กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ – บทที่ 613

บทที่ 613

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 613
กู้ชูหน่วนเหลือไว้เพียงเล็กน้อย จากนั้นก็เดินไปที่จวนแม่ทัพ

จวนแม่ทัพไม่ได้มีสง่าราศีเหมือนจวนอื่น ๆ แต่โอ่อ่าและเงียบสงบ

มีเวรยามสองคนยืนอยู่ที่หน้าประตู และเมื่อนางเข้าไปใกล้ก็ถูกขวางไว้ในทันที

“โปรดแจ้งคุณชายเซี่ยว เซี่ยวอวี่เซวียน ว่ากู้ชูหน่วนเพื่อนของเขามาหาเขา”

“กู้ชูหน่วน?คุณหนูสามของจวนอัครเสนาบดี พระชายาของหานอ๋อง เทพแห่งสงคราม?”

เวรยามทั้งสองมองซ้ายมองขวา

ทำไมพระชายาหานถึงแต่งกายเป็นบุรุษ?

“แม่นาง ไม่ว่าท่านจะเป็นพระชายาหานหรือไม่ ข้าต้องขอโทษด้วย ช่วงไม่กี่วันมานี้คุณชายเซี่ยวไม่รับแขก”

“ทำไม?”

“นี่……ไม่ได้บอกไว้ เชิญท่านกลับไปเถิด” ไอรีนโนเวล

ท่าทีของเวรยามยังคงให้ความเคารพ แต่จากสายตาของพวกเขา ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่เชื่อว่านางคือพระชายาหาน

ก็จริง นางแต่งกายเช่นนี้ และไม่มีผู้ติดตามแม้แต่คนเดียว ใครจะไปเชื่อ

” เอี๊ยดอ๊าด ” ประตูจวนแม่ทัพถูกเปิดออก ชายที่ท่าทางสุภาพเรียบร้อยคนหนึ่ง และชายในชุดสีเขียวครามก็เดินออกมา

ชายผู้นี้อายุเพียงยี่สิบต้น ๆ ในมือของเขาถือพัด หน้าตางดงามและสง่าผ่าเผย

“คุณชายรอง” คนรับใช้ทั้งสองทำความเคารพ

ชายผู้นั้นสะบัดพัดเพื่อบอกใบ้ให้พวกเขาลุกขึ้น

ตั้งแต่ตอนที่เดินออกไป เขาก็สังเกตเห็นกู้ชูหน่วนแล้ว

กู้ชูหน่วนแต่งกายเป็นบุรุษอย่างเร่งรีบ และมัดผมเป็นช่อ จึงเป็นเรื่องง่ายที่จะทำให้ผู้อื่นรู้ว่านางเป็นสตรีที่แต่งกายเป็นบุรุษ

นางเหยียดหลังตรง นัยน์ตาเป็นประกาย ฟันขาว และใบหน้างดงามมากเสียจนไม่มีใครเทียบได้

แม้ว่านางจะไม่พูดและยืนอยู่ตรงนั้น นางก็มีความสง่าผ่าเผยเหนือสวรรค์ทั้งเก้า มีเกียรติสูงส่ง ไม่ว่าใครก็ไม่อาจดูหมิ่นได้

เซี่ยวอวี่โหลวคำนับ รอยยิ้มจาง ๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเขา และกล่าวอย่างอ่อนโยน “ผู้น้อยเซี่ยวอวี่โหลว ไม่ทราบว่าแม่นางคือ…….”

“กู้ชูหน่วน”

เซี่ยวอวี่โหลวตกตะลึงเล็กน้อย และยิ้มราวกับบัวหิมะในภูเขาน้ำแข็งที่เบ่งบานในชั่วข้ามคืน

“ที่แท้ก็เป็นท่าน ได้ยินชื่อเสียงมานานแล้ว น่าเสียดายตอนที่การชุมนุมแข่งขันวิชาการถูกจัดขึ้น ผู้น้อยมีเรื่องต้องทำ จึงไม่ได้ไปเข้าร่วม และพลาดการประชันครั้งใหญ่ไป พระชายาหานทรงมีปัญญาเป็นเลิศ ช่างน่าเลื่อมใสยิ่งนัก”

“เหอะ ๆ…… คุณชายรองเซี่ยว อาจารย์ซั่งกวนและคนอื่น ๆ เป็นสี่นักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ของใต้หล้า ผู้ที่มีความสามารถอันน้อยนิดเช่นข้าจะกล้าดีสอนจระเข้ว่ายน้ำได้อย่างไร”

กู้ชูหน่วนยิ้มอย่างลำบากใจ

คุณชายรองเซี่ยวและเซี่ยวอวี่หนานแทบจะแกะสลักออกมาจากแม่พิมพ์เดียวกัน แต่อุปนิสัยของพวกเขาแตกต่างกันมาก

