยู่ จ้องมองจนนางรู้สึกหวาดกลัวขนหัวลุกและรู้สึกไม่สบายไปทั้งตัว

กู้ชูหน่วนพูดออกมาอย่างติดขัด “เอ่อ……ประเดี๋ยวก็ได้เวลาเริ่มงานแข่งขันการปรุงยาแล้ว ข้าลงชื่อสมัครเข้าร่วมการแข่งขัน หากมีธุระอะไรละก็ เช่นนั้นก็รอให้จบการแข่งขันเสียก่อนได้หรือไม่?”

ทุกคนต่างอยู่ตรงนั้นต่างพากันหัวเราะเยาะ

นางมาเพื่อปรุงยาหรือ?

นางคิดว่ายาอายุวัฒนะถูกปรุงขึ้นมาอย่างง่ายดายอย่างนั้นหรือ?

“พระชายาของข้าไม่จำเป็นต้องปรุงยาเล่นแร่แปรธาตุ หากเจ้าต้องการ เช่นนั้นข้าก็จะซื้อให้เจ้า แต่เจ้าจำเป็นต้องอธิบายให้ข้าฟังอย่างละเอียด ซือม่อเฟยและน่าหลานหลิงลั่วสองคนนี้เกี่ยวข้องอะไรด้วย?”

กู้ชูหน่วนสะบัดออกจากเขาหลายครั้งก็ไม่สามารถหลุดพ้นออกจากเยี่ยจิ่งหานได้เลย จากนั้นนางจึงรู้สึกร้อนรนขึ้นมา

“ข้าพูดไปแล้วว่ารอให้งานแข่งขันปรุงยาจบสิ้นลงเสียก่อน จากนั้นข้าจะค่อยๆ อธิบายให้ท่านฟังอย่างละเอียด ตอนนี้จะไม่ทันเวลาแล้ว ท่านรีบปล่อยมือเถอะ”

“ปัง……”

ฮวาฉี่หลัวตบโต๊ะเสียงดังและชี้หน้าด่าเยี่ยจิ่งหาน “ต่อให้ท่านเป็นสามีของท่านพี่กู้ เช่นนั้นท่านก็ไม่สามารถบีบบังคับให้ท่านพี่ต้องทำสิ่งที่ไม่ยินดีได้ หากท่านไม่ปล่อยมือท่านพี่ ข้าจะ……ข้าจะจัดการท่านให้ล้มลงเดี๋ยวนี้”

ทุกคนต่างตกตะลึง

เผ่าน้ำแข็งพูดปกป้องกู้ชูหน่วน?

กู้ชูหน่วนกะพริบตาด้วยความประหลาดใจ

เมื่อวานเด็กสาวคนนี้ยังมีท่าทางดุร้ายจนแทบจะฆ่านางอยู่เลย

แต่ตอนนี้กลับพูดปกป้องนาง แถมยังเรียกนางว่าท่านพี่กู้ นางไม่ได้ฝันไปใช่หรือไม่?

ยังไม่ทันที่ทุกคนจะดึงสติกลับมาได้ จอมมารก็พุ่งเข้าไป

เขาลงมืออย่างหนัก แต่ละกระบวนท่านั้นโหดร้ายและรุนแรงอย่างมาก ไม่แม้แต่จะยอมอ่อนข้อได้เลย

ตอนนี้ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ตรงหน้าเอาไว้ได้

ไม่ว่าจอมมารหรือเยี่ยจิ่งหาน ทั้งสองล้วนเป็นยอดนักรบระดับสูงสุดแห่งยุค พวกเขาต่อสู้กันเช่นนี้ หุบเขาตันหุยจะต้องพังถล่มทลายอย่างแน่นอน โชคดีที่บนเวทีการแข่งขันมีค่ายกาลอาคมขนาดใหญ่ ที่สามารถตัดการโจมตีจากภายนอกออกไปได้ จึงทำให้นักปรุงยาทั้งหลายที่กำลังแข่งขันไม่ได้รับผลกระทบและทำการแข่งขันต่อไป

กู้ชูหน่วนเงยหน้าขึ้นมองบนท้องฟ้า ชาดอกลำโพงที่เบ่งบานในอากาศราวกับมีดวงตา มันไล่ล่าเยี่ยจิ่งหานเพื่อโจมตี แต่กลับถูกมังกรไฟกำลังภายในของเยี่ยจิ่งหานพุ่งยิงออกไป

ทั้งสองต่างไม่ลดละและยอมแพ้ซึ่งกันและกันเลย ยิ่งต่อสู้ยิ่งดุเดือดอย่างมาก

กู้ชูหน่วนรู้สึกเหนื่อยใจกับพวกเขาอย่างมาก

สองคนนี้เกิดปีจอหรือยังไงนะ?

เหตุใดเจอหน้ากันทุกครั้งก็ต้องทะเลาะกันทุกครั้งไป

แม้แต่สุนัขยังไม่กัดเก่งเท่าพวกเขาเลย

เมื่อเห็นว่าเวลาไม่พอแล้ว รวมไปถึงวิทยายุทธของเยี่ยจิ่งหานและจอมมารนั้นสูสีกันอย่างมาก ใครก็ไม่อาจทำอะไรใครได้ กู้ชูหน่วนไม่ได้สนใจพวกเขา จากนั้นจึงรีบวิ่งไปกลางเวทีแข่งขันและหาภาชนะว่างเปล่า จากนั้นหยิบสมุนไพรทั้งหมดออกมาจากวงแหวนอวกาศและนำสมุนไพรทุกอย่างมาโขกให้ละเอียด

“ปัง ปัง ปัง……”

ก้อนอิฐในหุบเขาตันหุยกระเด็นกระจายกระจายไปทั่วและตกกระแทกกับพื้น ทิ้งหลุมลึกขนาดใหญ่ไว้

ผู้อาวุโสเจี่ยรีบพูดขึ้นมา “ท่านผู้นำแห่งหุบเขา ไม่เช่นนั้นให้พวกเขาหยุดก่อนเถอะ หากยังต่อสู้กันไปเช่นนี้ เกรงว่า……”

น่าหลานหลิงลั่วกุมขมับแน่น

เขาก็อยากให้พวกเขาหยุดลง

แต่สิ่งสำคัญก็คือ พวกเขาจะฟังเขาหรือ?

พวกเขาไม่ให้เกียรติเขาเลยแม้แต่นิดเดียว

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท