กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 620
กู้ชูหน่วนรู้สึกอึดอัดหายใจยากลำบาก
ความรู้สึกเช่นนี้ช่างทุกข์ทรมานเหลือเกิน
ในที่สุด พวกเขาก็มาถึงห้องโถง
ไกลออกไป กู้ชูหน่วนเห็นกู้ชูอวิ๋นและแม่ทัพใหญ่เซี่ยวกำลังพูดคุยอะไรกันอยู่ ดูไปแล้วช่างพูดคุยกันถูกใจเหลือเกิน จากนั้นกู้ชูอวิ๋นก็บอกลาอย่างสุภาพนอบน้อม
ในขณะที่เดินผ่านกัน นางและกู้ชูอวิ๋นได้สบตากัน
พี่น้องสองคนที่มีนิสัยต่างกัน เกิดเป็นแววตาที่ต่างกัน
คนหนึ่งมีความอยากรู้อยากเห็น
คนหนึ่งมีรอยยิ้มจางๆ
กู้ชูอวิ๋นยิ้มและกล่าวว่า “น้องสาม ไม่เจอกันเสียนาน ไม่คิดเลยว่าเราจะได้เจอกันที่จวนท่านแม่ทัพ”
“ใช่น่ะสิ ไม่เจอกันนาน ดูเหมือนพี่รองจะต่างไปจากเมื่อก่อนแล้ว” กู้ชูหน่วนหัวเราะคิกคัก
“น้องสามก็ต่างไปจากเมื่อก่อนไม่ใช่หรือ?”
ทั้งสองต่างกำลังหัวเราะ แต่ในรอยยิ้มนั้น กลับมีความหมายอื่น
เซี่ยวอวี่เซวียนมองไม่ออกถึงความหมายในแววตาของพวกนางและพูดแทรกขึ้นมา “กู้ชูอวิ๋น เราสองคนได้ยกเลิกการหมายหมั้นแต่งงานแล้ว เหตุใดเจ้าถึงยังมาที่บ้านของข้าบ่อยครั้งเช่นนี้?”
“เซวียนเอ๋อร์ ข้าได้รับนางเป็นลูกสาวบุญธรรมแล้ว ตั้งแต่วันนี้ไปนางก็คือน้องสาวบุญธรรมของเจ้า เจ้าพูดจาอะไรเกรงใจเสียบ้าง”
แม่ทัพใหญ่เซี่ยวก้าวเดินไปข้างหน้า ทำสีหน้าขุ่นเคืองและจ้องมองไปยังเซี่ยวอวี่เซวียน
“ท่านพ่อ นางมาที่จวนแม่ทัพเพราะมีเหตุผลอย่างอื่นไม่ดีแน่ๆ เหตุผลท่านถึงเชื่อผู้หญิงที่เสแสร้งคนนี้ด้วย”
“คุณชายเซี่ยว ท่านพูดถึงข้าเช่นนี้ได้อย่างไรกัน ข้าเพียงแค่เคารพยกย่องในตัวท่านแม่ทัพใหญ่เซี่ยว ข้าถึงได้มาที่จวนแม่ทัพบ่อยครั้งเช่นนี้”
“ฮึ เคารพยกย่องอะไรกัน เป็นคนในเมืองหลวงเช่นกัน ในเมื่อเจ้าเคารพยกย่องเช่นนี้ เหตุใดเมื่อก่อนถึงไม่เคยมาเลยล่ะ”
“เมื่อก่อนข้าไม่รู้ความสัมพันธ์ระหว่างท่านแม่ทัพใหญ่และตระกูลของข้า ฉะนั้นจึง……”
กู้ชูอวิ๋นทำให้เซี่ยวอวี่เซวียนโกรธจนตาแดงก่ำและร้อนรนอยากจะเข้าใจอะไรให้ได้ แต่กลับไม่รู้จะพูดออกมาอย่างไร ดูไปแล้วช่างทำให้คนอื่นอดสงสารไม่ได้เหลือเกิน
เมื่อแม่ทัพใหญ่เซี่ยวเห็นสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ไม่รู้ว่าในใจของเขากำลังคิดอะไรอยู่ถึงได้ตะโกนชี้หน้าดุด่าออกมา “บัดซบ ต่อไปห้ามเสียมารยาทกับคุณหนูรองกู้อีก ต่อไปนี้จวนแม่ทัพของข้าก็เป็นบ้านของคุณหนูรองกู้ นางอยากจะมาก็มา อยากไปก็ไป ใครก็ไม่มีสิทธิ์ขัดขวางนาง แต่คุณหนูสามกู้ เจ้ากลับมาที่จวนแม่ทัพบ่อยครั้งเช่นนี้ ไม่ทราบว่าเจ้ามีจุดประสงค์อะไรหรือ? ต้องการคิดหาวิธีให้ฝ่าบาทยกเลิกการหมั้นหมายหรืออะไรกันแน่?”
ดวงตาของกู้ชูหน่วนหรี่ลง
กู้ชูอวิ๋นพูดอะไรกับแม่ทัพใหญ่เซี่ยวกันแน่ เหตุใดแม่ทัพใหญ่ถึงได้ปกป้องนางเช่นนี้?
“ท่านพ่อ ข้าเพียงแค่ขอร้องให้แม่สาวอัปลักษณ์ไปในวังเพื่อเข้าพบฝ่าบาทและยกเลิกการแต่งงาน หากท่านจะโทษก็โทษข้า”
“เจ้ามันคนสารเลว รอดูว่าประเดี๋ยวข้าจะจัดการกับเจ้าอย่างไร”
กู้ชูอวิ๋นมองไปยังทุกคนและค่อยๆ โค้งคำนับ “ท่านแม่ทัพใหญ่ ใกล้จะถึงเวลาเข้าเรียนที่สำนักศึกษาแล้ว ชูอวิ๋นอยู่ที่จวนแม่ทัพใหญ่ต่อไปก็ไม่เป็นที่ต้อนรับ เช่นนั้นชูอวิ๋นลากลับก่อนเจ้าค่ะ”
“ได้” ใบหน้าที่โกรธโมโหของเแม่ทัพใหญ่เซี่ยวจึงได้ค่อยๆ บรรเทาขึ้น
หลังจากที่กู้ชูอวิ๋นจากไป กลิ่นของดินปืนก็เพิ่มขึ้นอีกครั้ง
เซี่ยวอวี่เซวียนกล่าวว่า “ท่านพ่อ กู้ชูอวิ๋นผู้หญิงคนนั้นปากไม่ตรงกับใจ ท่านอย่าถูกนางหลอกเลย”
“มานี่ รีบพาคุณชายน้อยกลับไปที่ห้อง หากไม่มีคำสั่งของข้า ห้ามปล่อยเขาออกมา”
“ขอรับ”
ทหารองครักษ์จำนวนหนึ่งมานำตัวของเซี่ยวอวี่เซวียนออกไป เซี่ยวอวี่เซวียนโกรธจนตะโกนด่าทอออกมา “ตาแก่ ท่านทำเพื่อคนนอก โดยการกักบริเวณข้าอีกครั้ง ในหัวใจของท่าน ลูกชายของท่านเทียบไม่ได้เลยกับคนนอกอย่างนั้นหรือ? ปล่อยข้า ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้”
ไม่พอเซี่ยวอวี่เซวียนจะด่าทอเช่นไรก็ยังถูกหามออกไปอยู่ดี แม่ทัพใหญ่เซี่ยวกวาดสายตามายังกู้ชูหน่วนที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิม น้ำเสียงที่เยือกเย็นและท่าทางที่ไม่เป็นมิตร “ไม่ทราบว่าพระชายาหานยังมีธุระอะไรอีกหรือ?”
“ท่านแม่ทัพใหญ่ ข้าสามารถพูดคุยกับท่านเป็นการส่วนตัวได้หรือไม่?”
กู้ชูหน่วนโค้งคำนับอย่างนอบน้อมด้วยท่าทางสุภาพอ่อนโยนและมีแววตาขอร้อง
เดิมทีแม่ทัพใหญ่เซี่ยวต้องการจะไล่นางออกไป แต่เมื่อกู้ชูหน่วนก้มตัวโค้งคำนับ ซึ่งถือเป็นมารยาทระดับสูงสุดของรัฐเยี่ยเช่นนี้ ซึ่งคนปกติมักไม่ค่อยปฏิบัติกันง่ายนัก
เมื่อคำพูดของเขามาถึงปาก ก็ยังมีท่าทางการเชื้อเชิญ
กู้ชูหน่วนยิ้มเล็กน้อยและโค้งคำนับอีกครั้งหนึ่ง “ขอบคุณท่านแม่ทัพใหญ่”
หลังจากเข้าไปในห้อง กู้ชูหน่วนได้สังเกตการตกแต่งจัดวางภายในห้อง นี่คือห้องตำราที่มีตำราทางการทหารและการรบจำนวนมาก และยังมีชุดเกราะและอาวุธ
ชุดเกราะเปล่งรัศมีอันเยือกเย็น ภายนอกนั้นมีรอยขีดข่วนจำนวนมาก คาดว่าชุดเกราะนี้คงติดตามเขานำทัพไปออกรบมาเป็นเวลาหลายปี ร่องรอยและรอยขีดข่วนบนชุดเกราะนั้นก็มาจากสนามรบเช่นกัน
“พระชายาหานมีเรื่องอะไรพูดมาตามตรงได้เลย ที่นี่นอกจากข้าและเจ้าแล้ว ไม่มีผู้อื่นอีก”
นับว่าแม่ทัพใหญ่ยังมีความเกรงใจอยู่บ้างและสั่งให้คนจัดเตรียมน้ำชามาให้นาง จากนั้นจึงค่อยๆ พูดขึ้นมา
กู้ชูหน่วนดมกลิ่นหอมของชา ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ชาชั้นดี แต่รสชาติก็นับว่ากลมกล่อม
เพียงแต่……
ในฐานะที่เป็นหมอ นางรับรู้ได้ว่าน้ำชาที่แม่ทัพใหญ่เซี่ยวดื่มนั้น รสชาติไม่เหมือนของนาง อีกทั้งยังผสมไปด้วยยาพิษประเภทเรื้อรังหลายชนิด
กู้ชูหน่วนกล่าวว่า “ท่านแม่ทัพใหญ่ ดูเหมือนว่าน้ำชาของท่านจะไม่เหมือนของข้า?”
แม่ทัพใหญ่เซี่ยวคิดว่า กู้ชูหน่วนคิดว่าเขาเก็บชาชั้นดีเอาไว้ให้ตัวเอง และให้ชารสแย่กับนาง
จากนั้นจึงอธิบายว่า “ชาของข้าเป็นเพียงชาเถี่ยกวนอินคุณภาพต่ำ เพราะช่วงนี้ข้าค่อนข้างกระสับกระส่าย จิตใจไม่จดจ่อและนอนหลับไม่ดี ฉะนั้นจึงใส่ยาลงไปในน้ำชา น้ำชาของพระชายาหานเป็นชาเถี่ยกวนอินคุณภาพกลาง และถือเป็นชาชั้นดีที่สุดของจวนแม่ทัพของข้าแล้ว”
กู้ชูหน่วนเชื่อที่เขาพูดออกมา
แม่ทัพใหญ่เซี่ยวคงจะจัดเตรียมชาชั้นดีที่สุดของจวนแม่ทัพใหญ่มาให้
ตระกูลของเขายากจน ชาชั้นดีนั้น เกรงว่าคงจะทำใจซื้อมาไม่ได้
“ไม่ทราบว่าในน้ำชาของท่านแม่ทัพใหญ่ใส่ยาสมุนไพรอะไรไปบ้าง ข้าได้กลิ่นหอมเหลือเกินและอยากลองชงดื่มสักหน่อย เพื่อดื่มเป็นบุญน่ะเจ้าค่ะ”
นางยิ้มออกมา กิริยาท่าทางยังคงนอบน้อมและสุภาพ ไม่ได้ดูหาเรื่องเลย
ท่าทางอันเย็นชาของแม่ทัพใหญ่เซี่ยวดูผ่อนคลายลงเล็กน้อย “คาดว่าใส่ฉาเถิงเซียง ม่านเฉ่าและจ้าเครือกระมัง”
“ข้าดมดูแล้ว ดูเหมือนจะมีกลิ่นของหญ้าฉีหลัวด้วย”
แม่ทัพใหญ่เซี่ยวตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง
หญ้าฉีหลัว ดูเหมือนว่าในน้ำชาจะไม่มีกลิ่นของยาสมุนไพรนี้นี่นา
“พระชายาหาน เจ้าต้องการพูดอะไร พูดออกมาตามตรงเลยดีกว่า”
“ช่วงนี้ท่านแม่ทัพใหญ่มีอาการฝันร้ายติดต่อกันหรือไม่ หรือรู้สึกกระสับกระส่าย วิตกกังวล และมีอาการปวดหัวเล็กน้อยและปวดกระดูกหรือไม่”
หางตาของแม่ทัพใหญ่เซี่ยวเปล่งรัศมีความเย็นชา เผยให้เห็นรัศมีของเขาในฐานะแม่ทัพ
กู้ชูหน่วนกล่าวว่า “ข้าไม่ได้มีเจตนาหาเรื่องแต่อย่างใด เพียงแต่ในน้ำชาของท่านแม่ทัพใหญ่นั้นมีสมุนไพรยาเหล่านี้ที่เมื่อรวมเข้าด้วยกันจะกลายเป็นยาพิษเรื้อรังประเภทหนึ่ง มันทำให้คนเข้าสู่ความตายอย่างไม่รู้ตัวและเปลี่ยนกระบวนการความคิด”
“พูดจาเหลวไหล”
“หากท่านแม่ทัพใหญ่ไม่เชื่อที่ข้าพูดไป ท่านสามารถเชิญหมอหลวงมาตรวจสอบชานี้ได้ ถึงแม้ว่ามีหลายตัวยาสมุนไพรที่เหมือนกันและคนปกติมักแยกไม่ออก แต่หากเป็นหมอผู้มีความเชี่ยวชาญมาตรวจสอบละก็ เช่นนั้นก็สามารถตรวจสอบออกมาได้”
“พระชายาหานยังมีเรื่องอะไรจะพูดอีกหรือไม่?”
“ไม่เช่นนั้นท่านแม่ทัพใหญ่เชิญหมอหลวงมาตรวจสอบก่อนจะดีกว่า ส่วนเรื่องที่ข้าจะขอร้องนั้น จำเป็นต้องอยู่ภายหลังการตรวจสอบน้ำชาเสียก่อน”
เดิมทีกู้ชูหน่วนอยากจะพูดออกไปตามตรง โดยเล่าเรื่องของเผ่าหยกให้เขาฟัง
แต่จากท่าทางของแม่ทัพใหญ่แล้วนั้น เขาไม่มีทางตอบตกลงนางอย่างแน่นอน