นางชอบเซี่ยวอวี่หนานที่เรื่อยเฉื่อย ผู้ที่สุภาพเรียบร้อยเช่นนี้ น่ากลัวเกินไป

“พระชายาหานถ่อมตนแล้ว ความสามารถของพระชายาหานในการชุมนุมแข่งขันวิชาการ ต่อให้ผู้น้อยจะเข้าร่วมในวันนั้นก็คงต้องแพ้อย่างแน่นอน ผู้น้อยขอบังอาจถามว่าท่านได้รับการถ่ายทอดวิชาความรู้มาจากที่ใด ผู้น้อยต้องการที่จะไปศึกษา”

“นี่……เรียนด้วยตนเอง ว่าแต่ เซียวอวี่เซวียนอยู่ที่จวนหรือไม่?”

กู้ชูหน่วนไม่อยากพูดคุยกับเขามากนัก นางจึงรีบเปลี่ยนเรื่อง

ผู้คงแก่เรียนเช่นนี้ พูดคุยแต่เรื่องวรรณกรรมจริง ๆ ไม่ว่าอย่างไรก็สลัดไม่หลุด

“น้องชายของผู้น้อยอยู่ในจวน หากพระชายาหานมีธุระกับเขา ผู้น้อยจะพาท่านเข้าไป”

“เช่นนั้นก็ขอบคุณมาก”

“ไม่ต้องเกรงใจ พระชายาหานมาได้จังหวะพอดี ได้ยินมาว่าน้องชายของผู้น้อยสนิทสนมกับท่าน ไม่ทราบว่าพระชายาหานพอจะช่วยเกลี้ยกล่อมเขาได้หรือไม่”

“เกลี้ยกล่อมอะไร?”

“ฝ่าบาททรงมีพระราชโองการให้เขาแต่งงานกับกู้ชูอวิ๋น คุณหนูรองของจวนอัครเสนาบดีในวันมะรืนนี้ แต่น้องชายของผู้น้อยปฏิเสธ ท่านพ่อจึงทะเลาะกับเขาอยู่หลายครั้ง”

กู้ชูหน่วนตกตะลึงไปชั่วขณะหนึ่ง “แต่งงานกับกู้ชูอวิ๋น?หลังจากที่ทะเลาะกันคราวนั้น การแต่งงานก็ถูกยกเลิกไปแล้วไม่ใช่หรือ?”

“ขอรับ คราวก่อนการแต่งงานถูกยกเลิกไปแล้ว แต่คราวนี้เป็นพระราชโองการของฝ่าบาท และไม่อาจขัดต่อพระราชโองการ

เซี่ยวอวี่โหลวขมวดคิ้วเล็กน้อย

เขาก็ไม่อยากให้อวี่เซวียนแต่งงานกับคุณหนูรองตระกูลกู้เช่นกัน

คุณหนูรองตระกูลกู้ทำให้เขารู้สึกแย่มาก ๆ หญิงผู้นี้แสร้งยิ้ม และมีกลิ่นอายที่เย็นยะเยือกแผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างกาย หน้าเนื้อใจเสือ ทำให้คนมองไม่ออกว่านางเป็นคนอย่างไร

แต่สิ่งที่เขาแน่ใจก็คือคุณหนูรองตระกูลกู้ไม่ได้ตรงไปตรงมาเหมือนเช่นคุณหนูสามตระกูลกู้

นางไม่ได้อ่อนโยน จิตใจดี และมีคุณธรรมเหมือนอย่างคำร่ำลือ

เขาไปทูลขอต่อฝ่าบาท แต่ฝ่าบาทก็ทรงยืนกราน เขาจึงหมดหมดทาง

“ท่านต้องการให้ข้าเกลี้ยกล่อมให้เขาแต่งงานกับกู้ชูอวิ๋น?” หากต้องแต่งงานกับกู้ชูอวิ๋นจริง ๆ เซี่ยวอวี่เซวียนก็อย่าคิดว่าจะไม่มีชีวิตที่ดีได้

“การพบกันครั้งแรก ผู้น้อยไม่ควรขอร้องพระชายาหานเช่นนี้ แต่พระชายาหานสนิทสนมกับน้องชายของผู้น้อย คงจะไม่ทำให้น้องชายของผู้น้อยลำบากใจมากเกินไป” เซี่ยวอวี่โหลวยิ้มเล็กน้อย

กู้ชูหน่วนก็ยิ้มเช่นกัน

ชายผู้นี้สมกับที่เป็นหนึ่งในสี่นักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ของใต้หล้า เช่นเดียวกับกับอาจารย์ซั่งกวน เขาสามารถมองได้อย่างทะลุปรุโปร่งและพูดได้ดี

กู้ชูหน่วนตามเซี่ยวอวี่โหลวเข้าไปในจวน

ทุกอย่างในจวนทำให้นางประหลาดใจ

นางคิดว่าจวนแม่ทัพจะมีการคุ้มกันอย่างแน่นหนา มีการแกะสลักลวดลายบนโครงสร้างไม้อย่างวิจิตรงดงาม แต่หลังจากที่เข้ามา ที่นี่มีคนรับใช้น้อยมาก และที่เห็นก็เป็นคนชรา

ที่นี่ไม่มีดอกไม้ต้นไม้ใด ๆ ไม่ภูเขาปลอมที่มีน้ำไหล มีเพียงสวนผักใบเขียว

เมื่อเห็นว่ากู้ชูหน่วนงงงวย เซี่ยวอวี่โหลวก็อธิบายว่า “ท่านพ่อรักเหล่าทหารเสมือนบุตร ชาย และคำนึงถึงแต่ใต้หล้า เขาเอาเงินทั้งหมดไปเพื่อเตรียมเสบียงทหาร และไม่ยากจะสิ้นเปลืองเงินในการจ้างคนรับใช้ ในจวนจึงมีเพียงคนรับใช้ที่แก่ชรา ประการแรกคือให้ที่อาศัยแก่คนชราเหล่านั้น ประการที่สองคือมีคนช่วยดูแลความเรียบร้อยของจวน”

กู้ชูหน่วนรู้สึกอึดอัดใจ และกล่าวอย่างไม่เต็มใจว่า “จวนแม่ทัพช่างมีเอกลักษณ์เสียจริง”

“ใช่ขอรับ ท่านพ่อมักจะบอกว่าการปลูกดอกไม้ต้นไม้เหล่านั้น นอกจากเปลืองพื้นที่ แล้วยังไร้ประโยชน์ สู้ปลูกผักสวนครัวเสียจะดีกว่า เช่นนี้จะได้แบ่งให้ประชาชนที่ตกทุกข์ได้ยากได้กินด้วย กล่าวอย่างไม่เกรงว่าพระชายาหานจะขบขัน ผักพวกนี้ เมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยวก็จะเก็บไว้ให้คนในจวนไม่ถึงหนึ่งส่วน และที่เหลือก็จะให้ประชาชน อีกทั้งพวกเราพี่น้องยังถูกท่านพ่อยึดเบี้ยหวัด และมักจะหิวโหยจนต้องเกาะคนอื่นกิน ในตอนนี้เมื่อเพื่อน ๆ พบผู้น้อย แต่ละคนก็จะหลบออกไปให้ไกล”

เซี่ยวอวี่โหลวมักจะมีรอยยิ้มจาง ๆ ที่มุมปากของเขา

ในขณะที่เขากำลังพูดเรื่องน่าขายหน้า ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ ราวกับว่าผักให้ผักพวกนั้นแก่คนยากจน เขาก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง

เมื่อมองดูเสื้อผ้าบนร่างกายของเขา เป็นเสื้อผ้าที่ทำมาจากผ้าเนื้อหยาบ ยากที่จะคิดจริง ๆ ว่าเขาเป็นหนึ่งในสี่นักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ที่เลื่องลือไปทั่วทั้งใต้หล้า

ยิ่งคิดกู้ชูหน่วนก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ

หากแม่ทัพใหญ่เซี่ยวเป็นคนที่ชั่วร้าย นางก็คงต้องควักหัวใจของเขาออกมา และกลั่นเลือดออกมาจากหัวใจ

เห็นได้ชัดว่าแม่ทัพใหญ่เซี่ยวเป็นคนดีมาก ๆ

ซื่อสัตย์ รักชาติ รักเหล่าทหารเสมือนบุตรชาย ช่างเป็นคนดียิ่งนัก

“ถึงแล้ว นี่เป็นห้องนอนของน้องชายผู้น้อย พระชายาหานเชิญตามสบาย” เซี่ยวอวี่โหลวส่งกุญแจให้กู้ชูหน่วน เขายิ้มและเดินจากไปอย่างสง่างาม

ก่อนที่จะเข้าไปในห้อง นางก็ได้ยินเสียงเซี่ยวอวี่เซวียนตะโกนด้วยความโกรธ

“ไปให้พ้น ออกไปให้หมด ข้าจะบอกพวกเจ้าให้ว่าต่อให้ข้าตาย ข้าก็ไม่มีทางที่จะแต่งงานกับกู้ชูอวิ๋น”

กู้ชูหน่วนเหลือบมองที่ประตู นางหยิบกุญแจออกมาไขแล้วเปิดประตู

เมื่อกู้ชูหน่วนเงยหน้าขึ้นก็ต้องตกใจ

กู้ชูหน่วนตัวสั่น นางหลบไปแล้วตบหน้าอกของตนเอง จากนั้นก็กล่าวอย่างลังเล “ข้าตกใจแทบแย่ เสี่ยวเซวียนเซวียน เจ้าจะทำให้พี่ใหญ่ของเจ้าตกใจตายหรืออย่างไร?”

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์

None

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท